Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์15 มีนาคม 2553
ฮุนไดคิดใหม่ ใช้นิชมาร์เก็ตสร้างแบรนด์             
 


   
search resources

Automotive
ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์), บจก.




ฮุนไดเปลี่ยนวิธีคิด เริ่มสร้างแบรนด์ใหม่ด้วยตลาดนิชมาร์เก็ต อาศัยรถตู้เอนกประสงค์ H-1 เป็นที่มั่นสำคัญหลักทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ เลิกทำตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางชั่วคราว หันมาเปิดตลาดรถยนต์ SUV ที่ดูจะมีอนาคตกว่า เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้เด่นขึ้นมา รับแผนรุกรถยนต์ เอเซ็กเมนท์ ชนตลาดอีโคคาร์ปลายปี

ทูซอน รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ SUV จะเป็นรุ่นใหม่ที่ฮุนได มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งเข้ามาทำตลาดเป็นรุนแรกของปีนี้ แผนการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ทั้งหมด 3 รุ่น ปัจจุบันฮุนไดมีตลาดหลักคือรถยนต์รุ่น H1 ในตลาดรถตู้เอนกประสงค์ โดยมียอดขายสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน

ขณะที่รถยนต์รุ่น โซนาต้า ในเซ็กเมนท์รถยนต์นั่งขนาดกลาง และเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ฮุนได มอเตอร์ (ประเทศไทย) ใช้เป็นผลิตภัณฑ์นำร่องในการพลิกพื้นแบรนด์ฮุนได จะยกเลิกการทำตลาดชั่วคราว โยชิซึมิ คุราตะ ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด บอกว่า ได้หยุดการขายโซนาต้าแล้ว หลังความต้องการตลาดลดลง และส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ฮุนได เกาหลี ได้เปิดตัวโซนาต้า รุ่นโมเดลเชนจ์เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ลูกค้าส่วนใหญ่ชะลอการซื้อโฉมปัจจุบันที่ทำตลาดในไทย เพื่อรอโซนาต้ารุ่นใหม่ ซึ่งในส่วนนี้ฮุนได ประเทศไทยอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทแม่ในการทำตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางใน อนาคต

การแทนที่ด้วยรถยนต์ SUV จึงเป็นเส้นทางการสร้างความมั่นใจของลูกค้าต่อแบรนด์ฮุนได ในเมืองไทยอีกครั้ง แม้จะเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับเซ็กเมนท์รถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่ต้องเจอกับคู่แข่งรายใหญ่จากญี่ปุ่นคือ โตโยต้า คัมรี, ฮอนด้า แอคคอร์ด และนิสสัน เทียน่า ในเซ็กเมนท์รถยนต์ SUV อาจสร้างโอกาสได้ดีกว่า

ฮุนได ค้นพบแล้วว่า ตลาดนิชมาร์เก็ตเมืองไทยสามารถสร้างการยอมรับได้ดีกว่า ตลาดแมส ด้วยผลสำเร็จของฮุนได H1 ที่ทำยอดขายสูงกว่า 1,000 คันในปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นเซ็กเมนท์เล็กแต่ก็มีคู่แข่งน้อยด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ฮุนไอ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จึงเตรียมส่งรถ SUV อีก 1 รุ่นคือแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ เข้ามาเสริมตลาด

การมี SUV ถึง 2 รุ่นในตลาด เป็นการสร้างความได้เปรียบให้กับฮุนได ในด้านความหลากหลายผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญคือทั้ง 2 รุ่นเป็นรถยนต์นำเข้า ขณะที่โซนาต้า เดิมเป็นรถยนต์ที่ประกอบในประเทศซึ่งอาจมีต้นทุน และรายละเอียดในขั้นตอนการผลิต โดยทูซอน เป็นการนำเข้าจากเกาหลี และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์จะนำเข้าจากอินโดนีเซีย ซึ่งจะได้ประโยชน์จากภาษีนำเข้า 0% ของเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า

เป้าหมายสำคัญของ SUV ทั้ง 2 รุ่นอาจไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขยอดขาย แต่เป็นการเสริมแบรนด์ฮุนได ในเมืองไทยให้แข็งเกร่งยิ่งขึ้น และที่ผ่านมาฮุนได H-1 ก็สร้างได้จนเป็นผลสำเร็จมาแล้ว แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะเป็นผลต่อการบุกตลาดรถยนต์ในขนาด เอ เซ็กเมนท์ ของฮุนได I 10 ที่จะนำเข้าจากมาเลเซีย มาเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้

ฮุนได I 10 เป็นแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แน่นอนว่า จะต้องทำตลาดแข่งกับรถยนต์จากโครงการอีโคคาร์ อย่างนิสสัน มาร์ช ที่เปิดตัวแล้ว และยังต้องแข่งกับรถยนต์ในระดับเดียวกันจากมาเลเซียอย่างโปรตอน ดังนั้นการสร้างความเชื่อมั่นก่อนจะบุกเข้าไปในเซ็กเมนท์ดังกล่าวจึงมีความ สำคัญอย่างมาก ตลาด SUV เป็นเหมือนการเตรียมแบรนด์ให้พร้อม

นอกจากนี้การที่รถยนต์ฮุนได เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ของการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ FIFA World Cup 2010 ประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นแรงเสริมในการสร้างการรับของรถยนต์และ แบรนด์ฮุนไดต่อผู้บริโภค ซึ่งฮุนได มอเตอร์ประเทศไทยเองก็ เตรียมจัดกิจกรรมมากมาย พร้อมของรางวัลพิเศษๆ อาทิ กิจกรรมพบลูกค้าและแจกของที่ระลึกให้กับผู้ใช้รถผ่านสื่อต่างๆ ด้วยเช่นกัน

ส่วนฐานการตลาดที่สำคัญของธุรกิจรถยนต์คือ ตัวแทนจำหน่ายนั้น ในปีนี้ฮุนไดมีแผนจะเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มจาก 19 แห่ง เป็น 30 แห่งทั่วประเทศ

ดังนั้นในปีนี้รถยนต์ฮุนได ที่จะบุกตลาดทั้ง 3 รุ่น จึงเป็นเครื่อง และตัวชี้วัดอนาคตของรถยนต์ฮุนได ในเมืองไทยว่าจะสามารถกลับมาเป็นที่นิยมในตลาด และผงาดขึ้นมาเทียบชั้นกับรถยนต์จากญี่ปุ่นได้มากน้อยเพียงใด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us