Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2529
เขาชื่อธาดา แต่แม่บ้านเรียกเขามิสเตอร์บรีส             
 


   
search resources

ลีเวอร์บราเธอร์
ธาดา เต็มบุญเกียรติ




เขาคือธาดา เต็มบุญเกียรติ

จนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2529 เขามีอายุแค่ 52 ปี ชั่วชีวิตของเขาทำงานด้านสื่อสารมวลชนและการโฆษณา เริ่มเป็นที่รู้จักแก่วงการทั่วไปก็ตอนที่เขาเป็นนักจัดรายการวิทยุตั้งแต่รายการอาทิตย์ยิ้ม มาจนถึงรายการอาทิตย์อุทัยเป็นรายการสุดท้าย

จะว่าไปแล้วรายการวิทยุได้จุดชีวิตของเขาเป็นที่รู้จัก แต่หากที่เขาโด่งดังจริง ๆ มาอยู่ที่จอแก้ว และที่สำคัญเป็นรายการแสดงเป็นการค้าอย่างแท้จริง

ธาดา เมบุญเกียรติ น้อยคนนักที่จะรู้จักชื่อนี้ แต่หากเอ่ยถึงมิสเตอร์บรีสแล้ว ชาวไทยเกือบทั่วประเทศรู้จักดี โดยเฉพาะแม่บ้านซึ่งฝันว่าสักวันชายกลางคน เสียงเสน่ห์คนนี้จะมาสัมภาษณ์เธอออกทีวีว่าใช้ผงซักฟอกบรีสเป็นอย่างไร?

งานนี้ธาดาได้ชื่อ ได้เงินค่าจ้างในฐานะนายแบบอมตะคนหนึ่งของเมืองไทย แต่ผู้อยู่เบื้องหลังที่ได้ผลประโยชน์อย่างเต็มกอบเต็มกำ คือบริษัทลีเวอร์บราเธอร์ (ประเทศไทย)

การที่บรีสแซงแฟ็บ มาเป็นสินค้าผงซักฟอกที่ได้รับความนิยมสูงสุดนั้น ธาดา เต็มบุญเกียรติเป็นแรงหนึ่งในการสร้างความสำเร็จนี้อย่างมิต้องสงสัย

เขาเป็นมิสเตอร์บรีสอยู่เกือบ 20 ปี

เมื่อเร็ว ๆ นี้เจ้าหน้าที่ของบริษัทอาเยนซีโฆษณา-เอสเอสซีแอนด์บีลินตัสฯ ได้แสดงความวิตกกังวลว่าหากสิ้นเขาไปแล้ว คงลำบากไม่น้อยในการสร้าง "ภาพพจน์" ของบรีสใหม่ เหมือนจะเป็นลางสังหรณ์ หลังจากนั้นไม่นาน ธาดา ก็ต้องจากโลกไปไม่มีวันกลับ

เขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2529 พร้อม ๆ กับมิสเตอร์บรีสได้หายไปจากจอแก้ว เปลี่ยนเป็นการสัมภาษณ์แม่บ้านที่ตัดต่อไม่ให้เห็นมิสเตอร์บรีส (ธาดา) อีกต่อไป โดยมีเสียงพูดเป็นแบ็คกราวน์ ซึ่งดูพยายามให้คล้ายเขา

วินิจ สุรพงศ์ชัย กรรมการผู้จัดการบริษัทเอสเอสซี แอนด์บี ลินตัส ออกมาแสดงความเห็นว่าการจากไปของธาดาไม่มีผลต่อการโฆษณาของบรีส ซึ่งช่างขัดแย้งกับคำพูดเมื่อเดือนก่อน "เป็นธรรมดาครับ ถ้าพูดว่าสะเทือนก็แสดงว่าตนเองบ่มิไก๊" คนนอกที่รู้เรื่องวงการโฆษณาดีคอมเมนต์

อย่างไรก็ตามวินิจก็ยังจะคงจะรักษาสไตล์การโฆษณาแบบเดิมเอาไว้ โดยจะเฟ้นหาผู้สัมภาษณ์รายใหม่

เมื่อวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2529 ณ ฌาปนสถาน กองทัพบก วัดโสมนัสวิหาร เวลาบ่าย ๆ บรรดาเพื่อนพ้องญาติพี่น้องของธาดา เต็มบุญเกียรติ ได้มากันมากหน้าหลายตา ประมาณกว่า 200 คน ในจำนวนนี้มีพนักงานจากบริษัทยูนิฟูดส์--บริษัทจำหน่ายผงซักฟอกบรีสของลีเวอร์บราเธอร์ (ประเทศไทย) และอาเยนซีของเขา--เอสเอสซีแอนด์บีลินตัสฯ ร่วมอยู่ด้วย

ท่ามกลางชุดสีดำ-ขาว อันแสดงความคารวะต่อผู้เสียชีวิต ซึ่งกำลังจำไปสู้สัมปรายภพคราคร่ำในงานนั้น ปรากฏชายฉกรรจ์ในชุดสีฟ้า กระเป๋าหน้าอกเสื้อมีตราพรรคการเมืองที่มี ส.ส. มากที่สุดใน กทม. เมื่อสมัยที่แล้วเพ่นพ่านอยู่นับสิบคน

คนที่รู้จักธาดาก็ย่อมถึงบางอ้อเพราะเขาเคยเป็น สส. ในนามพรรคนี้มาก่อน และเผอิญเหลือเกินที่ความดังของเขาไม่อาจเทียบกับหัวหน้าพรรคได้ คนจึงไม่ค่อยรู้จักว่าเขาเคยเป็น สส. กับเขาเหมือนกัน

หนังสืองานศพของธาดาปรากฏข้อเขียนของสมัคร สุนทรเวช ซึ่งคัดลอกมาจากคอลัมน์ "มุมน้ำเงิน" ใน นสพ. เดลิมิเรอร์ ซึ่งทำให้เราไดรู้จักธาดาอีกแง่มุมหนึ่ง

"…คุณธาดาเป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ตอนที่คุณธาดายังเรียนอยู่ที่นั่น พี่ชายคุณธาดาชื่อคุณวัลลภเป็นนักเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์รุ่นก่อนผม 2 ปี

ตอนที่น้องชายผมสองคนไปเข้าเรียนจุฬาฯ พร้อม ๆ กันเมื่อ พ.ศ. 2500 นั้นคนที่ไปเรียนคณะวิทยาศาสตร์และใคร ๆ ทุกคนในคณะวิทยาศาสตร์ก็รู้จักธาดา เต็มบุญเกียรติ เพราะคุณธาดาเป็นรีพีทเตอร์ที่มีตำแหน่งเป็นประธานเชียร์ของคณะวิทยาศาสตร์

เรียนอยู่จุฬาฯ ตอนนั้นพักหนึ่ง เลยออกไปเรียนต่อที่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ จบจากเทคนิคฯ ได้รับประกาศนียบัตรอาชีวชั้นสูงแล้ว คุณธาดาไปเป็นผู้จัดการรายการเพลงที่มีแฟนรายการกว้างขวางอยู่ที่สถานีวิทยุ ททท. ที่มีสถานีอยู่ที่สี่แยกคอกวัว จากนักจัดรายการเพลงก็กลายเป็นผู้อ่านข่าวเสียงดีที่ผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองคุ้นหูอยู่ที่ ททท. นั่นแหละ จนกระทั่งเมื่อสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 4 เกิดขึ้นแล้ว คุณธาดาก็มาทำงานอยู่วงการโทรทัศน์…"

"…ตอนที่คุณธาดา เต็มบุญเกียรติ มาร่วมทีมกับชาวประชากรไทยอีก 31 คนที่ลงสมัครร่วมกันในกรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2522 นั้น คุณธาดาเป็นคนดังที่มีคนรู้จักดีมากกว่าใคร ๆ

สมัครพูดถึงธาดาไว้ยืดยาวพอสมควร

"…เราเป็น สส. ฝ่ายค้านอยู่ในสภาด้วยกันมา 4 ปี ได้รู้ว่าคุณธาดาชอบดื่มเบียร์มากนิดหน่อย เมื่อตอนเตรียมการเลือกตั้งทั่วไปปี 2526 ผมได้รับรายงานจากแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพของคุณธาดาว่าจะมีปัญหา ถ้าหากคุณธาดาลงสมัครรับเลือกตั้ง คราวนั้นมีใครต่อใครหลายคนในพรรคไม่ได้รับการพิจารณาให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง และมีหลายคนแสดงความไม่พอใจถึงกับไปให้สัมภาษณ์ นสพ. ตอบโต้และไปสมัครลงเลือกตั้งในพรรคอื่น…" นี่อีกตอนหนึ่ง

สมัครบอกไว้ในข้อเขียนของเขาว่า พรรคประชากรไทยจะติดรูปธาดา เต็มบุญเกียรติไว้ที่พรรคในฐานะ สส. อีกคนหนึ่งของประชากรไทยที่จากไป

ในวันนั้น สมิตร สุทนทรเวช น้องชายสมัคร มาร่วมงานก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง เขากุลีกุจอ

เป็นพิเศษ

ตามกำหนดการ เวลา 14.00 น. เป็นเวลาที่พระราชทานเพลิงศพ

นาฬิกาของเรากับสมัคร สุนทรเวชเดินตรงกัน แต่นาฬิกาของวัดโสมนัสวิหารอาจจะเร็วกว่า 2-3 นาทีก็เหลือเดา

การดำเนินตามพิธีเริ่มก่อนเวลาในนาฬิกาของเราประมาณ 3 นาที นายแพทย์บุญเทียม เขมาภิรัตน์ รัฐมนตรีช่วยคมนาคม อดีต ส.ส. พรรคประชากรไทยคนสำคัญมาถึงเมื่อเวลาเริ่มทันที เขาไม่ได้รับความสนใจจากใครเท่าที่ควร ประธานในพิธีเป็นใครไม่ทราบ เริ่มดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนในงานทะยอยขึ้นเมรุแออัดยัดเยียด

ในเวลานั่นเอง รถเปอโยต์สีเทาคันหนึ่งมาจอดใกล้งานที่สุด ทันทีที่ประตูรถเปิด ชายหนุ่มร่างสันทัดคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหน้า หน้าตักมีผ้าไตรอยู่ ไม่มีใครสนใจมากนัก ชายหนุ่มกลางคน ๆ นั้นตะโกนเสียงอันดังเรียก รมช. บุญเทียม (เรียกชื่อเล่น ฟังไม่ชัดว่า "ป๊อก" หรืออะไร) นพ. บุญเทียมกุลีกุจอเข้าไปหาพร้อมเอ่ยปากโบกไม้โบกมืออย่างสุภาพ ห้ามไม่ให้ชายคนนั้นกล่าวเสียงดังท่ามกลางความโศกเศร้าในพิธีพระราชทานเพลิงศพอันสำรวม "ไม่เข้าท่า ๆ ๆ ๆ" ชายในรถสวมเสื้อสีฟ้ามีตราพรรคการเมืองที่หน้าอก พูดด้วยเสียงอันดังไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง

"ผมบอกว่าผมจะมาทอดผ้าไตร จะมาเป็นประธานให้ เขาทำพิธีก่อนเวลาหรืออย่างไร นาฬิกาของผมอีกตั้ง 3 นาที ผมบอกว่าผมจะมาพูดกันไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร" ชายคนนั้นพูดด้วยความโมโห แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร

นพ. บุญเทียม เจรจาอธิบายอยู่พักหนึ่ง ทั้งพยายามให้ลดเสียงอันไม่สุภาพ ในที่สุด นพ. บุญเทียมก็ปิดประตูรถ รถคันนั้นทะยานอย่างแรงออกจากงานนั้นไป

ชายคนนั้นที่มีผ้าไตรบนตักอยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น!!

ธาดาจะรู้หรือไม่ ว่าตัวเขาเอง มีชีวิตอยู่ได้ทำประโยชน์ให้กับคนหลาย ๆ คน หลายกิจการค้า ตั้งแต่บริษัทคอนซูเมอร์โปรดักส์ที่ใหญ่ มาจนถึงพรรคการเมือง ถึงใครจะปฏิเสธว่าการจากไปของเขาไม่สะเทือนก็ช่างเขาเถอะ นั่นเป็นวิถีทางธรรมดา ส่วนที่ใครที่จะมาหาประโยชน์จากงานศพของเขาก็ช่างเถิด

ขอให้วิญญาณสงบเถิด ผู้อยู่ย่อมดิ้นรนกันต่อไป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us