Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2529
มาบุญครองฯ อีกแล้ว เมื่อ"ศิริชัย" สวมบทบาทเจ้าของป้อมอลาโม่!             

 

   
related stories

เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ฟ้องมาบุญครอง และแล้ว…ยักษ์ใหญ่ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง

   
search resources

มาบุญครอง
ศิริชัย บูลกุล
Shopping Centers and Department store




วันนี้ศิริชัย บูลกุล แม้จะมีเรื่องวุ่น ๆ ให้ขบคิดมากมายท้าทายชื่อเสียงที่พ่อและเขาสั่งสมมาแต่อดีตอย่างมาก ด้วยวัย 47 ปี เขายังดูหนุ่มแน่นและแข็งแรงเพียงพอ และมีเวลามากพอจะฟันฝ่าต่อสู้กับอุปสรรคเหล่านั้น

ศิริชัยชอบอ่าน "สามก๊ก" ชอบนักเขียน-ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปาโมช และก็ชอบผู้นำอย่างจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ บางคนบอกว่า เขาคิดจะมีวิทยายุทธทางธุรกิจเหมือนขงเบ้ง ปรับตัวปรับความคิดเข้ากับสถานการณ์อย่างดี (อย่าใช้คำว่า "กะล่อน" เลย) เหมือนหม่อมคึกฤทธิ์ และมีการตัดสินใจเฉียบขาดเฉกเช่นจอมพลสฤษดิ์

ว่าไปแล้วเขาเดินไปสู่เป้าหมายนั้นกว่าครึ่งทางแล้ว

วันนี้เขาเป็นเจ้าของกิจการกว่า 20 บริษัท เป็นวุฒิสมาชิกและได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาวชิรมงกุฎไทย…นั่นเป็นความสำเร็จที่ใครก็มองข้ามไม่ได้…

ศิริชัยชอบเก็บตัว ไม่ชอบเป็นข่าวเหมือน ๆ กับนักธุรกิจไทย ประเภททำงานเงียบ ๆ รวยเงียบ ๆ

ปี 2528 พายุข่าวลือเริ่มกระหน่ำศิริชัย และยิ่งโหมแรงยิ่งขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2529 มาจนถึงปัจจุบัน เขากำลังเป็นเดวี่ ครอกเก็ต ที่สวมบทบาทโดยจอห์น เวย์น (ดาราภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบ) ผู้มีธรรมในหัวใจต่อสู้กับพวกอธรรมท่ามกลางทุ่งกว้างอย่างโดดเดี่ยวรักษาป้อม ALAMO ก็ไม่ปาน

หลายคนเชื่อว่า 2-3 ปีมานี้การที่ธุรกิจของเขา DIVERSIFIED ออกจากแนวเดิมมาก มาบุญครองเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าหินอ่อนมุมสี่แยกปทุมวันซึ่งเกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก และกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมันในอารมณ์ของผู้คนนั้น เป็นธุรกิจที่ขัดแย้งกับสไตล์การทำงานเดิมของศิริชัยอย่างมาก ๆ

ว่ากันว่าผลผลิตของข่าวลือเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งนี้

บริษัทมาบุญครองอบพืชและไซโลฯ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฐานะการเงินที่แสดง (ย่อมเผยแพร่ต่อสาธารณชน) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2528 แสดงให้เห็น (ตามรูปบัญชี) ว่ามีปัญหาทางผลประกอบการ (สินทรัพย์หมุนเวียน ในรูปของลูกหนี้การค้า วัสดุคงเหลือ 1.024 พันล้านบาท ในขณะที่สินทรัพย์หมุนเวียนในรูปเจ้าหนี้การค้า เงินเบิกเกินบัญชี และหนี้สินหมุนเวียนอื่น ๆ 2.83 พันล้านบาท)

ข่าวลือก็เริ่มกระหึ่มมาเป็นระลอกคลื่นตั้งแต่ตอนนั้น!

ข่าวดูจะเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาอีกนิดตอนที่บริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์ฯ ฟ้องเรียกค่าติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นเงินประมาณ 22 ล้านบาท (โปรดอ่าน "ผู้จัดการ" ปีที่ 3 ฉบับที่ 29 เดือนกุมภาพันธ์ 2529 เรื่อง "เบอร์ลี่ยุคเกอร์ฟ้องมาบุญครอง…และแล้วยักษ์ใหญ่ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง")

รายงานชิ้นที่ "ผู้จัดการ" แจงรายละเอียดถี่ยิบนั้น มีผลสะท้อนกลับมาพอประมาณ วิกรม ชัยสินธพ กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยสงวนเสรีวานิชวิศวกรม จำกัด ทำจดหมายชี้แจงมายัง "ผู้จัดการ" (สำเนาส่ง ศิริชัย บูลกุล ประธานกรมการบริษัทมาบุญครองอบพืชและไซโล จำกัด) "…การติดตั้งระบบโทรศัพท์เอ็นอีซีให้มาบุญครองนั้นบริษัทฯ ในฐานะผู้จำหน่ายและมาบุญครองในฐานะผู้ซื้อ ต่างก็ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงด้วยความถูกต้องทั้งสองฝ่าย จึงไม่เคยมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น"

ขณะเดียวกัน "ผู้จัดการ" ได้รับจดหมายลงทะเบียนไม่ระบุผู้ส่ง แต่เอกสารปะหน้าหัวกระดาษเป็นของบริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์ ปั๊มอักษรสีแดงว่า "CONFIDENTIAL" เอกสารกว่า 10 หน้ามีคำให้การของจำเลย (หมายถึงบริษัทมาบุญครองฯ) เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2529 จำนวน 9 หน้า อีกส่วนหนึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับการตรวจรับมอบงานของมาบุญครอง เห็นลายเซ็นของศิริชัย บูลกุล หราอยู่ เอกสารขอเบิกเงินจากฝ่ายธุรการของมาบุญครองเอง ฯลฯ เป็นต้น

ความคิดของ "ผู้จัดการ" ตอนนั้น ไม่ต้องการสืบสาวราวเรื่องเกินเหตุ ขอให้ศาลสถิตยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินถูกผิดเถอะ

ที่เขียนคราวนี้ก็ต้องการจะบอก "อะไรบางอย่าง" ถึงศิริชัย บูลกุล เท่านั้น!?

ต่อมาระยะหนึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ออกข่าวสนับสนุนเงินกู้อีกก้อนหนึ่งให้มาบุญครอง แต่ข่าวกลับไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร

พอล สิทธิอำนวย แห่งกลุ่ม พีเอสเอ. มีปัญหาในการขุดน้ำมันของเขา เล่นเอาหุ้นของมาบุญครองในตลาดหลักทรัพย์ตกรูด เนื่องจากเข้าใจกันว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทไทยออฟชอร์ ปิโตรเลี่ยมด้วยกัน มาบุญครองจำต้องออกมาแก้ข่าวเป็นพัลวัน

มิถุนายน ที่ผ่านมาผู้คนที่ "จับจ้อง" มาบุญครองมีอาการ "ช็อค" พอสมควร

ที่ศาลแพ่ง บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอ็มซีซี ฟ้องมาบุญครองฯ ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับตั๋วเงินจำนวน 5,151,232 บาท

และที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสรุปข่าวธุรกิจหลักทรัพย์นำรายงานงบการเงินของบริษัทมาบุญครองฯ มาแสดง ผู้ตรวจสอบบัญชีได้ระบุไว้ในรายงานซึ่งน่าสนใจ 2 จุด

หนึ่ง-"บริษัทได้ลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทไทยออฟชอร์ปิโตรเลี่ยม จำกัด เป็นจำนวนเงิน 70 ล้านบาท โดยบริษัทพีเอสเอ จำกัด ตกลงว่าจะซื้อหุ้นดังกล่าวกลับคืนในราคา 110 ล้านบาท และบริษัทยังได้ให้เงินกู้แก่บริษัทออฟชอร์ปิโตรเลี่ยม จำกัด เป็นจำนวนเงิน 33 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าปัจจุบันของหุ้นดังกล่าวข้างต้น และความสามารถที่จะชำระหนี้คืนนั้นไม่สามารถที่จะคาดคะเนได้อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอน นอกจากนี้บริษัทพีเอสเอ จำกัด ยังอาจจะไม่อยู่ในฐานะที่จะซื้อหุ้นดังกล่าวคืน และบริษัทก็มิได้มีการตั้งสำรองสำหรับมูลค่าของเงินลงทุนหรือเงินให้กู้ยืมแต่อย่างใด"

สอง-"ในขณะนี้บริษัทกำลังเจรจากับธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงหมายกำหนดการชำระเงินกู้ประเภทต่าง ๆ ที่ถึงกำหนดชำระ ดังนั้นมูลค่าของสินทรัพย์ถาวรและสินทรัพย์อื่น ๆ ที่แสดงในงบดุลจึงขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการเจรจาดังกล่าว…"

งบดุลที่แสดง-- หนี้สินหมุนเวียนในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกในปี 2528 ถึง 2 เท่า จาก 1,472 ล้านบาทเป็น 2,860 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้นจาก 394.3 ล้านบาท เป็น 978 ล้านบาท ที่สำคัญในไตรมาสแรกปี 2528 กำไรประมาณ 6 ล้านบาท แต่ไตรมาสแรกปี 2529 เริ่มขาดทุนครั้งแรก 23,000 บาท

นี่ถ้าไม่มีหมายเหตุความเห็นข้างต้น "ดีกรี" คงลดลงฮวบฮาบ

ไล่เลี่ยกันนั้น คืนวันที่ 10 มิถุนายน บริษัททำความสะอาดมาบุญครองฯ ฟองให้จ่ายเงินอีก!

บริษัทซีพีเอส (ประเทศไทย) บริษัทในเครือบอร์เนียว ประเทศไทย เป็นผู้รับจ้างทำความสะอาดอาคารมาบุญครองเซ็นเตอร์ทั้ง 8 ชั้น ฟ้องต่อศาลแพ่งเรียกเงินค้างจ่ายจำนวนถึง 3,649,234.41 (บวกดอกเบี้ย 7.5% จนถึงวันฟ้อง) กับมาบุญครองฯ

ว่ากันว่า ซีพีเอสได้พยายามทวงถามหนี้ก้อนนี้หลายครั้งหลายครา มาบุญครองฯ สวมบทบาทเหนียวหนี้อย่างเหนียวแน่น อย่างไรก็เป็นอย่างนั้น พีซีเอสจึงต้องพึ่งศาล ไม่เพียงเท่านั้นซีพีเอสได้ติดต่อกับหนังสือพิมพ์ และนิตยสารบางฉบับโดยเลือกเอาฉบับที่เคยลงเรื่อง "เบอร์ลี่ยุคเกอร์ฟ้องมาบุญครองฯ เพื่อให้รายละเอียดเรื่องนี้ ผู้สังเกตการณ์ตั้งข้อสังเกตว่า ซีพีเอสอาจตั้งสมติฐานว่าหนังสือฉบับนั้นคงจะ "พอใจ" ที่จะเสนอข่าวเกี่ยวกับมาบุญครองฯ ออกมาในแง่ลบ

"ผู้จัดการ" ก็เป็นรายหนึ่งที่ซีพีเอส ส่งคำฟ้องนั้นมาให้

ซีพีเอสหวังว่าวิธีนี้เขาอาจไม่ต้องรอรับเงินเกือบ 4 ล้านบาทหลังจากคดีเดินไปถึงที่สุดซึ่งก็คงนานหลายเดือน

ใคร ๆ ที่รักและนับถือศิริชัย บูลกุล ไม่อยากเห็นเขา "บิน" ต่ำลงกว่านี้ การติดขัดเรื่องหนี้ 20 กว่าล้านบาท (กับเบอร์ลี่ยุคเกอร์) หรืองบดุลแสดงการขาดทุนครั้งแรก (ไตรมาสแรกปี 2529) ดูจะเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้สำหรับธุรกิจใหญ่เช่นมาบุญครองฯ แต่อย่าให้ถึงขั้นแม้ "ค่าจ้างคนใช้" (ซีพีเอส) ก็ไม่มีปัญญาจ่ายเลย

ภาพมาบุญครองมีสินทรัพย์เกือบ 5,000 ล้านบาท อันดูมั่นคงตลอดมานั้น มันจะดูสั่นคลอนอ่อนไหวยังไงชอบกล

ศิริชัยต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง อย่าปล่อยให้กระแสลมร้ายพัดกระพืออย่างไม่อาทรร้อนใจ การเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อย่างเดียวช่วยอะไรไม่ได้หรอก

ทุกอย่างมารวมอยู่ที่ ความคิด "ของศิริชัย แสดงความกล้าหาญ เปลี่ยนสไตล์การทำงานจากเงียบ ๆ มาสู่วงกว้างตามลักษณะธุรกิจที่กำลังดำเนินอยู่

เอาอย่าง "เสี่ยหว่าง" (สว่าง เลาหทัย) สักทีปะไร ออกมา "เปิดอก" ทีเดียว อะไร ๆ ที่มันร้อนจัด ๆ อุณหภูมิจะได้ลดลงบ้าง!!!

ขอให้เดวี่ ครอกเก็ต อย่างศิริชัย บูลกุล จงรักษาป้อมอลาโม่เอาไว้ให้ได้ อย่าได้เสียรังวัดเช่นนี้ให้บ่อยนักล่ะ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us