|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไวน์ที่ดีต้องผลิตจากผลองุ่นชั้นเลิศที่เจ้าของเอาใจใส่ตั้งแต่คัดพันธุ์-ปลูกเลี้ยงตกแต่งกิ่ง ตัดช่อแตกตา-ดูแลให้ปุ๋ยจนแตกกิ่งติดดอกให้ผลองุ่นคุณภาพดี และเก็บเกี่ยวอย่างถนอม ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ปีนี้มีวันวาเลนไทน์และตรุษจีนอยู่ด้วยกัน ยิ่งสร้างความคึกคักมีส่วนร่วมจำนวนมากขึ้นกว่าทุกๆ ปีในเทศกาล "Harvest Festival 2010" ตามไร่องุ่นสำคัญๆ หลายแห่ง เช่น GranMonte ที่ตั้งรายทางบริเวณที่ราบเชิงเขาดงพญาเย็น
ภาพกลุ่มคนหนุ่มสาวและครอบครัวพ่อแม่ ลูกที่สนุกกับเกมแข่งขันตัดพวงองุ่นสีเข้ม ที่แฝงอยู่ในซุ้มองุ่นใบเขียวที่ปลูกเรียงรายเป็นทิวแถว ท่ามกลางแมกไม้และขุนเขาใหญ่ธรรมชาติที่สะอาดสดชื่นสวยงามยามเช้า สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวเชิงเกษตรหรรษาวันหยุดได้ดีกว่าเสียเงินไปเที่ยวยุโรปเสียอีก
ณ หุบเขาอโศก จะเห็นไร่องุ่นกรานมอนเต้ GranMonte Estate ของครอบครัว "วิสุทธิ์โลหิตนาวี" ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ทั่วบริเวณ มีองุ่นทั้งหมด 5 สายพันธุ์ 20 แปลง แลดูสะอาด และมีระเบียบเป็นทิวแถว อาศัยดินมวกเหล็กของผืนป่าพญาเย็นดุจมารดาที่เลี้ยงดูต้นองุ่นที่ทำไวน์แดงสายพันธุ์ Shiraz/Syrah, Cabernet Sauvignon, Tempranillo ส่วนองุ่นพันธุ์ทำไวน์ขาว เช่น Chenin Blanc, Verdelho/Brazil ก็ให้เติบโตตลอดทั้งปี ยิ่งปีที่แล้วผลผลิตออกมากกว่าเดิมสองเท่าทีเดียว นอกจากนี้ที่ไร่องุ่นแห่งนี้นิยมเก็บองุ่นด้วยมือทั้งหมดเพราะไวน์ที่มีคุณภาพดีราคาแพงมักจะใช้วิธีนี้ทั้งนั้น
ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินทองแห่งนี้ กล่าวกันว่าไทยเป็นประเทศแรกที่ปลูกองุ่นทำไวน์ในเขตโซนร้อน ที่มีพิกัดละติจูด 14-18 องศาเหนือ โดยผู้บุกเบิกรายแรก และครองตลาดไวน์ที่ใหญ่ที่สุดของไทยคือ PB Valley "เขาใหญ่ไวน์เนอรี่" ของปิยะ ภิรมย์ภักดี
ตั้งแต่ปี 2542-ปัจจุบัน ประมาณ 10 ปีกว่าที่วิสุทธิ์ โลหิตนาวีได้กรุยทางให้เกิดชุมชนคนรักวิถีแห่งไวน์ (The Way of Winery) เกิดขึ้นที่นี่
10 ปีผ่านมา ครอบครัวของวิสุทธิ์ โลหิตนาวีเป็นตัวอย่างหนึ่งของคนที่มีฝันและจินตนาการที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ โดยผ่านทางวิถีคนรักไวน์ อาหารอร่อย และดนตรีไพเราะ พวกเขามุ่งมั่นและมานะบากบั่น จนกระทั่งสามารถพลิกฟื้นแผ่นดินให้เป็นขุมทรัพย์แห่งปัญญา และประกาศศักดิ์ศรีคนไทยว่าสามารถทำไวน์ชั้นยอดเยี่ยมให้โลกยอมรับได้ โดยปรากฏในรูปของรางวัล International Awards กว่า 30 รางวัล
ต้นปีนี้โรงบ่มไวน์แห่งแรกของ GranMonte Winery ได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโดยท่านประธานศาลปกครอง อักขราทร จุฬารัตน์ ซึ่งกล่าวชื่นชมไวน์เมกเกอร์ "วิสุตา โลหิตนาวี" ที่ใครๆ ก็เรียกเธอว่า "นิกกี้" ที่ทำงานดุจศิลปิน ผู้คิดสร้างสรรค์ประกายให้เกิดแก่ไวน์คุณภาพของ Gran-Monte เคียงข้างพ่อ-วิสุทธิ์ แม่-สกุณา พี่ชาย-แสนยา ซึ่งรับผิดชอบการตลาด และน้องสาว-มิมี่ ที่ศึกษาเศรษฐศาสตร์อยู่สหรัฐฯ
วิสุตาเป็นลูกสาวคนเก่งของวิสุทธิ์+สกุณา โลหิตนาวี ที่มีใจรักวิถีแห่งไวน์ เธอเพิ่งเรียนจบเป็นผู้ชำนาญการด้านการปลูกองุ่นและทำไวน์จากมหาวิทยาลัย Adelaide-South Australia สาขา Viticulture and Winery ซึ่งไม่เคยมีคนไทย เรียนมาก่อน แต่เธอได้เรียนรู้วิชาการปลูกองุ่น ดูดิน รู้เรื่องชิมไวน์และวิชา Winemaking advintage ทำเวิร์กชอปผลิตไวน์เอง โดยต้องศึกษาค้นคว้าว่าจะทำไวน์สไตล์ใด ผล ออกมากลุ่มของเธอที่ทำไวน์ขาว ครูให้คะแนนดีที่สุดในชั้นเรียน และทำให้เธอได้ทุนไปฝึกทำงานกับ Wolf Blass ไวน์ชื่อดังของออสเตรเลียสามเดือน
วิสุตาสนุกกับประสบการณ์เรียนรู้ในชาโตว์หลายแห่งที่ฝรั่งเศสและแอฟริกาใต้ ล่าสุดเธอไปทำงานที่ La Fleur de Bouard ของ Chateau Angelus จนเป็นที่ยอมรับของเจ้าของชาโตว์แห่งนี้คือ Mr.Hubert de Bouard รับเป็นที่ปรึกษาและบินมาไทยปีละ 2-3 ครั้งเพื่อติดตามให้ความรู้เรื่ององุ่นและไวน์อย่างพิถีพิถัน
ขณะเรียนและปิดเทอม เธอกลับมาช่วยพ่อแม่ดูแลไร่องุ่น ตลอดเวลา ฤดูกาลเก็บองุ่นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ผ่านพ้นไป ทุกเช้าจะเห็นภาพหญิงสาวแต่งกายเรียบง่ายใส่ท็อปบู๊ตเดินลุยไล่ดูไร่ สำรวจต้นองุ่นสมบูรณ์หรือตัดเล็มยอดองุ่นที่ทอดยาวเพื่อมิให้ดึงอาหารจากลูกองุ่น หรือถ้าองุ่นให้ผลมากไปก็ต้องตัดทิ้งบ้าง
เมื่อจบกลับมาเมืองไทย ไวน์เมกเกอร์ไฟแรงอย่างวิสุตาได้ทุ่มเททำสิ่งที่เธอรักและอยากทำมากๆ คือ ไวเนอรี่ (GranMonte Winery) ถือว่าเป็นความฝันอันสูงสุดที่พ่อทำให้เธอภาคภูมิใจและเชื่อมั่นตัวเอง
ภายในโรงงานไวน์ที่ต้องควบคุมห้องเก็บถังไวน์ไว้ที่ 17 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไวน์ระเหย ทุกถังเป็นผลงาน GranMonte ที่มีเสน่ห์ชวนดื่มระดับมาตรฐานโลกทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว วิสุตาบอกเลยว่าไวน์สไตล์เธอจะออกแนวดื่มง่ายและมีความเป็นผลไม้มาก โดยเน้นรสชาติแท้ๆ ขององุ่น พันธุ์ที่ให้รสและสีหวานสวยน่าลิ้มลองมากที่สุด เริ่มจาก 2009 Sakuna Rose Syrah (สกุณาโรเซ่ ซึ่งนำชื่อคุณแม่มาตั้งชื่อ), 2009 Spring Chenin Blanc และ 2009 Sole Unwooded Chenin Blanc นี่คือ Top-3 ของGranMonte ที่ประสบความสำเร็จมากๆ
วิสุตาเป็นไวน์เมกเกอร์สาวที่มี passion รับรู้รสที่วิเศษ เธอสามารถแยกแยะรสชาติผลองุ่นที่ให้ผลแตกต่างและท้าทายให้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เช่น ระยะก่อนเก็บผลใกล้สุก ต้องชิมแล้ววัดน้ำตาล กรดและรสชาติว่า น้ำตาลถึงระดับที่ต้องการไหม เช่น ทำไวน์ขาว น้ำตาลจะต้องอยู่ที่ 21-23 บริกซ์ ส่วนไวน์แดงประมาณ 23 บริกซ์ เพราะถ้าบ่มเสร็จแล้วน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ประมาณ 12.5%
ขั้นตอนการหมักองุ่นในถังสแตนเลสหรือในถังไม้โอ๊กที่จะทำปฏิกิริยาทำให้ไวน์นุ่มนวล สีสดและมีรสชาติดี ในฐานะไวน์เมกเกอร์สาวที่ชำนาญการและมีประสาทการรับรสที่ดีกว่าผู้ชาย เธอจะต้องคอยเช็กน้ำตาล เช็กแอลกอฮอล์ เช็กอุณหภูมิ และคอยชิมด้วยตัวเองทุกวันว่า พอใจไหมในรสชาติ สีและกลิ่นที่ต้องหอมหวาน ซึ่งมาจากเปลือกองุ่นที่มีความหวานที่หาได้ยาก
นอกจากเป็นชาวไร่องุ่น และไวน์เมกเกอร์ทำไวน์เองแล้ว วิสุตายังดูแลออกแบบฉลากและขวดบรรจุกับฝาปิดขวดที่ส่วนใหญ่ขณะนี้นิยมจุกไม้ก๊อก แต่เธอมีความคิดที่จะเปลี่ยน แปลงเป็นจุกฝาเกลียวเมื่อตลาดคนไทยพร้อมรับ
ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ตลาดไวน์ที่ผลิตจากแผ่นดินไทยยังมีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 5% ของตลาดไวน์อิมพอร์ตต่างประเทศเท่านั้น ทั้งๆ ที่ความประณีตพิถีพิถันของการทำไวน์ระดับมาตรฐานโลกเกิดขึ้นที่นี่มานานกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม
โลกของวิสุตาวันนี้คือ GranMonte และมีเป้าหมายเป็นไวน์เมกเกอร์ที่ทำหน้าที่ดุจศิลปินสร้างสรรค์รสชาติไวน์ไทยสู่ตลาดโลกให้ได้ ท่ามกลางฤดูกาลที่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ
|
|
|
|
|