อีสเทอร์นสตาร์ฯ ไม่รื้อแผนลงทุนปี 53 ลุยเปิด 4 โครงการมูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท พร้อมดึง"ซีบี-ไนท์แฟรงค์"บริหารการขาย 2โครงการคอนโดฯ คาดเป้ารายได้ปีนี้ 1,850ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 800 ล้านบาท ยันไม่หวั่นผลกระทบการเมือง แม้เปิดตัวโครงการใหม่ช่วงการเมืองร้อนระอุ มั่นใจดีมานด์ที่อยู่อาศัยมีตลอดเวลา
นายรัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTARกล่าวว่า ในแต่ละปี บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูง 4-5 โครงการ มูลค่ารวม 4,000-5,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยมูลค่าลงทุนต่อโครงการ 1,000 -1,400 ล้านบาท และตั้งเป้าจะมีรายได้จากการขายในปีนี้ 1,850 ล้านบาท โดยมาจากโครงการใหม่ 1,700 ล้านบาท และอีก 150 ล้านบาทจากโครงการคอนโดฯ เดอะ สตาร์ เอสเตท นราธิวาส และในจ.ระยอง
ส่วนในปีนี้ บริษัทประมาณการว่าจะยอดรับรู้รายได้จากโครงการเดิมและโครงการใหม่รวม 800 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นยอดขายในปีที่ผ่านมา
ล่าสุด ทางบริษัทฯได้ตัดสินใจเปิดโครงการคอนโดฯใหม่ในปีนี้ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ The Breeze บนถนนนราธิวาสฯ มูลค่ารวม 1,400 ล้านบาท และโครงการ Vantage ถนนรัชดาภิเษก ใกล้แยกรัชวิภา มูลค่ารวม 1,100 ล้านบาท และภายในไตรมาส 2 เปิด 1 โครงการทาวน์เฮาส์ พัฒนาบนเนื้อที่โครงการ 33 ไร่ย่านอ่อนนุช ส่วนครึ่งหลังของปี 53 จะเปิดโครงการคอนโดฯอีก 1โครงการ
" การเลือกเปิดตัวโครงการใหม่ในเวลาที่สถานการณ์ด้านการเมือง อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจากการชุมชนของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น เนื่องจากแนวโน้มตลาดโดยรวมอยู่ในทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของความเชื่อมั่น และกำลังซื้อ ส่วนความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่จะเข้ามา จะกระทบต่อตลาดอสังหาฯนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น2 กรณี คือ กรณีที่เกิดความรุนแรงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อตลาดรวมค่อนข้างมาก ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยอาจตัดสินใจชะลอการมีบ้านออกไประยะหนึ่ง และกรณีไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น อาจจะส่งผลต่อตลาดในด้านจิตวิทยเล็กน้อย ซึ่งส่วนตัวมองว่า โดยธรรมชาติของการเมืองจะเป็นปัญหาระยะสั้น ในขณะที่ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยนั้น ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในฐานะผู้บริหารการขายโครงการ The Breeze นราธิวาสว่า เป็นโครงการที่มีศักยภาพทั้งด้านทำเลที่ตั้ง ราคาที่เหมาะสม และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในช่วง3-4เดือนจากนี้แน่นอน
นายพนม กาญจนเท่าเทียม กรรมการผู้จัดการบรัท ไนท์แฟรงค์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในฐานะผู้บริหารการขายโครงการ Vantage รัชวิภา ว่า เป็นโครงการคอนโดฯ สูง 32 ชั้น พัฒนาโครงการ 3 ไร่เศษจำนวน 321 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีกำลังซื้อสูง แม้จะมีหลายโครงการเปิดขายในทำเลเดียวกัน แต่โครงการส่วนใหญ่การขายใกล้หมดแล้ว ทำให้การแข่งขันไม่สูงมากนัก ซึ่งคาดว่าในระยะเวลา 6-8 เดือนจะสามารถปิดการขายได้
|