Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน11 มีนาคม 2553
ESTARไม่หวั่นม็อบการเมือง ลุยเปิด2โครงการใหม่ซีบี-ไนท์แฟรงค์การันตียอดขาย             
 


   
www resources

โฮมเพจ อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท

   
search resources

อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท, บมจ.
Real Estate
รัตนชัย ผาตินาวิน




อีสเทอร์นสตาร์ฯ ไม่รื้อแผนลงทุนปี 53 ลุยเปิด 4 โครงการมูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท พร้อมดึง"ซีบี-ไนท์แฟรงค์"บริหารการขาย 2โครงการคอนโดฯ คาดเป้ารายได้ปีนี้ 1,850ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 800 ล้านบาท ยันไม่หวั่นผลกระทบการเมือง แม้เปิดตัวโครงการใหม่ช่วงการเมืองร้อนระอุ มั่นใจดีมานด์ที่อยู่อาศัยมีตลอดเวลา

นายรัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTARกล่าวว่า ในแต่ละปี บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูง 4-5 โครงการ มูลค่ารวม 4,000-5,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยมูลค่าลงทุนต่อโครงการ 1,000 -1,400 ล้านบาท และตั้งเป้าจะมีรายได้จากการขายในปีนี้ 1,850 ล้านบาท โดยมาจากโครงการใหม่ 1,700 ล้านบาท และอีก 150 ล้านบาทจากโครงการคอนโดฯ เดอะ สตาร์ เอสเตท นราธิวาส และในจ.ระยอง

ส่วนในปีนี้ บริษัทประมาณการว่าจะยอดรับรู้รายได้จากโครงการเดิมและโครงการใหม่รวม 800 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นยอดขายในปีที่ผ่านมา

ล่าสุด ทางบริษัทฯได้ตัดสินใจเปิดโครงการคอนโดฯใหม่ในปีนี้ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ The Breeze บนถนนนราธิวาสฯ มูลค่ารวม 1,400 ล้านบาท และโครงการ Vantage ถนนรัชดาภิเษก ใกล้แยกรัชวิภา มูลค่ารวม 1,100 ล้านบาท และภายในไตรมาส 2 เปิด 1 โครงการทาวน์เฮาส์ พัฒนาบนเนื้อที่โครงการ 33 ไร่ย่านอ่อนนุช ส่วนครึ่งหลังของปี 53 จะเปิดโครงการคอนโดฯอีก 1โครงการ

" การเลือกเปิดตัวโครงการใหม่ในเวลาที่สถานการณ์ด้านการเมือง อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจากการชุมชนของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น เนื่องจากแนวโน้มตลาดโดยรวมอยู่ในทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของความเชื่อมั่น และกำลังซื้อ ส่วนความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่จะเข้ามา จะกระทบต่อตลาดอสังหาฯนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น2 กรณี คือ กรณีที่เกิดความรุนแรงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อตลาดรวมค่อนข้างมาก ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยอาจตัดสินใจชะลอการมีบ้านออกไประยะหนึ่ง และกรณีไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น อาจจะส่งผลต่อตลาดในด้านจิตวิทยเล็กน้อย ซึ่งส่วนตัวมองว่า โดยธรรมชาติของการเมืองจะเป็นปัญหาระยะสั้น ในขณะที่ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยนั้น ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในฐานะผู้บริหารการขายโครงการ The Breeze นราธิวาสว่า เป็นโครงการที่มีศักยภาพทั้งด้านทำเลที่ตั้ง ราคาที่เหมาะสม และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในช่วง3-4เดือนจากนี้แน่นอน

นายพนม กาญจนเท่าเทียม กรรมการผู้จัดการบรัท ไนท์แฟรงค์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในฐานะผู้บริหารการขายโครงการ Vantage รัชวิภา ว่า เป็นโครงการคอนโดฯ สูง 32 ชั้น พัฒนาโครงการ 3 ไร่เศษจำนวน 321 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีกำลังซื้อสูง แม้จะมีหลายโครงการเปิดขายในทำเลเดียวกัน แต่โครงการส่วนใหญ่การขายใกล้หมดแล้ว ทำให้การแข่งขันไม่สูงมากนัก ซึ่งคาดว่าในระยะเวลา 6-8 เดือนจะสามารถปิดการขายได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us