Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน11 มีนาคม 2553
ธปท.จ่อขยับดอกเบี้ย จับตาปัจจัยเสี่ยง การเมืองป่วน-มาบตาพุด             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Interest Rate




ธปท.ส่งสัญญาณชัดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประชุมครั้งหน้าวันที่ 21 เม.ย.นี้ แบบค่อยเป็นค่อยไป จากความเสี่ยงโดยรวมลดลง ส่วนการประชุมวานนี้มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.25% ระบุยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยการเมือง ปัญหามาบตาพุด อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูง รวมถึงความเสี่ยงต่างประเทศจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก รอดูสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่มเติม

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อวานนี้( 10มี.ค.) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.25%ต่อปี ตามที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจากขณะนี้ปัจจัยเสี่ยงโดยรวมเริ่มลดลงเมื่อเทียบกับการประชุมครั้ง ก่อน แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ทั้งปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ จึงรอดูผลความชัดเจนก่อน รวมทั้งดูการเปลี่ยนแปลงตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเพิ่มเติมอีกระยะหนึ่ง

"การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของกนง.ยังคงให้ความสำคัญในการดูแลเสถียรภาพ ด้านราคามาอันดับแรกและมากกว่าการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ และสุดท้ายก็ต้องชั่งน้ำหนักจังหวะเวลาให้เหมาะสมด้วย ฉะนั้น หากไม่มีเหตุการณ์ใดที่กระทบเศรษฐกิจรุนแรงและการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ ต่างๆ ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญก็มีโอกาสสูงที่กนง.จะค่อยๆ ทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้นในการประชุมครั้งหน้า คือ วันที่ 21 เม.ย.นี้"ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.กล่าว

ทั้งนี้ ในปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากในประเทศทั้งความไม่มี เสถียรภาพการเมืองและความไม่ชัดเจนของโครงการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งอาจมีข้อจำกัดต่อการลงทุนในระยะต่อไปได้ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะต่อไปจากราคาน้ำมันสูง ขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบรอบ 2 และรอบ3 ได้ และการขยายตัวของเศรษฐกิจเห็นได้จากไตรมาส 4 ที่ดีกว่าตลาดคาดการณ์ จึงมองว่าแรงกดดันด้านอุปสงค์ยังมีอยู่ทั้งในปีนี้และปีหน้า

ขณะเดียวกัน แม้ความเสี่ยงของการขยายเศรษฐกิจโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้นมากจนเห็นบางประเทศ เริ่มลดการผ่อนคลายการดำเนินนโยบายการเงิน แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ทั้งจากอัตราการว่างงานที่สูง ปัญหาสถาบันการเงินที่ยังทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์นัก รวมถึงปัญหาหนี้ภาครัฐในบางประเทศที่อาจจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ได้

สำหรับกรณีที่ธนาคารกลางมาเลเซียมีการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า บางประเทศที่เริ่มปรับนโยบายการเงินแล้วก็เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในการพิจารณา อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทย แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่านโยบายการเงินจะ เป็นแนวทางที่เข้มงวดขึ้น แต่อาจเป็นการผ่อนคลายน้อยลงไปจากอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษอาจจะกลายเป็น อัตราดอกเบี้ยต่ำน้อยลงไปมากกว่า

แม้ในต่างประเทศจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบ้างแล้ว ประกอบกับไทยมีปัญหาการเมืองภายในประเทศก็ยังไม่พบมีการเคลื่อนย้ายเงินทุน ไหลเข้าออกผิดปกติ ซึ่งธปท.เองก็มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด จึงไม่ห่วงอะไรเป็นพิเศษ

ส่วนประเด็นที่มีการส่งทีมงานไปสำรวจในพื้นที่ต่างๆ แล้วนำรายงานมาเสนอกนง. พบว่า ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดของไทยขณะนี้ ทำให้ผลผลิตเกษตรในปีนี้ลดลงบ้าง แต่ในทางตรงข้ามอาจทำให้ราคาพืชผลมีราคาสูงขึ้น ฉะนั้นปัญหาภัยแล้งมีผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจไม่มากนัก แต่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องระมัดระวัง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต่างๆ ยืนยันภาพรวมเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นและกระจายไปในหลายสาขา โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี แต่ธุรกิจที่ใช้แรงงานสูงไม่ได้ขยายตัวมากนัก

อย่างไรก็ตาม แม้โครงสร้างนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป คือ นักท่องเที่ยวเอเชียเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากกว่าเมื่อเทียบกับนักท่อง เที่ยวแถบยุโรป ซึ่งนักท่องเที่ยวเอเชียส่วนใหญ่มีความอ่อนไหวเรื่องความไม่สงบ จึงต้องติดตามดูต่อไป ฉะนั้น หากปัญหาการเมืองยืดเยื้อก็อาจกระทบเศรษฐกิจภาพรวมบ้าง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us