โตชิบาโหนกระแสบอลโลก ทุ่ม 80 ล้านบาท ชูสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ร่วมสนับสนุนทีมฟุตบอลไทย “เมืองทองยูไนเต็ด” จับฐานคนรุ่นใหม่ พร้อมปล่อยแอลซีดีลงแข่ง 14 รุ่น มั่นใจยอดขายทั้งปีโตแน่ 50% ส่วนภาพรวมรายได้ปิดรอบมี.ค.นี้ มั่นใจเติบโตมาแผนที่วางไว้ 15% ย้ำชัดจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รองรับวันศุกร์นี้

นายฮิเดโนริ มัสสุอิ ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของตลาดกลุ่มจอภาพ เพราะเป็นปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกเกิดขึ้น ซึ่งมองว่าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดทีวีจอแบนเติบโตขึ้นได้ถึง 40% จาก 8 แสนเครื่องในปีก่อน ปีนี้น่าจะถึง 1.2 ล้านเครื่อง โดยในจำนวนดังกล่าว จะเป็นแอลอีดีทีวีกว่า 40,000 เครื่อง

อย่างไรก็ตามปีนี้ทางโตชิบามั่นใจและพร้อมทำการตลาดอย่างเต็มที่สำหรับกลุ่ม จอภาพ โดยวางงบการตลาดไว้กว่า 80 ล้านบาท ในการทำการตลาดตลอดทั้งปี ล่าสุดเพื่อรองรับกระแสการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุด ทั้งฟุตบอลโลกที่จะมาถึง และทีมฟุตบอลไทยที่เริ่มมีกระแสเกิดขึ้น ทางบริษัทจึงได้เดินหน้าทุ่มงบกว่า 20 ล้านบาท ชูสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ลอนด์แคมเปญ “Cheer to Goal” กับการร่วมกับบริษัท เมืองทอง ยูไนเต็ด จำกัด กับทีมฟุตบอลไทย “กิเลนผยอง” เป็นผู้สนับสนุนทีดังกล่าวตลอด 1 ปีนี้ รวมไปถึงมีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในช่วงที่จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก เกิดขึ้นด้วย

“จากการที่เราไม่ได้เป็นออฟฟิศเชียลสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งนี้ ส่งผลให้เราได้หันกลับมามองทิศทางฟุตบอลไทย ซึ่งพบว่ามีแนวโน้มที่ดีมากขึ้น จึงได้ร่วมสนับสนุนทีมฟุตบอลไทย เมืองทองยูไนเต็ดครั้งนี้ ส่วนสำคัญเพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงซึ่งปัจจุบันสนใจและชื่นชอบ กีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก”

สำหรับแผนการดำเนินงานนั้น จะมีกลุ่มจอภาพออกสู่ตลาดทั้งสิ้น 14 รุ่น ทั้งในตระกูล AV ซีรี่ส์, CV ซีรีส์, RVซีรีส์และZVซีรี่ย์ ขนาดตั้งแต่22-55 นิ้ว ระดับราคาตั้งแต่ 7,000-1.2 แสนบาท แบ่งเป็นแอลอีดีทีวี 4 รุ่น และแอลซีดีทีวี 11 รุ่น คาดว่าในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก บริษัทจะมียอดขายในกลุ่มจอภาพสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 50% และในภาพรวมตลอดทั้งปีเชื่อว่าจะมียอดขายในกลุ่มจอภาพเติบโตขึ้นที่ 50% เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ในช่วงปลายปีทางบริษัทเตรียมที่จะลอนด์จอภาพแอลอีดีทีวีรุ่นใหม่ขนาด 55 นิ้ว เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยด้วย โดยราคาจำหน่ายเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 4 แสนกว่าบาท ซึ่งในญี่ปุ่นเพิ่งลอนด์ไปได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น

อย่างไรก็ตามแผนการดำเนินงานในปีนี้ ทางบริษัทเตรียมงบการตลาดไว้ถึง 500 ล้านบาท มากกว่าปีก่อน 25% สำหรับทำการตลาดในทุกผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า จอภาพ และโนตบุ๊ก โดยสิ้นปีงบประมาณ 2552 (เม.ย.52-มี.ค.52) ที่จะปิดลงในเดือนมี.ค.นี้นั้น บริษัทคาดว่าจะมีรายไก้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ 15%

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานของโตชิบา ยังพร้อมเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้มีความกังวลกับสถานการณ์ทางการเมืองในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ กับการที่จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ประมาท และพร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น บริษัทพร้อมมีแผนรองรับทั้งในส่วนการขายและโรงงาน ซึ่งเหตุการณ์นี้ทางญี่ปุ่นเองไม่ได้มีความกังวลเช่นเดียวกัน เพราะเข้าใจธรรมชาติของการเมืองไทยอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ประมาทเช่นกัน อย่างไรก็ตามพบว่ายอดขายในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมายังดีอยู่ ลูกค้ายังเดินห้างจับจ่ายซื้อของกันตามปกติ จึงมองว่าไม่น่าจะมีผลกรทบต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างไร