บริษัทผู้ค้าน้ำมันรายย่อยเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีพื้นฐานการกำเนิดมาจากการค้าแก๊สมาก่อนเกือบทุกบริษัท
ภายหลังจากการถูกจำกัดโควต้าการนำเข้าแก๊ส และถูกห้ามนำเข้าโดยสิ้นเชิงในปี
2528 แล้ว หลายบริษัทก็ได้ดิ้นรนเพื่อที่จะยืนอยู่ต่อไป ด้วยการหันมาค้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วหรือโซล่าแทนเนื่องจากน้ำมันโซล่ามีราคาไม่แพงนัก
พอที่จะซื้อได้
บริษัทน้ำมันอิสาน จำกัดบริษัทนี้ก็เป็นบริษัทหนึ่งที่เติบโตมาจากการค้าแก๊สมาก่อน
ผู้เป็นเจ้าของบริษัทนี้ก็คือกลุ่มตระกูลธาระวณิช โดยมีชัช ธาระวณิช เป็นประธานกลุ่ม
จุดเด่นของบริษัทน้ำมันอิสานก็คือ ติดต่อกับต่างประเทศได้เก่งมาก ซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมรับ
และสำหรับ ชัช ธาระวณิช นั้น ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้เก่งมากทางด้านนี้ เคยซื้อน้ำมันจากต่างประเทศโดยตรงให้กับโรงกลั่นน้ำมันบางจากมาก่อน
ดังนั้นพื้นฐานทางด้านนี้ของ ชัช ธาระวณิชจึงค่อนข้างที่จะแน่น ประกอบกับตระกูล
ธาระวณิช เป็นเจ้าที่ดินรายใหญ่ในแถบจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดรอบข้าง
ทำให้การปล่อยเงินของแบงก์ค่อนข้างจะง่ายสำหรับกลุ่มนี้ และสำหรับบริษัทนี้หากสาวกันให้ดี
ๆ ก็จะไปถึงคน ๆ หนึ่งซึ่งอยู่อย่างเงียบ ๆ แต่ร่ำรวยมหาศาล คนผู้นี้คือ
สุวิทย์ มหาแถลง คนผู้นี้เป็นคนที่ทุกคนในบริษัทน้ำมันอิสานเคารพนับถือและเป็นผู้ให้การช่วยเหลือจนบริษัทเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
บริษัทพลังสยาม จำกัดเป็นบริษัทที่กำเนิดมาจากแชร์วงใหญ่ของ นกแก้ว ใจยืนและบริษัทนี้ก็ยืนอยู่ได้นานเหมือนกัน
เรียกว่าเกือบสองปีทีเดียว แต่เมื่อแชร์ล้มบริษัทก็ไปไม่รอดก็ล้มตามไปเหมือนกับบริษัทกรเพชรอิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต
ซึ่งเป็นของนกแก้ว ใจยืน อีกบริษัทหนึ่งหลังจากที่บริษัททั้งสองนี้ล้มแล้ว
ทรัพย์สมบัติไม่ว่าจะเป็นถังน้ำมันหรือลูกค้าต่าง ๆ ก็ได้ถูกโอนไปยัง บริษัท
อุตสาหกรรมแก๊สสยาม จำกัด ซึ่งยังค้าน้ำมันอยู่จนทุกวันนี้
บริษัท อุตสาหกรรม แก๊สสยาม จำกัด บริษัทนี้เป็นของวรวิทย์ วีรบวรพงศ์
ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ในเขตสมุทรปราการและมีการลงทุนบางส่วนจากนกแก้ว ใจยืน
การเติบโตของบริษัทนี้เติบโตมาจาก การค้าแก๊สแอลพีจีมาก่อน และคนผู้นี้ไม่ค่อยจะชอบนักกับการค้าน้ำมัน
ชอบที่จะค้าแก๊สมากกว่า เขาจึงไม่หวังมากในการที่จะสร้างปั๊มน้ำมัน หรือติดต่อกับต่างประเทศให้มาลงทุนร่วมเหมือนอีกหลายบริษัท
เขาเองยังหวังว่า โอกาสทองของการค้าแก๊สจะต้องมีมาอีกแน่นอน หลายคนก็ไม่เชื่อว่าเขาจะไปได้ไกลกว่านี้
เพราะเงินทุนขณะนี้ไม่ดีมากนักอาศัยการช่วยเหลือของจอบเบอร์บางกลุ่ม และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า
ถ้าทางรัฐบาลยึดทรัพย์ นกแก้ว ใจยืนเมื่อไหร่ อุตสาหกรรมแก๊สสยามอาจจะหงายท้องก็ได้
บริษัทสยามสหบริการ จำกัด เจ้าของคือ มงคล สิมะโรจน์ อดีตผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ
หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ขสมก. นั่นเอง มงคลร่ำรวยมาจากธุรกิจของตัวเองที่มีอยู่ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนส่งจำกัดเกือบหมด
บริษัทสยามสหบริการ นี้ก็เป็นบริษัทที่ทำการขนส่งมาก่อนและถึงตอนนี้ก็ยังรับบริการขนส่งทั้งทางบกและทางทะเลอยู่
ประกอบกับการทำธุรกิจขนส่งเช่นนี้ มงคลจึงมีทั้งรถและเรือเป็นของตัวเองอยู่เป็นจำนวนมาก
เรียกว่า น้ำมันที่เขาสั่งเข้ามาขายนั้น เกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ถูกขายให้กับบริษัทตัวเอง
บริษัทฮาร์ทออยล์สยาม อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด อร่าม กระบวนรัตน์กับ
พ.อ. ประจักษ์ สว่างจิตร อดีตยังเติร์กชื่อดัง ได้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา
แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จถูกถอนใบอนุญาตผู้ค้ำน้ำมันไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้
อร่าม กระบวนรัตน์ นั้นเดิมเป็นเจ้าของจอบเบอร์ที่เชลล์ไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุดคนหนึ่งและก็เคยเป็นถึงนายกสมาคมผู้ค้าน้ำมันมาก่อน
การรู้เรื่องในวงการนี้อร่ามจึงมีมาก ลูกค้าที่อยู่ในมือก็มาก แต่เป็นที่คาดกันมาว่า
ถึงแม้จะขอใบอนุญาตผู้ค้ำน้ำมันใหม่ก็คงเหนื่อย เนื่องจาก พ.อ. ประจักษ์
คงไม่เอาด้วยแล้ว และอร่ามเองก็ไม่มีเงิน นอกจากว่าเชลล์จะให้การสนับสนุนขึ้นมาใหม่
บริษัท เจริญมั่นคง จำกัด บริษัทนี้เป็นของวัฒนา อัศวเหมซึ่งร่วมลงทุนร่วมกับลูก
ๆ ของสังข์ พัธโนทัย อดีตคนสนิทจอมพล ป. พิบูลสงคราม สังข์ พัธโนทัย ผู้นี้นั้น
มีความสนิทสนมแนบแน่นกับทางสาธารณรับประชาชนจีนมากในช่วงที่ไทยตัดความสัมพันธ์กับจีนนั้น
นักการเมืองที่จะติดต่ออย่างลับ ๆ กับทางประเทศจีน ก็ติดต่อผ่านคนนี้แหละ
ความสัมพันธ์อันแนบแน่นนี้มีมานานจนถึงยุคนี้ประกอบกับวัฒนา อัศวเหมเป็นคนที่สนิทสนมกับสังข์
ทุกคนเรียกวัฒนา อัศวเหมนี้ว่า "พ่อ" ดังนั้นวัฒนา อัศวเหมจึงติดต่อกับทางประเทศจีนได้ง่ายและหวังว่า
ด้วยความนับถือที่มีกันมานานนั้น ประเทศจีนจะเข้ามาร่วมลงทุนด้วย แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้มเหลว
วัฒนา อัศวเหม โด่งดังและร่ำรวยขึ้นมาในสมัยจอมพลสฤษดิ์และถนอม
บริษัทคอสโมออยล์ จำกัด บริษัทนี้เป็นของบุญเลิศ ชาติวิวัฒน์พรชัย กับกลุ่มตระกูลลาภประชา
แม้ว่าจะได้รับใบอนุญาตมาแล้ว และมีการสร้างคลังเก็บน้ำมันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตาม
แต่มีปัญหาในด้านการเงินที่จะเอามาใช้เป็นเงินทุนในการหมุนเวียนซื้อน้ำมัน
การเปิด แอลซี. ของบริษัทนี้ จึงมีปัญหามากกับแบงก์โดยเฉพาะที่แบงก์เอเชีย
บริษัทสหไทยพานิช ปิโตรเลียม จำกัด บริษัทนี้มาอย่างโด่งดังมาก เพราะมีรายชื่อคนดัง
ๆ อยู่คับคั่งไม่ว่าจะเป็นดิลก มหาดำรงค์กุล แห่งธนาคารนครหลวงไทย วันชัย
จิราธิวัฒน์ แห่งกลุ่มเซ็นทรัลหรือ วานิช ไชยวรรณ แห่งกลุ่มไทยประกันชีวิต
แต่จะว่าไปแล้ว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทนี้แท้จริงก็คือกลุ่มที่เป็นเจ้าของ
ห้างหุ้นส่วนไทยพานิชบริการ นั่นเอง คนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย คุณจิวเจริญ,ประสิทธิ์
วัฒนกำจร,วิรัช วงศาโรจน์ เคยค้าน้ำมันมาครั้งหนึ่งแล้วในนามห้างหุ้นส่วนไทยพานิชบริการ
แต่ก็ล้มเหลว ถูกถอนใบอนุญาตไป ครั้งนี้ขอใบอนุญาตอีกครั้งในนามบริษัทสหไทยพานิชปิโตรเลียม
จำกัด ซึ่งก็ได้ดึงบุคคลที่เงินหนา ๆ ดังที่กล่าวแล้วเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทด้วย
แต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาต
บริษัทพายัพปิโตรเลียม จำกัด ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาคือ อำพล ตันทโอภาส
กับ จิราพร แซ่บ่าง คนในกลุ่มบริษัทนี้เติบโตมาจากบริษัทน้ำมันอิสานและได้แยกตัวออกมาตั้งบริษัทใหม่
มีความโชกโชนและมีประสบการณ์ในวงการนี้มานาน กำลังขอใบอนุญาตอยู่ในขณะนี้
บริษัทศรีกรุงวัฒนาจำกัด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า นี่เป็นของสว่าง เลาหทัย ขณะนี้กำลังขอใบอนุญาตอยู่
สว่าง เป็นที่จับตามองของหลาย ๆ คนมากว่าถ้าลงมาเล่นจริงๆ และก็ได้ใบอนุญาตผู้ค้ำน้ำมันแล้ว
คนผู้นี้แหละที่จะขึ้นไปสู้กับยักษ์ใหญ่ได้ เนื่องจากความพร้อมทั้งทางด้านการเงิน
และการติดต่อกับต่างประเทศถึงกับครั้งหนึ่งเคยมีข่าวออกมาว่าเขาคิดจะเอาพืชผลทางการเกษตรไปแลกเอาน้ำมันจากประเทศอิหร่านมา
และคนในวงการน้ำมันก็เชื่อว่าถ้าสว่างทำจริง ๆ โฉมหน้าใหม่ของวงการน้ำมันก็อาจจะเปลี่ยนไป
ในลักษณะที่มีการเพิ่มบริษัทใหญ่เข้ามาอีกบริษัทหนึ่ง แต่ปัญหาอยู่ที่แกจะขอใบอนุญาตผู้ค้าน้ำมันได้หรือเปล่า
นี่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าของ สว่าง เลาหทัย แห่งกลุ่มศรีกรุง