Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์1 มีนาคม 2553
"ทรอส" รุกฆาต "เอ็กซิท"ในศึก Men Grooming             
 


   
search resources

ไบโอ คอนซูเมอร์, บจก.
Personal cares




สินค้าเสริมหล่อสำหรับผู้ชาย เดือดทะลักองศา เมื่อ"ทรอส" ทุ่ม 100 ล้านบาท จัดทัพสินค้า 5 หมวด ถล่มคู่แข่ง ตอกย้ำแบรนด์ดีเอ็นเอ "สินค้าดูแลความมั่นใจวัยรุ่น" ล่าสุดคว้า เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ พร้อมส่งสินค้าไซส์เล็กกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ หลังสำรวจพบ "สินค้าราคา 20 บาท" เป็นจำนวนเงินที่วัยรุ่นจ่ายได้ง่ายสุด นอกจากการตั้งเป้าเติบโตขึ้นอีก 40% ในสิ้นปีแล้ว การขยับของ "ทรอส" ในครั้งนี้ยังอยู่ที่การโค่น "เอ็กซิท" เพื่อเป็นเบอร์ 2 ในตลาดเมน กรูมมิ่งอย่างชัดเจนด้วยแชร์ 20%

กระแสของผู้ชายเนี้ยบตั้งแต่หัวจดเท้ายังแรงไม่หยุด ซึ่งนอกจากการแข่งขันที่เข้มข้นในฝั่งเคาน์เตอร์แบรนด์แล้ว สนามรบของแมสโปรดักส์ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน

ตัวเลขล่าสุดของตลาดสินค้าเสริมหล่อสำหรับผู้ชายในช่องทางแมสมีมูลค่ากว่า 2,700 ล้านบาท ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 800 ล้านบาท โคโลญจน์ 300 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม 200-300 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบโรลออน 800 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบสเปรย์ 500 ล้านบาท ซึ่งหากจำกัดพื้นที่สนามรบไว้เพียงสินค้า 5 กลุ่มดังกล่าว จะพบว่า "นีเวีย" คือ ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 40% ตามมาด้วย "ทรอส" กับ "เอ็กซิท" มีส่วนแบ่งเท่ากันที่ 15% ส่วน "แอ๊กซ์" 12% "โฟกัส" 3% และอื่นๆ 15%

โดยผู้เล่นที่มีบทบาทและมีความเคลื่อนไหวมากสุดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้องยกให้ แบรนด์ผู้นำอย่างนีเวีย จากค่ายไบเออร์สด๊อรฟ และเบอร์ 3 อย่างแบรนด์ "แอ๊กซ์" ของค่ายยูนิลีเวอร์ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทั้ง 2 รายเป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ขณะที่ผู้เล่นรายอื่นส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ไทย ซึ่งหากเทียบเม็ดเงินลงทุน แน่นอนว่า ย่อมน้อยกว่าคู่แข่งอินเตอร์แบรนด์หลายเท่า ทำให้การขยับของผู้เล่นแบรนด์ไทยแต่ละครั้งอาจไม่ดังเปรี้ยงปร้างเช่นคู่ แข่ง

ล่าสุด "ทรอส" แบรนด์ไทยภายใต้ร่มเงาของไบโอฯ เปิดฉากรุกครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี แม้จะมีการวางงบกว่า 100 ล้านบาท เพื่อใช้อัดฉีดการทำตลาดตลอดปี แต่นั่นก็ยังเป็นเม็ดเงินที่น้อยกว่าคู่แข่งอินเตอร์แบรนด์ ทว่า การขยับของทรอสในครั้งนี้ ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่งบการทำตลาด แต่อยู่ที่การเล่นเกมบุกตลาดสินค้าเสริมหล่อของผู้ชายที่มีเป้าหมายเป็นวัย รุ่น 15-20 ปี ซึ่งครั้งนี้ไบโอฯ เข็นทรอสออกรบพร้อมกันทั้ง 5 กลุ่ม ประกอบด้วย โฟมล้างหน้า, โคโลญจน์, เจลแต่งทรงผม, ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายโรลออน และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบสเปรย์ ซึ่งถือว่าไม่บ่อยครั้งที่ผู้บริโภคบ้านเราจะเห็นทรอสทำการยกทัพชนคู่แข่ง แบบ Full Package

"ปีนี้เราจะโฟกัสสินค้าทั้ง 5 กลุ่มของทรอสไปพร้อมกัน"เป็นคำกล่าวของ ศิริสุภา อาจสัญจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด

สำหรับการทำตลาดของทรอสปีนี้ เริ่มต้นที่การเปิดตัว เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ เป็นพรีเซนเตอร์คนแรกของแบรนด์ ให้ทำหน้าที่สื่อสารกับผู้บริโภคผ่านไลฟ์สไตล์ตนเอง ภายใต้นิยาม "ผู้ชายแบบเป้ ผู้ชายแบบทรอส" เพื่อถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของแบรนด์ทรอส จากเดิมที่แบรนด์นี้เคยใช้เมสเซจ "Cool Guy By Tros" คือ การให้ผู้ชายเป็นคนดี แม้จะเป็นแนวคิดที่ส่งผลเชิงบวกต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่ก็ยังไม่สามารถสะท้อนบุคลิกของผู้ชายแบบทรอสได้ดีหรือชัดเจนกว่าการให้ พรีเซนเตอร์เป็นผู้ถ่ายทอด โดยผู้จัดการฝ่ายการตลาดค่ายไบโอฯ อธิบายว่า ตอนนี้กลยุทธ์ไอดอลมาร์เกตติ้งได้รับความนิยมมากในยุคนี้ โดยเฉพาะสินค้าวัยรุ่นถ้าเรารู้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้ชอบใคร และเรานำบุคคลนั้นมาเป็นไอดอลจะทำให้แบรนด์นั้นสามารถเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น ได้ดี ดังนั้น การนำภาพลักษณ์ของพรีเซนเตอร์คนล่าสุดมาผูกกับแบรนด์ทรอส ค่ายไบโอฯ จึงมั่นใจว่าจะช่วยให้อิมเมจของแบรนด์ทรอสมีความชัดเจนและบุกประชิดถึงวัย รุ่นอายุ 15-20 ปี ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักได้เป็นอย่างดี

เหตุผลที่ทรอสต้องให้ความสำคัญและเร่งสร้างอิมเมจของตนให้ ชัดเจน เพราะรู้กันดีว่าพฤติกรรมการซื้อสินค้าของวัยรุ่นจะซื้อด้วยอารมณ์มากกว่า เหตุผล โดย "แบรนด์" ถือเป็นปัจจัยแรกที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ตามมาด้วย "คุณภาพ" และ "ราคา" ฉะนั้น ภาพลักษณ์ของแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญสุด ซึ่งที่ผ่านมา ผู้เล่นในตลาดนี้ส่วนใหญ่จะพยายามสร้างคาแรกเตอร์ของแบรนด์ให้มีความชัดเจน แตกต่างกัน เช่น แบรนด์ "เอ็กซิท" ของค่ายโอสถสภาที่ก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ ด้วยภาพของ Badboy Toy หรือเครื่องเล่นที่แกล้งผู้หญิงให้ป่วน เพื่อสร้างความแตกต่างจากผู้เล่นรายอื่น แต่ตอนหลังก็มีการปรับคอนเซ็ปต์ใหม่โดยสื่อสารผ่านหนังโฆษณาชุดต่างๆ เช่น "แรดบุก", ชุด"นักล่า" โดยหันมาพูดถึงความมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ส่วนแบรนด์ "โฟกัส" ของค่าย ไอ.พี.เทรดดิ้ง แม้ในช่วง 3-4 ปีนี้จะไม่มีความเคลื่อนไหวการทำตลาดชัดเจน แต่ถ้าจำได้แบรนด์นี้เคยใช้สโลแกน "โฟกัส กินไม่ได้ แต่เท่" ขณะที่ผู้นำอย่าง "นีเวีย" แม้การสื่อสารของผู้เล่นรายนี้จะเน้นไปที่ฟังก์ชันนัล เบเนฟิตในแต่ละโปรดักส์ก็ตาม แต่สุดท้ายในหนังโฆษณาก็จะเห็นว่า ผู้ชายที่ใช้นีเวียจะได้รับความสนใจจากผู้หญิงด้วย

ทั้งนี้ ไม่ว่าเมสเซจที่ถูกส่งไปยังกลุ่มเป้าหมาย จะสะท้อนออกมาในรูปแบบใด ทว่า เป้าหมายที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ในสมรภูมินี้สื่อสารออกมาพร้อมกันด้วย คือ การใช้ "เซ็กซ์แอปพีล" ซึ่งเป็นการตอบอินไซด์ของผู้ชายในเรื่องการดูแลตัวเองก็เพื่อให้ผู้หญิงสนใจ จึงไม่แปลกที่หนังโฆษณาของผู้เล่นส่วนใหญ่จะมีผู้หญิงเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ด้วยเสมอ ซึ่งที่ผ่านมาการตีโจทย์ข้อนี้ "แอ๊กซ์" ของยูนิลีเวอร์ถือเป็นผู้เล่นที่ชัดเจนสุดในการสื่อแนวคิดดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านหนังโฆษณา การจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดโปรโมชั่นร่วมกับถุงยางอนามัยดูเร็กซ์เมื่อ 2 ปีก่อน หรือการลอนช์สโลแกน "ไว้ใจเสน่ห์ อย่าไว้ใจสาว" โดยมีกิจกรรม Axe Vice Live Chat ให้หนุ่มมีโอกาสแชตจีบสาวแอ๊กซ์ จนเกิดเป็นกระแส ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ มาแล้ว ล่าสุดการจัดกิจกรรมร่วมกับ FHM ค้นหาหนุ่มแอ๊กซ์ลุ้นไปเที่ยวลาสเวกัสกับสาว FHM

แน่นอนว่า การที่แบรนด์ทรอสเปิดตัว เป้ อารักษ์ เป็นพรีเซนเตอร์ โดยเป้าหมายแรกเพื่อสื่อภาพลักษณ์แบรนด์ผ่านไลฟ์สไตล์ของเป้ แต่สิ่งสำคัญที่ค่ายนี้ไม่ลืม คือ การสะท้อนถึงความมีเสน่ห์ของผู้ชาย โดย ศิริสุภา บอกว่า แม้ทรอสจะไม่ได้สื่อถึงเซ็กซ์แอปพีลอย่างชัดเจน แต่จะเห็นว่าในหนังโฆษณา พรีเซนเตอร์ของเราจะได้รับความสนใจจากหญิงสาว ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อกับกลุ่มเป้าหมายโดยอ้อม เพราะเรารู้ว่าผู้ชายดูแลตัวเองเพื่อให้ผู้หญิงสนใจ

นอกจากนี้ กลยุทธ์ที่ไบโอฯ มั่นใจว่าจะเป็นหมัดเด็ดทะลวงเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น นั่นคือ การลอนช์สินค้าไซส์เล็ก เพราะจากการสำรวจพฤติกรรมการซื้อสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและของใช้ส่วนบุคคล ของวัยรุ่นอายุ 15-20 ปี พบว่าจะนิยมสินค้าขนาดเล็ก เพราะง่ายต่อการพกพาและสะดวกต่อการหยิบใช้ในชีวิตประจำวัน และระดับราคาสินค้าประมาณ 20 บาทต่อชิ้น คือจำนวนเงินที่ยินดีจ่ายมากสุด

ดังนั้น การจัดทัพสินค้าของทรอสในปีนี้จึงมีสินค้าขนาดเล็กให้เลือกทั้ง 5 หมวด คือ โคโลญจน์ ขนาด 20 มล. ราคา 20 บาท, โฟมล้างหน้า แบบซองขนาด 8 มล. ราคา 8 บาท, เจลแต่งผม ขนาด 45 มล. ราคา 17 บาท, โรลออน ขนาดเล็กสุด 25 มล. ราคา 17 บาท และดิโอสเปรย์ ขนาด 50 มล. ราคา 55 บาท ไม่เพียงจะสามารถสร้างการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แต่ผู้บริหารค่ายนี้ยังเชื่อว่า สินค้าไซส์เล็กจะช่วยให้สินค้าดูแลตัวเองของผู้ชายมีการเติบโตขึ้น 100% ด้วย ซึ่งหากเทียบเฉพาะรายได้แบรนด์ทรอส จะเห็นว่าสินค้าขนาดเล็กเป็นสินค้าที่สร้างรายได้หลักคิดเป็นสัดส่วน 15-50% ของสินค้าแต่ละกลุ่ม เช่น โรลออน ขนาด 25 มล. มียอดขายกว่า 80% ของสินค้าในกลุ่มโรลออน

การขยับครั้งนี้ ค่ายไบโอฯ หวังเพียงจะดันทรอสขึ้นแซงเอ็กซิท เพื่อเป็นเบอร์ 2 อย่างชัดเจนด้วยส่วนแบ่ง 20% หลังจากที่ต้องแบ่งเก้าอี้รองแชมป์มานาน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us