|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จุฑานาวีมองธุรกิจเดินเรือปีนี้เข้าสู่ภาวะการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก คาดเติบโตจากปีก่อน 8% เผยปีนี้บริษัทฯมีรายได้ลดลง 20%เหลือ 400กว่าล้านบาท แต่กำไรพุ่งขึ้น เนื่องจากรับจ้างบริหารจัดการเรือเพิ่มเป็น 10 ลำ ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงลด และแนวโน้มค่าระวางเช่าเรือเพิ่มขึ้น
นายชเนศร์ เพ็ญชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จุฑานาวี จำกัด (มหาชน)(JUTHA) เปิดเผยว่าทิศทางธุรกิจเดินเรือทะเลเริ่มฟื้นตัวโดยในปีนี้คาดว่าจะขยายตัว ดีขึ้น 8%จากปีทีแล้วตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก รวมทั้งในปี 2552 มีเรือเก่าได้มีการทำลายเป็นเศษเหล็กคิดเป็น 30 ล้านเดทเวทตันและยกเลิกสั่งต่อเรือใหม่อีก 10 ล้านเดทเวทตัน ทำให้อุปทานใหม่หายไป
“เรามองว่าธุรกิจเดินเรือผ่านจุดเลวร้ายที่สุดแล้ว โดยปีนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นมากน้อยขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้มีการลดความเสี่ยงโดยตัดขายเรือที่มีอายุเกิน 25ปีออกไป และรับมอบเรือต่อใหม่เข้ามา 1 ลำ ทำให้อายุเฉลี่ยของเรือลดลงเหลือแค่ 7ปี ทำให้ค่าใช้จ่ายเดินเรือลดลงตามไปด้วยในช่วงที่ตลาดไม่ดี ส่วนแผนรอง คือบริษัทพยายามลดความเสี่ยงโดยเน้นบริหารจัดการเรือให้คนอื่นรวม 5 ลำและมีเรือตัวเองให้บริการเป็นเรือเช่า (Charter )อีก 5 ลำ ทำให้มีรายได้ที่แน่นอน “
นายชเนศร์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวม 400 กว่าล้านบาท ลดลง 20%จากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 618 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมีจำนวนเรือลดลงเหลือ 5 ลำจากปีก่อนมี 8 ลำ แต่ปีนี้บริษัทฯมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63.23 ล้านบาท เป็นผลจากบริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจ โดยหันมารับบริหารจัดการเรือเพิ่มขึ้นจาก 5 ลำ เป็น 10
ลำภายในปลายปี 2553 ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้รับจ้างบริหารเรือลำละ 1แสนกว่าเหรียญสหรัฐ รวมตลอดทั้งปี จะอยู่ที่ 1 ล้านกว่าเหรียญสหรัฐหรือ 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้จากการรับจ้างบริหารเพียง 15 ล้านบาท คิดเป็น 15-20%ของรายได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ในไตรมาส1/2553 บริษัทฯมีกำไรจากการทำสัญญาขายเรือไปเมื่อปลายปีที่แล้วด้วย ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเรือลดลงมาก เนื่องจากอายุเฉลี่ยเรือลดลง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 10% ทำให้ปีนี้บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานหลังจากปี 2552 ขาดทุนจากการดำเนินงาน 14.48 ล้านบาท
ด้านอัตราค่าระวางเรือเช่าในไตรมาส1/2553 อยู่ที่ 6,000 เหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ ดีขึ้นจากไตรมาส 4 ที่ผ่านมาเฉลี่ย 5,500 เหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ และปลายปีนี้มีโอกาสที่อัตราค่าระวางเรือเช่าจะสูงเพิ่มขึ้นเป็น 8,000-10,000 เหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้บริษัทฯจะไม่มีการลงทุนใหม่เพิ่มเติมหลังจากปีที่ แล้วรับมอบเรือใหม่มา 1 ลำ แต่หากปีหน้าเศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวดี ส่งผลให้ธุรกิจเดินเรือเติบโต บริษัทฯก็จะพิจารณาในการสั่งต่อเรือหรือซื้อเรือใหม่เพิ่มขึ้น
|
|
|
|
|