Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน3 มีนาคม 2553
กลุ่มชินร่วง!นักลงทุนแห่เทขาย-ADVANC อ่วม             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ชินคอร์ปอเรชั่น, บมจ.
Telecommunications
Stock Exchange




ตลาดหลักทรัพย์ ปลื้ม! หุ้นไทยบวกเพิ่ม 11 จุด จากนักลงทุนคลายความกังวลหลังการตัดสินยึดทรัพย์อดีตนายกฯไร้ความรุนแรง อีกทั้งปัจจัยนอกประเทศช่วยสนับสนุน ดันต่างชาติซื้อสุทธิ 4.3 พันล้าน ยกเว้นหุ้นเครือชินคอร์ปร่วงยกแผง เพราะความกังวลผลคำตัดสินกระทบธุรกิจ ด้าน “ภัทรียา” แนะนักลงทุนติดตามข้อมูลใกล้ชิด รอผลกระทรวงไอซีทีพิจารณาสัญญาสัปทาน ด้านบล.เคจีไอ ประเมินกรณีเลวร้ายสุดหากADVANCต้องจ่ายค่าชดเชยย้อนหลัง พร้อมส่วนแบ่งรายได้จะกระทบราคาหุ้น ถึง13.30บาทต่อหุ้น ฝั่งก.ล.ตระดมทีมกฎหมายวิเคราะห์คำตัดสิน สอบหุ้นในกลุ่มชินคอร์ป ชี้หากพบฐานความผิดพร้อมดำเนินการต่อทันที

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนื้(2มี.ค.) ดัชนีปิดที่ 733.19 จุด เพิ่มขึ้น 11.82 จุด หรือ +1.64% มูลค่าการซื้อขาย 27,953.89 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 733.19 จุด และต่ำสุด 723.71 จุด ซึ่งเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหมายเพราะมีปัจจัยภายนอกประเทศที่ตัวเลข เศรษฐกิจที่ออกมาดี และตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ยืนบวก ส่วนปัจจัยในประเทศหลังตัดสินคดียึดทรัพย์ฯ แม้จะมีเหตุการณ์วางระเบิดขึ้น แต่รัฐบาลก็ยังคุมสถานการณ์ได้ ทำให้วานนี้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่มาก ขณะเดียวกันหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคดี โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มชินคอร์ป ก็ถูกขายออกมามากเช่นกัน

โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) พบว่า หุ้นของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟ เวอร์วิส (ADVANC)ปรับลดลงสูงสุด โดยปิดที่ 84.25 บาท ลดลง3.75 บาท หรือ4.26% มูลค่าซื้อขาย 2,520.95 ล้านบาท ถัดมา บมจ. ไทยคม (THCOM) ปิดที่ 5.40 บาท ลดลง 0.65 บาท หรือ 10.74% มูลค่าซื้อขาย 178.17 ล้านบาท บมจ. ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 3.45% มูลค่าซื้อขาย 97.02 ล้านบาท และ บมจ. ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) ปิดที่ 3.26 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ 0.61% มูลค่าซื้อขาย 7.20 ล้านบาท ส่วนหุ้น บมจ.เอสซีแอสเซท (SC) ปิดที่ 11.20 บาท -0.30 บาท หรือ 2.61% มูลค่าซื้อขาย 31.517 ล้านบาท

ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ระดับ 10,221.84 จุด เพิ่มขึ้น 49.78 จุด หรือ 0.49 % ด้านดัชนี สเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ อยู่ที่ระดับ 2,778.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.72 จุด หรือ 0.17 %

ส่วนการข้อมูลการซื้อขายเมื่อแยกเป็นประเภทนักลงทุนพบว่า สถาบันขายสุทธิ 1,025.11 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนในประเทศที่ขายสุทธิ 3,641.75 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 271.86 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 4,395.00 ล้านบาท

โยนไอซีทีชี้ชะตาหุ้นเครือชิน คอร์ป

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่าการที่หุ้นกลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่นมีการปรับตัวลดลงนั้น จะจากนักลงทุนมีความกังวลว่าผลการตัดสินคดีนั้นจะมีผลกระทบกับธุรกิจหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่กระทบแต่ข่าวการตัดสินนั้นอาจเกี่ยวโยงกับธุรกิจโทร คมนาคมทำให้หุ้นดังกล่าวมีการปรับตัวลดลงบ้าง แต่อยากให้นักลงทุนมีการติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดในเรื่องจะมีการแก้ไขสัญญา สัปทานหรือไม่ หลังจากที่ศาลตัดสินว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของชินคอร์ป บมจ.แอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส และบมจ.ไทยคอม ซึ่งขึ้นอยู่กับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)จะมีการพิจารณาอย่างไร โดยส่วนตัวมองว่าเรื่องเป็นผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโดยรวม ไม่ได้กระทบตรงกับทางบริษัท

มั่นใจต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทย

ส่วน ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวานนี้ กรรมการและผู้จัดการ ตลท. ให้ความเห็นว่า ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคที่วันก่อนหน้ามีการปรับ ตัวเพิ่มขึ้น 1-2% และวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5%และประกอบกับตลาดหุ้นไทยปิดทำการติดต่อกัน 3วัน ทำให้นักลงทุนมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด และเพียงพอหลังจากที่มีการคำตัดสินคดียึดทรัพย์ของ อดีตนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้จากการสอบถามบริษัทหลักทรัพย์ฯในประเทศและต่างประเทศเกี่ยวกับทิศทาง ตลาดหุ้นไทยหลังจากที่มีคำตัดสินคดียึดทรัพย์ฯนั้น บริษัทหลักทรัพย์ฯตอบว่าข่าวที่ออกมานั้นเป็นเชิงบวกต่อการลงทุนจากที่ เรื่องดังกล่าวมีความชัดเจน จากก่อนหน้านี้ที่นักลงทุนได้มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว และในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศมีการซื้อสุทธิหุ้นไทย 7,448.80 ล้านบาท

โดย จากนี้เชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศก็จะมีการลงทุนในตลาดหุ้นไทยตามปกติ โดยจะพิจารณาการลงทุนจากงบการเงินและเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในปี 2552ที่ประกาศออกมา ส่วนการที่กลุ่มเสื้อแดงจะมีการนัดชุมนุมในวันที่ 12-14 มีนาคมนี้นั้น จะต้องมีการติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ซึ่งเชื่อว่าทางรัฐบาลจะมีการดูแลสถานการณ์ที่ดี ส่วนกรณีที่มีจะมีกระแสข่าววางระเบิดนั้น หากรัฐบาลมีการควบคุมได้ไม่กระจายวงกว้างเชื่อว่าจะไม่ร้ายแรง ซึ่งส่วนตัวมองว่าคงจะไม่มีผู้ที่จะสร้างกระแสความกังวลที่รุนแรงขึ้นอีก

ก.ล.ต.ระดมทีมกม.วิเคราะห์คำตัดสิน

นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า หลังศาลแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ มีคำตัดสินยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายของก.ล.ต ได้มีการประชุมเพื่อนำคำพิพากษามาพิจารณาดูว่ามีส่วนใดที่ทำผิด หรือเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหากพบว่าเป็นความผิดบนฐานพรบ.หลักทรพัย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต.ก็จะดำเนินการต่อทันที ส่วนจะเกี่ยวข้องในประเด็นใด และก.ล.ต.จะดำเนินการอย่างไรนั้น ไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นเรื่องภายในของ ก.ล.ต.

โบรกฯเชื่อวันนี้ดัชนีดีดตัวขึ้นต่อ

นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับตัว เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันประเด็นการเมืองภายในประเทศเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีการพิจารณาตัดสินยึด ทรัพย์บางส่วนของอดีตนายกรัฐมนตรี และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น จากก่อนหน้าที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง

สำหรับแนวโน้มวันนี้(3 มี.ค.) ประเมินว่า ดัชนีฯน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ หลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเรื่องการเมืองภายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองรวมถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวัน ที่ 12-14 มี.ค.ซึ่งประเด็นการเมืองเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ทั้งนี้แนะติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศประกอบการลงทุนด้วย โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ถือ ซึ่งประเมินแนวรับอยู่ที่ 725-730 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 740 จุด

คาดADVANCจ่ายชดเชยย้อนหลังอ๊วก

ด้านบทวิเคราะห์บล.เคจีไอ ระบุว่า ทางกระทรวงไอซีอี ได้รับหมอบหมายให้เข้าไปดูแลในเรื่องการแก้ไขสัญญาสัปทานในอดีตหลังจากคำ พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีมติเสียงข้างมาก ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของADVANC ในการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต และการแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับลดอัตราแบ่ง รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้า(พรีเพ ด)

ทั้งนี้บริษัทมองว่าประเด็นการแก้ไขสัญญาสัมปทานในอดีตคงจะใช้เวลานานในการ หาข้อสรุป ซึ่งบริษัทได้ประเมินแบ่งเป็น 3 กรณี คือ 1. แม้ว่าบริษัทจะไม่คิดว่าการแก้ไขสัญญาสัปทานจะมีการฟ้งอร้องความเสียและมี การเรียกร้องค่าชดเชยย้อนหลังอย่างมีนัยสำคัญต่อ ADVANC แต่หาก ADVANC ต้องจ่ายค่าชดเชยย้อนหลังแล้วคาดว่าค่าชดเชยย้อนหลังจะอยู่ที่ 2.03 หมื่นล้านบาท หรือกระทบต่อราคาหุ้น 7 บาทต่อหุ้น

2. ส่วนอัตราแบ่งรายได้จากการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพรีเพดเพิ่มขึ้นไป ที่ 30%จากนี้เป็นต้นไปจนหมดอายุสัมปทานจะได้รับผลกระทบ 1.86 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 6.30 บาทต่อหุ้น และ3.ในกรณีที่เลวร้ายสุดคือ ADVANC ต้องจ่ายค่าชดเชยย้อนหลังและอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่แบบพรีเพดปรับเพิ่มขึ้นไปที่ 30% จากนี้เป็นต้นไปจนหมดอายุสัปทานจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นคิดเป็น 13.30 บาทต่อหุ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us