“กรณ์” ไอเดียเก๋ขายบอนด์ออมทรัพย์ล็อตใหม่ให้ผู้สูงอายุที่พลาดการจองซื้อครั้งแรกก่อนเปิดขายทั่วไป สบน.ไม่จำกัดเปิดทางแบงก์ใหญ่-เล็กยื่นข้อเสนอได้ทุกแบงก์ เชื่อ 1 แสนล้านขายเกลี้ยงในวันเดียว ด้านออมสิน-ธ.ก.ส.ประสานเสียงไม่กระทบยันลูกค้าคนละกลุ่มชี้กระทบเงินฝากแบงก์พาณิชย์มากกว่า

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อต 2 วงเงิน 8 หมื่นล้านบาทปลายเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้ กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะให้สิทธิ์แก่ผู้สูงอายุ ที่มาลงทะเบียนแสดงความต้องการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งในล็อตแรกเมื่อปี 52 ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจากหมดวงเงินไปแล้ว ให้สามารถซื้อพันธบัตรฯในล็อตที่ 2 นี้ได้ก่อนเป็นชุดแรก เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการ และจากนั้นจึงจะให้สิทธิ์กับผู้สูงอายุที่มาลงทะเบียนซื้อพันธบัตรในล็อต 2 ตามเวลาปกติที่จะเปิดให้จองซื้อคือตั้งแต่วันที่ 29-30 มี.ค. และบุคคลทั่วไประหว่างวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย.นี้

นอกจากนี้ หากมีผู้สูงอายุจองซื้อพันธบัตรในล็อตที่ 2 เกินวงเงินที่กำหนดไว้ กระทรวงการคลังก็พร้อมที่จะนำวงเงินในส่วนที่เตรียมไว้ให้ประชาชนทั่วไปมาขายให้ผู้สูงอายุก่อน เช่นเดียวกับที่ได้ดำเนินการไปในการขายพันธบัตรฯล็อตแรก แต่ทั้งนี้วงเงินจะไม่เพิ่มเกิน 1 แสนล้านบาท เนื่องจากมติครม.อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกพันธบัตรฯ วงเงิน 1 แสนล้านบาทเพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท จากการกู้เงินระยะสั้นเป็นพันธบัตรระยะยาว ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้เงินมากกว่านั้น

***เปิดกว้างทุกแบงก์ยื่นข้อเสนอ

นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ สบน.จะเชิญธนาคารทั้งหมด ทั้งขนาดใหญ่และเล็กรวมทั้งธนาคารเฉพาะกิจของรัฐมาเสนออัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขในการเป็นตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรออทรัพย์ไทยเข้มแข็ง รอบ 2 วงเงิน 1 แสนล้านบาท ที่จะเปิดขายในระหว่างวันที่ 29-30 มีนาคมนี้ เพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม รวมถึงจัดสรรวงเงินที่จะให้แต่ละธนาคารได้รับไปจำหน่าย ซึ่งยังเป็นการพิจารณาตามฐานเงินฝากของแต่ละธนาคารเช่นเดียวกับการเปิดจำหน่ายพันธบัตรล็อตแรก แต่ก็ไม่ใช่เงื่อนไขหลัก และคาดว่าธนาคารจะไม่คิดค่าธรรมเนียมในการจัดจำหน่ายเหมือนกับรอบแรก เพราะธนาคารต้องการรักษาฐานเงินฝากมากกว่า

“วงเงินที่กำหนดให้แต่ธนาคารขายได้ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคนนั้น หากจะมีการเวียนไปจองกับธนาคารอื่นอีก เชื่อว่าทำได้ เพราะแต่ละธนาคารยังไม่มีระบบตรวจสอบส่วนนี้ แต่เชื่อว่า วงเงิน 1 แสนล้านบาทที่จะเปิดขายนั้นจะหมดตั้งแต่วันแรก เพราะยังมีกลุ่มที่พลาดจากรอบแรกอีกจำนวนมาก และยังเป็นการเปิดขายให้กับผู้สูงอายุก่อนด้วย ซึ่งต้องไปจองซื้อด้วยตัวเอง”นายจักรกฤศฎิ์กล่าว

***เชื่อดูดเงินแบงก์พาณิชย์

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังจะออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อต 2 วงเงิน 1 แสนบาทว่า คงไม่กระทบกับเงินฝากของธนาคาร โดยเชื่อมั่นว่าลูกค้าของแบงก์จะไม่ถอนเงินฝากหรือสลากออมสินไปซื้อบอนด์ออมทรัพย์ของรัฐบาลแม้วาจะมีดอกเบี้ยจูงใจกว่า เนื่องจากขณะนี้ยังมีเงินฝากไหลเข้ามาตามปกติไม่ได้ชะลอลงทั้งส่วนของเงินฝากและซื้อสลากออมสิน รุ่นชิงรถเบนซ์ที่ล่าสุดได้ยอดรวม 1.4 แสนล้านบาท คาดว่าถึงเดือนเมษายนนี้น่าจะได้ถึง 1.7 แสนล้านบาทตามที่คาดการณ์ไว้

"การที่กระทรวงคลังจะออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งแสนล้านบาทโดยทยอยออกนั้น ไม่น่าจะกระทบกับเงินฝากของออมสิน เพราะส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อยๆ และเป็นกลุ่มที่ชอบลุ้นรางวัลจากสลากออมสิน โดยมองว่าน่าจะกระทบกับเงินฝากของแบงก์พาณิชย์ที่อาจถูกโยกมาซื้อพันธบัตรออมทรัพย์แทนมากกว่า" นายเลอศักดิ์ กล่าว

***ธ.ก.ส.ชี้ลูกค้าคนละกลุ่ม

ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ระบุว่าการระดมเงินผ่านบัตรเพิ่มทรัพย์ชุดที่ 3 และ 4 วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท หน่วยละ 100 บาท อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 0.33% ต่อปี จำหน่ายหมดไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วยซ้ำ จึงมองว่าหากกระทรวงการคลังออกพันธบัตรออมทรัพย์คงไม่กระทบกับเงินฝากหรือการออกสลากหรือระดมทุนรูปแบบใหม่ของธนาคาร เพราะลูกค้าอาจเป็นคนละกลุ่มกันและเป็นรายย่อยที่ไม่สนใจการโยกเงินหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง ธ.ก.ส.มีแผนจะกระจายเงินฝากในรูปสลากให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยประมาณเดือนพ.ค.นี้อาจจะออกสลากหรือบัตรเงินฝากที่มีราคาต่อหน่วย 1,000 บาท หลังจากที่มี 500 บาทและ 100 บาทก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยอาจเน้นจับกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้เกษียณที่มีเงินก้อน ซึ่งจะเน้นให้ดอกเบี้ยสูงจูงใจมากกว่าการลุ้นรางวัลเหมือนที่ผ่านมา ส่วนอัตราดอกเบี้ยและวงเงินอยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสม.