กลุ่มมหพันธ์แจงปี52 ยอดขายรวมโตกว่า 10% เติบโตสูงกว่าตลาดรวมที่ขยายตัวเพียง 3-5% พร้อมเผยแผน-กลยุทธ์ตลาดปี53เน้นเจาะตลาดต่างส่งออก กลุ่มตะวันออกกลาง-แอฟริกาใต้ หวังเพิ่มรายได้ส่งออกโตเพิ่มเป็น10% จากเดิมเติบโต5% ต่อปี พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ “คอร์โรชีลด์” เน้นเจาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารขนาดใหญ่ ชูจุดขายช่วยลดความร้อนและไม่ผุกร่อน ปรับปรับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์เป็น Green Conept รับกระแสโลกร้อน

นายสมเกียรติ วงมาเจริญสิน ผู้อำนวยการกลุ่มมหพันธ์ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลังคาตราห้าห่วง และผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ตราเฌอร่า กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดหลังคาห้าห่วงในปี 2553 นั้น คาดว่าจะโตขึ้น 5% เนื่องจากไดรับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น และจะช่วยให้ตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศทางปรับตัวดีขึ้นจากปีทีผ่านมา โดยในปีนี้กลุ่มมหพันธ์วางเป้าหมายการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น

ซึ่งนอกจากประเทศเพื่อนแล้วยังมีการขยายตลาดไปสู่ตลาดเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้ ซึ่งจะทำให้บรัทมีอัตราการเติบโตจากรายได้การส่งออกไปในต่างประเทศปรับตัวขึ้นจากเดิมที่วางไว้ว่าจะเติบโตต่อปี 5% เพิ่มขึ้นเป็น 10% เนื่องจากหลังคาห้าห่วงได้ปรับลักษณ์เป็น Green แล้ว ซึ่งตอบรับกับกระแสภาวะโลกร้อน เชื่อว่าจะช่วยให้ลูกค้าตอบรับกับสินค้าของบริษัทมาขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา บริษัท มียอดขายของธุรกิจหลังคาห้าห่วงโดยรวม เติบโต 10% จากที่คาดว่าตลาดรวมจะโตแค่ 3 - 5% โดยมาจากการขยายตลาดไตรลอน ซึ่งตลาดไตรลอนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2552 ตลาดไตรลอนโตถึง 40% โดยเจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดและลูกค้าย่านชานเมือง นอกจากนี้ยังมีการขยายตลาดสินค้าที่เป็นกลุ่มหลังคาสีมากขึ้น ซึ่งปี 2553 มีสัดส่วนของหลังคาสี 50% หลังคาขาว 50% ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากปี 2552 ที่มีสัดส่วนหลังคาสี 40% หลังคาขาว 60%

สำหรับในกลุ่มหลังคาน้ำหนักเบา หลังคาห้าห่วงไตรลอนยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2553 การขยายตลาดของไตรลอนยังไม่หยุดนิ่งจากการสำรวจความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค หลังคาห้าห่วงไตรลอนจึงเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ เป็น สีดูอัล โทน ซึ่งให้รูปลักษณ์และสีที่คล้ายกับหลังคาคอนกรีต แต่เน้นลักษณะงานที่เหมาะกับโครงสร้างน้ำหนักเบา โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2553 ในส่วนของหลังคาห้าห่วง ซีดาร์ เชค นอกจากจะเน้นเจาะกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทแล้ว ยังเน้นกลุ่มบ้านคนในเมืองที่มีความต้องการบ้านที่เน้นสไตล์ธรรมชาติ

ส่วนของหลังคาห้าห่วงคอร์โรชีลด์ ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารขนาดใหญ่ โดยมีจุดขาย คือ ช่วยลดความร้อนและไม่ผุกร่อน นอกจากนี้หลังคาห้าห่วง คอร์โรชีลด์ได้ร่วมมือพัฒนากับทางภาคเอกชนรายใหญ่ ในการพัฒนาในเรื่องของฟาร์มโซลูชั่น ที่สามารถใช้งานได้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อขยายตลาดฟาร์ม และในส่วนของตลาดกลุ่มหลังคาคอนกรีตไม่ว่าจะเป็น แกรนนาด้า แม็กม่า และชิงเกิ้ล จะเน้นไปที่ลูกค้าผู้ใช้งานเพื่อขยายตลาดค้าปลีก โดยสื่อสารทางตรงกับผู้บริโภค ชี้จุดขายในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ต่างจากตลาดหลังคาคอนกรีตที่มีอยู่ในตลาด และทำโปรโมชั่นกับร้านตัวแทนจำหน่าย เพื่อผลักดันยอดขายและขยายตลาดร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สำหรับหลังคาห้าห่วงได้มีการปรับภาพลักษณ์ให้ดูเป็น Green Conept เพราะได้เล็งเห็นในเรื่องของการใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุดได้เปิดตัว “มหพันธ์ครีเอทีฟลิฟวิ่งโฮม” ซึ่งเป็นการทำตลาดแบบ “ระบบบ้านยกหลัง” โดยใช้วัสดุก่อสร้างภายใต้แบรนด์ห้าห่วงและเฌอร่า ที่ได้มาตรฐานสากลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “The Next Green Innotegration” ซึ่งตรงกันกระแสการหันมาให้ความสนใจในการอนุรักสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานด้วย