ถ้าเป็นสมัยก่อนเวลาพูดถึงหนังสือรายงานประจำปี ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพียงการแสดงรายชื่อคณะกรรมการ
ผู้บริหารและงบการเงินเท่านั้น
แต่ปัจจุบันนี้กิจการชั้นนำต่างก็ให้ความสำคัญกับการเพิ่มคุณค่าของหนังสือรายงานประจำปีให้ทำหน้าที่
"สิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์" ไปในตัวด้วย
หลายแห่งมีการเพิ่มเนื้อหาการแนะนำกิจการหรือธุรกิจที่ทำ แถมยังมีการให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจหรือการให้ภาพรวมการวิเคราะห์ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
เพื่อแสดงว่าเป็นกิจการที่มี "ภูมิรู้" ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนารูปแบบที่สวยงามยิ่งขึ้น
ยิ่งมีการจัดการประกวดหนังสือรายงานประจำปีตั้งแต่ปี 2520 โดยมีตลาดหลักทรัพย์เป็นแกนกลางร่วมกับสถาบันอื่นอีก
7 แห่ง ก็ยิ่งกระตุ้นให้มีการแข่งขันปรับปรุงคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นได้ชัดในระยะ
3-4 ปีที่ผ่านมาจะเห็นการพัฒนารูปแบบและเนื้อหาไปในทางบวก มีการใช้งบประมาณตั้งแต่หลายหมื่นบาท
จนถึงหลายแสนบาท
นับว่ามีส่วนช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับธุรกิจการออกแบบจัดพิมพ์และระบบการพิมพ์เป็นอย่างมาก
สำหรับพิธีแจกรางวัลผลงานที่ชนะการประกวดสำหรับปีล่าสุดนี้จัดที่ห้องนภาลัย
โรงแรมดุสิตธานี เผอิญค่ำวันนั้น ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ขึ้นชกชิงแชมป์โลกกับกิลเบอร์โตโรมัน
เลยพลอยทำให้ตอนต้นของงานคนออกจะบางตา
และเมื่อพิชัย วาศนาส่ง พิธีกรประจำของงานนี้เปรยผ่านเครื่องขยายเสียงว่า
"วันนี้เรายังไม่ได้แชมป์โลกเพิ่มขึ้นอีกคน เพราะก้องธรณีของเราไม่ชนะ"
เล่นเอาหลายคนบ่นเสียดาย
แต่รายการปาฐกถาเรื่อง "ก้าวต่อไปของเศรษฐกิจไทยและพัฒนาตลาดทุน"
โดย ดร. เสนาะ อูนากูล เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
นับว่าช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดีขึ้นมาก แม้จะยาวไปนิด แต่ลูกเล่นและแง่คิดจากการพูดที่ว่า
เมืองไทยความมุ่งสู่การเป็น "ประเทศอุตสาหกรรมใหม่แบบไทยไทย" นั้นน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ผลการประกวดที่ได้รับรางวัลซึ่ง พนัส สิมะเสถียร ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการมอบสำหรับปีนี้ได้แก่
ประเภทที่ 1 กิจการที่มีสินทรัพย์หรือรายได้รวมเกิน 2,000 ล้านบาท เข้าประกวด
17 ราย รางวัลดีเด่นคือ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รางวัลดีได้แก่
ทิสโก้ ร่วมเสริมกิจ และสินเอเชีย รางวัลชมเชยเป็นของธนาคารกสิกรไทย
ส่วนขนาดกิจการไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ส่งประกวด 10 ราย รางวัลดีเด่นไม่มี
ภัทรประกันภัย ได้รางวัลดีเด่น และกองทุนทรัพย์ทวี กองทุนสินภิญโญ กองทุนสินภิญโญ
2 กองทุนสินภิญโญ 3 ได้รางวัลชมเชยทั้ง 4 เล่ม
ประเภทที่ 2 กิจการอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมที่มีสินทรัพย์เกิน 1,000 ล้านบาท
ส่งเข้าประกวด 14 ราย การปิโตรเลี่ยมฯ ได้ดีเด่น ปูนซิเมนต์ไทยและอินเตอร์เนชั่นแนลคอสเมติคส์
ได้รางวัลดี โดยมีบางจากปิโตรเลียมและไทยออยล์ ได้ชมเชย
ส่วนขนาดไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ส่งประกวด 23 ราย ดีเด่นไม่มี ดาตาแมทได้ดี
ชมเชยเป็นของ สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง และฝาจีบ
ประเภทที่ 3 กิจการสาธารณูปโภค ส่งประกวด 7 ราย ดีเด่น คือ การไฟฟ้านครหลวง
ดี ได้แก่ การสื่อสารแห่งประเทศไทยและการประปานครหลวง ชมเชย ได้แก่ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
ประเภทที่ 4 กิจการที่ไม่แสวงหากำไร ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดีเด่น และหอการค้าไทย
ได้ดี
นอกจากนี้ยังมีกติกาว่ากิจการใดได้รางวัลดีเด่น 3 ปีซ้อน จะได้รางวัลเกียรติยศและการประกาศเกียรติคุณโดยไม่ต้องส่งเข้าประกวดอีก
3 ปี ซึ่งสหยูเนียน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และธนาคารกรุงเทพ ติดอันดับมาแล้ว
หลายคนเห็นหนังสือรายงานประจำปีของธนาคารกรุงเทพปีล่าสุดเลยเกิดข้อสงสัยว่า
คนออกแบบฝีมือตก หรือว่าคนทำเห็นว่าไม่ต้องส่งประกวดก็ได้รับการประกาศเกียรติคุณอยู่แล้วเลยไม่ออกแรงเต็มที่ก็ไม่รู้
ส่วนกสิกรไทย แบงก์ยักษ์หมายเลข 2 คราวนี้เพิ่งจะประเดิมรับรางวัลเป็นครั้งแรกแม้จะได้แค่ชมเชย
เพราะที่แล้วๆ มาได้แต่ปล่อยให้บริษัทน้องเล็กในกลุ่มคือภัทรประกันภัย รับรางวัลมา
3 ปีซ้อน ช่วยแก้หน้าให้