|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"พรีเชียส ชิปปิ้ง "ทยอยรับเรือใหม่เพิ่มขยายกองเรือ หลังปีก่อนขายเรือเก่าไป 25 ลำ ปลายมีนาคมคว้าเรือมือสองเข้าเสริม 1 ลำ และครึ่งปีหลังรับเรือใหม่เสริมทัพอีก 2 ลำ อ่อยจำนวนเรือลดกระทบรายได้รวม เน้นทำสัญญาเช่าเรือระยะยาวกับลูกค้าเพิ่มลดเสี่ยง คาดค่าระวางเรืออยู่ที่ 12,500 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน ส่อดึงรายได้ลดลงตาม ยันกระแสเงินสดในมือล้นแถมไร้หนี้ พร้อมจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง
นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิปปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือPSL เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทมีกำหนดการที่จะรับมองเรือเพิ่มเข้ามา 3 ลำ โดย ลำแรกจะเป็นเรือมือสองที่มีอายุการใช้งานน้อยเข้ามาประจำการช่วงปลายมีนาคมหรือต้นเมษายนนี้ ส่วนอีก 2 ลำจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปี53ซึ่งเป็นเรือที่บริษัทสั่งต่อใหม่ทั้งหมด 18 ลำ โดยจะทยอยรับมอบตลอดระยะเวลา 5 ปีจากนี้ (53 -57)
สำหรับปี 52 บริษัทดำเนินการขายเรือเก่าตามแผนลดอายุกองเรือออกไปแล้วทั้งสิ้น 25 ลำ จากจำนวนกองเรือขนส่งสินค้าทั้งหมด 44 ลำ และรับมอบเรือใหม่เข้ามาสมทบลำแรก เมื่อปลายปีที่ผ่านมา 1 ลำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของลูกค้าในการเลือกทำสัญญากับบริษัท ว่าถ้าลูกค้าเลือกสัญญา 12 -15 เดือน ก็จะส่งผลต่อ EBITDA ประมาณ 3.28 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าเลือก 25-28 เดือนก็จะส่งผลต่อ EBITDA ประมาณ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าภายในมีนาคมนี้ จะสามารถสรุปรูปแบบการตัดสินใจได้
ส่วนเรืออีก 1 ลำที่จะรับมอบช่วงมีนาคมนั้น บริษัทจะนำเรือดังกล่าวไปเดินสินค้าให้กับลูกค้าเดิมที่ยังมีสัญญาระหว่างกันอยู่อีก 4-5 ปี เพื่อทดแทนเรือเดิมที่ขายออกไป ซึ่งจะสร้าง EBITDAให้แก่บริษัท 15.29 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยประเมินว่า ปีนี้ค่าระวางเรือของบริษัทจะลดลงมาที่ประมาณ 12,500 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน ลดจากปีก่อน ที่อยู่ในระดับ 13,459 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน เหตุจากจำนวนเรือที่ลดลง ขณะมีผู้ประกอบการเดินเรือเข้ามาแข่งขันมากขึ้น แต่ปี 54 บริษัทคาดว่าค่าระวางเรือจะฟื้นตัวกลับมาที่ 15,021 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน เนื่องจากความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือของประเทศจีนมีมากขึ้นตามความต้องการเหล็กและสินแร่ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดโดยรวมดีขึ้น รวมทั้งบริษัทที่จะได้รับมอบเรือที่สั่งต่อใหม่เข้ามาเพิ่มเข้ามา
" ภายใต้จำนวนเรือที่ลดลง จะส่งผลกระทบต่อรายได้รวมของบริษัทลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่การที่บริษัททำสัญญากับลูกค้าในการเช่าเรือระยะยาวถึง 63% ของความสามารถปัจจุบัน จึงช่วยลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันนี้ได้ส่วนหนึ่ง" นายคาลิด กล่าว
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าบริษัทมีกระแสเงินสดในมือคงเหลือและไม่มีหนี้ค้างชำระ จึงทำให้เชื่อว่าในอนาคตยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการลงทุนในแง่ของการซื้อเรือสั่งต่อใหม่และเรือเก่าก็ตาม รวมถึงไม่มีแผนหรือนโยบายที่จะลงทุนในธุรกิจอื่นที่นอกเหนือธุรกิจเดินเรือ เพราะเชื่อว่าธุรกิจเดินเรือยังมีอนาคตที่ดี เนื่องจากประเมินว่าความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้จากความต้องการในสินค้าทั้งจีนและตะวันออกกลางที่ปรับตัวดีขึ้นมาแล้ว
|
|
|
|
|