นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 52 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 6,801.87 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 51 ที่มีกำไรสุทธิ 11,738.97 ล้านบาท หรือลดลง 493.10 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 42.05%

โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากการขาย 83,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี 81,960 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2% และมี

EBITDA ปีนี้ 15,546 ล้านบาทขณะที่ปี 51 มีถึง 20,258 ล้านบาทหรือลดลง 23% เนื่องจากในปี 52 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย (Dubai) เท่ากับ 62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาเรลล์ ปรับตัวลดลงจากปี 51 ที่ 93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาเรลล์ ส่งผลให้ราคา Naphtha ปรับตัวลดลงเป็น 547 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จากเดิมที่ 798 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ในปี 51 หรือลดลง 32 % ประกอบกับในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 51 เป็นช่วงขาขึ้นของธุรกิจปิโตรเคมี ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ HDPE เฉลี่ยทั้งปี สูงถึง 1,476 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ในขณะที่ ราคา HDPE เฉลี่ยในปี 52 ปรับตัวลดลงเป็น 1,134 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือลดลง 23 % จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่เริ่มต้นตั้งแต่ไตรมาส 4/2551 ต่อเนื่องถึงต้นไตรมาส 2/2552 ทำให้ส่วนของผลต่างของราคาผลิตภัณฑ์ HDPE และวัตถุดิบ Naphtha ปี 52 เท่ากับ 587 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ลดลงจาก 678 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันในปี 51 หรือลดลง 13%

นายปวัน กุมาร์ เจน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TCB แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 52 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 878 ล้านบาท เทียบกับปี 51 บริษัทมีกำไรสุทธิ 185 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 374% เนื่องจากต้นทุนขายลดลง 50% ผลจากวัตถุดิบหลักซึ่งคือ น้ำมันหนืด เป็นสินค้าที่อิงกับราคาในตลาดโลก มีราคาลดลงอย่างมากในปี 52 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 51 ส่วนยอดขาย ลดลง 39% จาก 9,032 ล้านบาทในปี 51 เป็น 5,483 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่ลดลง ขณะค่าใช้จ่ายในการขายลดลง

ดังนั้นจากธุรกิจหลักและสถานะทางการเงินของบริษัทฯยังคงแข็งแกร่ง รวมทั้งกระแสเงินสดของบริษัทฯยังคงมีความคล่องตัวดีอยู่ คณะกรรมการบริษัทจึงอนุมัติให้จัดสรรกำไรเพื่อจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานปี 52 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 27 พฤษภาคม53