ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานตัวเลขสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ วันที่ 31 มกราคม 2553 มียอดคงค้างสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย เดือนมกราคม 2553 มีจำนวน 5,743,534 ล้านบาท ลดลงจากเดือนที่แล้ว 38,406 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 0.66 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.36 โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง สินเชื่อปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 22,794 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 0.59 นำโดยธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกรไทย และกรุงเทพ มีสินเชื่อลดลงจำนวน 19,803 9,755 และ 4,140 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนธนาคารกรุงไทย เป็นธนาคารเดียวในกลุ่มที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 10,904 ล้านบาท

กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 4 แห่ง สินเชื่อปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า 14,989 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 1.06 จากการลดลงของสินเชื่อธนาคารทหารไทยเป็นหลัก จำนวน 11,089 ล้านบาท ตามมาด้วยธนาคารกรุงศรีอยุธยา และนครหลวงไทย จำนวน 2,759 และ 2,608 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนธนาคารธนชาต เป็นธนาคารเดียวในกลุ่มที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 1,468 ล้านบาท และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 6 แห่ง สินเชื่อลดลงจากเดือนที่แล้วเล็กน้อย 623 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 0.12 จากการลดลงของสินเชื่อธนาคารยูโอบี สินเอเซีย และทิสโก้ จำนวน 2,097 1,251 และ 693 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย เกียรตินาคินและซีไอเอ็มบีไทย มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นจำนวน 1,792 949 และ 677 ล้านบาท ตามลำดับ

ด้านเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเดือนมกราคม 2553 มียอดคงค้างทั้งสิ้น 6,446,251 ล้านบาท ลดลงจากเดือนที่แล้ว 58,280 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 0.90 และลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.39 กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง เงินฝากปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 21,731 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 0.48 นำโดยธนาคารกรุงไทย ไทยพาณิชย์ และกรุงเทพ มีเงินฝากลดลงจำนวน 13,748 9,885 และ 3,519 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนธนาคารกสิกรไทย เป็นธนาคารเดียวในกลุ่มที่มีเงินฝากเพิ่มขึ้นจำนวน 5,421 ล้านบาท

กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 4 แห่ง เงินฝากลดลงจากเดือนก่อนหน้า 26,787 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.76 โดยเป็นการลดลงทั้งกลุ่ม นำโดยธนาคารทหารไทย และธนชาต จำนวน 15,865 และ 9,132 ล้านบาทตามลำดับ ตามมาด้วยธนาคารกรุงศรีอยุธยา และนครหลวงไทย มีเงินฝากลดลง 1,341 และ 450 ล้านบาทตามลำดับ

และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 6 แห่ง เงินฝากลดลงจากเดือนที่แล้ว 9,762 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 1.96 ตามการลดลงของเงินฝากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย เกียรตินาคิน ซีไอเอ็มบีไทย และยูโอบีจำนวน 5,457 4,468 4,310 และ 1,994 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ธนาคารทิสโก้ และสินเอเซีย มีเงินฝากเพิ่มขึ้น 4,232 และ 2,236 ล้านบาท ตามลำดับ