โตโยต้าเปิดสังเวียนผ้าใบปะทะอีซูซุ ชิงตลาดปิกอัพตั้งแต่ต้นปี เหตุผลลัพธ์จากการจัดแข่งขันชกมวย สปอร์ตมาร์เกตติ้งเดียวที่สร้างยอดขายในงานได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แถมยังเสริมภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำได้เป็นวงกว้าง อีซูซุเองก็มองเห็นโอกาสของสปอร์ตมาร์เกตติ้งดังกล่าว โดยจัดมวย อีซูซุ คัพ ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 20 ส่วนโตโยต้ายังเหนียวแน่นจัด ศึกมวยไทยมาราธอน วีโก้ สมาร์ท ปีนี้ 5 สนาม พร้อมดึงซีพีเอฟ เข้าร่วมหวังเป็นแม่เหล็กดึงคนเข้างานเสริม

ไม่น่าเชื่อว่ากีฬาพื้นบ้านอย่างมวยไทย กลายเป็นยุทธศาสตร์สปอร์ตมาร์เกตติ้งสำคัญที่ค่ายรถปิกอัพรายใหญ่ ทั้งโตโยต้า และอีซูซุ ทิ้งไม่ได้ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขาขึ้นหรือขาลง ส่วนหนึ่งเพราะที่ผ่านมาการจัดแข่งขันชกมวยหลายๆ รายการที่มีบริษัทผู้ผลิตรถปิกอัพเข้าร่วมสนับสนุน สามารถเสริมยอดขายรถให้กับบริษัทผู้ผลิตได้เป็นอย่างดี เนื่องจากกลุ่มที่ชื่นชอบกีฬาชกมวยไทย ส่วนใหญ่เป็นเพศชายกลางคนที่มีฐานะทางการเงินค่อนข้างดี และมีอาชีพหลากหลาย ตั้งแต่เจ้าของกิจการไปจนถึงอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายในตลาดปิกอัพนั่นเอง

มีการเปิดเผยจากบริษัทผู้ผลิตรถปิกอัพแห่งหนึ่งว่า การจัดการแข่งขันชกมวยแต่ละครั้งจะมียอดขายรถปิกอัพในงานกว่า 500-600 คัน เป็นตัวเลขที่สูงมาก เมื่อเทียบกับการจัดกิจกรรมโรดโชว์อื่นๆ ยอดขายนี้ยังเป็นการเพิ่มยอดให้กับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่อีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ดีลเลอร์หลายๆ แห่งต้องการให้มีการจัดกิจกรรมสปอร์ตมาร์เกตติ้งดังกล่าวในพื้นที่ของตนเอง

นิกร ประเสริฐสม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยอมรับว่า การจัดกิจกรรมโรดโชว์ในรูปแบบสปอร์ตมาร์เกตติ้ง จากกีฬามวยไทย น่าจะช่วยให้ยอดขายรถในพื้นที่นั้นสูงขึ้นระดับหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งการลงทุนดังกล่าวโตโยต้าจะได้ในเรื่องภาพลักษณ์ และการจดจำต่อแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น เพราะนอกจากจะมีคนในพื้นที่เข้าร่วมงานแล้ว ยังมีกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดใกล้เคียง หรือพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมงาน ที่สำคัญมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์กระจายไปทั่วประเทศอีกด้วย ขณะที่ดีลเลอร์ก็จะมีการออกบูทเพื่อขายรถยนต์โดยเฉพาะปิกอัพที่ตรงกับความ ต้องการกลุ่มเป้าหมาย ด้วยเงื่อนไขพิเศษ เพื่อสร้างความน่าสนใจต่อตัวผลิตภัณฑ์

สำหรับโตโยต้านั้น กิจกรรมแข่งขันมวยไทยหลักๆ จะเป็นการจัดร่วมกับ คาราวานซีพีเอฟ ซึ่งเป็นการขายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยปีนี้จะจัดต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา มีทั้งหมด 5 สนาม เริ่มสนามแรกที่ จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ ภายใต้ชื่อ ศึกแชมป์มวยไทย มาราธอน วีโก้ สมาร์ท และคาราวาน ซีพีเอฟ

ขณะที่ 4 สนามที่เหลือนั้นโตโยต้าบอกว่าอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก และยอมรับว่า มีดีลเลอร์หลายแห่งต้องการให้โตโยต้าเข้าไปจัดกิจกรรมดังกล่าว แต่การพิจารณาต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ประกอบด้วย

กรณีของการเริ่มประเดิมสนามแรกที่ฉะเชิงเทรานั้น ส่วนหนึ่งเพราะเป็นจังหวัดที่มีนักกีฬามวยไทยที่มีชื่อเสียงอยู่เป็นจำนวน มาก อีกทั้งจังหวัดดังกล่าวมีพื้นที่ใกล้กับหลายๆ จังหวัด เช่น ชลบุรี สมุทรปราการ นครนายก ถือเป็นชัยภูมิที่ดีของการจัดสปอร์ตมาร์เกตติ้งกีฬามวยไทยดังกล่าว

ความน่าสนใจของ ศึกแชมป์มวยไทย มาราธอน วีโก้ สมาร์ท และคาราวาน ซีพีเอฟ นั้น อยู่ที่โปรโมเตอร์จัดการแข่งขันอย่าง บริษัท เพชรยินดี บ๊อกซิ่งโปรโมชั่น ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์ชื่อดังจากเวทีมวยลุมพินี เวทีมวยไทยที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับจากแฟนมวยอีกด้วย ส่วนรางวัลจากการแข่งขันก็สูงถึง 500,000 บาท และใช้สถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 7 ในการถ่ายทอดสดการแข่งขัน

ด้านอีซูซุนั้น เหนียวแน่นกับการทำสปอร์ตมาร์เกตติ้งผ่านกีฬาชกมวยมาอย่างยาวนาน โดยปีนี้เป็นปีที่ 20 สำหรับการแข่งขันมวยไทยอีซูซุคัพ และในแต่ละปีก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี นอกจากนี้อีซูซุเองก็มีพันธมิตรหลายราย เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับกิจกรรม โดยเฉพาะการดึงคนเป้าหมายเข้าร่วมงานนอกเหนือจากกลุ่มที่ต้องการชมกีฬามวย ไทย

อีซูซุในชื่อกิจกรรมดังกล่าวว่า "ศึกอีซูซุ ดีแมคซ์ ยอดพลัง ยอดประหยัดน้ำมัน" เป็นการตอกย้ำจุดขายที่คงทนถาวรคือ ความประหยัด ปีที่ผ่านมานั้นเป็นการจัดร่วมกับโปรโมเตอร์ในนาม บริษัท บอสส์บ๊อกซิ่ง 2000 จำกัด ส่วนในปีนี้จะเป็นปีที่ 20 ของกิจกรรมแข่งขันชกมวยไทยศึกอีซูซุคัพ แต่มีการพัฒนาเป็นโครงการที่ชื่อ "รักชาติ...รักษ์มวยไทย" และมีการปรับเปลี่ยนชื่อกิจกรรมเป็น "ศึกอีซูซุ ซูเปอร์ แพลททินั่ม" โดยมีเงินรางวัลจากการแข่งขันมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท พร้อมด้วยรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ แพลทินั่ม อีก 1 คัน และมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

นอกจากกิจกรรมการแข่งขันชกมวยไทยอีซูซุคัพแล้ว ภายในงานก็มีการออกบูทสำหรับจำหน่ายรถปิกอัพอีซูซุทุกรุ่น พร้อมด้วยแคมเปญพิเศษเฉพาะงาน เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว

ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่ในสงครามตลาดปิกอัพระหว่าง 2 ค่ายใหญ่ ไม่ว่าจะมีกิจกรรมการตลาดในรูปแบบโรดโชว์ใดๆ ออกมา คู่แข่งย่อมต้องขยับออกมาทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นการทำเลียนแบบกัน แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยเฉพาะโรดโชว์อย่างกีฬามวยไทย ที่เพิ่มทั้งยอดขาย และตอกย้ำแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ และรู้จักในวงกว้าง