Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2529
คำปราศรัยครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของ ตามใจ ขำภโต             
 


   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
Banking
ตามใจ ขำภโต




เมื่อวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2528 ที่โรงแรมแกรนด์พาเลซ พัทยา ธนาคารกรุงไทยได้มีการจัดสัมมนาผู้บริหารระดับสูงร่วมกับผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ 217 สาขา เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ธนาคารพาณิชย์ของรัฐแห่งนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 236 คน

ตามใจ ขำภโต กรรมการผู้จัดการใหญ่ครั้งกระนั้นจึงได้มีโอกาสปราศัยกับผู้จัดการสาขาทั้งหมดเป็นครั้งแรก และแน่นอนเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเพราะเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2529 ที่ผ่านมาเขาไม่ได้รับการต่อสัญญาจากคณะกรรมการของธนาคารให้อยู่ในตำแหน่งที่เคยครอบครองติดต่อกันถึง 10 ปี

คำปราศัยครั้งนี้มีเนื้อหาใจความที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะแทบจะเป็นการพูดถึงแนวนโยบายของธนาคารกรุงไทยที่เป็นรูปธรรมแจ่มชัดที่สุด และปฏิรูปมากที่สุดเท่าที่ธนาคารแห่งนี้เคยมีนโยบายออกมา

ลองอ่านดูก่อนนะครับ แล้วค่อยมาวิเคราะห์กันตอนท้าย

"สวัสดีเพื่อนพนักงานธนาคารกรุงไทยทุกท่านที่เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ กระผมมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้มากล่าวคำปราศัยในพิธีเปิดการสัมมนานักบริหารระดับผู้จัดการสาขาทั่วประเทศในวันนี้ ในการสัมมนาครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้จัดการสาขาทั่วประเทศได้เข้าสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังความรู้ใหม่ๆ เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการปรับปรุง แก้ไขการบริหารงานของสาขาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ผู้จัดการสาขาเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้กำหนดกลยุทธ์ และตัดสินใจในการดำเนินงานต่างๆ ของสาขา ตลอดจนดูแลบังคับบัญชาพนักงานของสาขาให้ปฏิบัติงานเพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่คาดหวังไว้ เป็นผู้สร้างขวัญและภาพพจน์อันดีเพื่อให้พนักงานเกิดกำลังใจร่วมมือกันทำงาน ทำให้สมรรถภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น ผลงานดีไม่มีผิดพลาด

การจัดการสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการสัมมนาทราบถึงนโยบายของธนาคาร และแนวทางในการสร้างความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานของธนาคารและเสริมสร้างความรู้ความสามารถ อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้จัดการสาขาทุกท่าน เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของสาขาให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุดของธนาคาร

แนวนโยบายในการดำเนินธุรกิจของธนาคารกรุงไทย มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ

1. แนวทางในการดำเนินธุรกิจซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เนื่องจากธุรกิจของธนาคารเป็นธุรกิจทางการเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจที่อ่อนไหว เป็นสินค้าที่มีความผันแปรสูง ในการทำธุรกิจจะต้องมีไหวพริบ ต้องรู้สภาวะทางธุรกิจล่วงหน้าดีพอสมควร ต้องมีความกระตือรือร้น มีการตัดสินใจ และศึกษาสภาพของเงินที่เราได้มาอย่างรวดเร็ว เพื่อหาวิธีที่จะให้เงินนั้นเกิดประโยชน์มากที่สุดเพราะเพียงระยะเวลาเพียงวันเดียวอาจจะได้ประโยชน์มหาศาลจากเงินนั้นซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง

2. การแสวงหากำไร เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะถ้าดำเนินธุรกิจแล้วไม่ได้ผลกำไร ธนาคารคงจะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ผลกำไรที่ธนาคารคาดหมายไว้ในปีต่อๆ ไปคงจะดีขึ้น สิ่งที่ทำให้ธนาคารมีผลกำไรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากการลงทุนประเภทที่มีผลตอบน้อย เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาล และการให้กู้ยืมในภาครัฐบาลที่มีผลตอบแทนน้อยซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้จะค่อยๆ หมดไป ซึ่งก็คงจะทำให้สภาวะของธนาคารดีขึ้น อันจะทำให้ธนาคารมีความเจริญเติบโตยิ่งขึ้นต่อไป

3. นโยบายด้านการพนักงาน พนักงานเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด ธนาคารอยากให้พนักงานทุกคนทำงานให้สบายที่สุด แต่ธนาคารยังมีความจำเป็นที่จะต้องประหยัด จึงยึดนโยบายที่จะยังไม่เพิ่มพนักงานแต่จะใช้วิธีพัฒนาพนักงานให้มีตวามรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานสูงขึ้น และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วขึ้น เป็นที่น่ายินดีว่าธนาคารโดยฝ่ายพนักงานได้ทำการอบรมพนักงานของธนาคารให้ได้รับความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละหลักสูตร ซึ่งธนาคารคิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากในการอบรมถึงแม้ว่าในปีหนึ่งๆ ธนาคารจะใช้เงินเป็นจำนวนมากในการพัฒนาพนักงานก็ตาม

4. นโยบายเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ และการหาอุปกรณ์ที่ทันสมัยมาใช้ในกิจการของธนาคาร จะต้องดำเนินการต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันธนาคารได้นำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในกิจการของธนาคาร โดยใช้สำนักงานใหญ่และขยายไปสู่สาขาเกือบทุกสาขาแล้ว ในสำนักงานมีเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่จะสามารถควบคุมระบบเอทีเอ็ม ที่ติดตั้งสาขาในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อใช้ในระบบออนไลน์ และเอทีเอ็มพูลจากการที่ธนาคารพยายามจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยมาใช้ในกิจการของธนาคารทำให้ธนาคารเป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น

5. นโยบายด้านการตลาด การตลาดของธนาคารนั้นไม่ใช่ของใหม่ ผู้ที่เกี่ยวข้องคงจะเข้าใจในการตลาดดี คนทั่วไปเข้าใจว่า ธนาคารเป็นที่เห็นแก่ตัวและคิดว่าเศรษฐกิจฝืดเคืองก็เป็นผลมาจากธนาคาร ดังนั้น การตลาดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำเราพยายามจะทำการตลาดธนาคารแบบตรงไปตรงมาได้ หรือไม่เราจะต้องกำหนดกลยุทธ์อย่างไรถึงจะครองความเป็นเลิศทางการตลาดธนาคาร ซึ่งจะฝากให้ผู้จัดการสาขาทุกท่านช่วยกันหาแนวความคิดเพื่อที่จะนำมาปรับปรุงการตลาดธนาคารต่อไป

นอกจากนี้ยังจะต้องคำนึงถึงการระดมเงินฝากว่าทำอย่างไรถึงจะระดมเงินฝากได้มากโดยไม่ต้องเพิ่มทุน มีคนกล่าวว่าการที่จะได้เงินฝากเพิ่มขึ้นนั้น ควรจะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นแต่การที่จะเปิดสาขาเพิ่มนั้นก็จะต้องเพิ่มทุนเป็นจำนวนมากอยู่ดี สำหรับการบริการลูกค้าการพิจารณาสินเชื่อ การประเมินราคาหลักทรัพย์ ปัญหาทางด้านข้อกฎหมาย ปัญหาในการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ การประชาสัมพันธ์และการดำเนินธุรกิจนั้น สิ่งเหล่านี้ธนาคารใครขอให้ผู้จัดการสาขากลับไปพิจารณาหาแนวทางในการแก้ไขปรับปรุง เพราะท่านทั้งหลายเป็นผู้ใกล้ชิด และประสบปัญหาเหล่านี้อยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อธนาคารจะได้นำแนวคิดของพวกท่านมาพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่และสภาพเศรษฐกิจของธนาคาร

ในการสัมมนาครั้งนี้ขอให้ทุกท่านคำนึงว่าในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ เราควรจะหาแนวทางแก้ไขปัญหาและกำหนดกลยุทธ์ในการทำงานของเราอย่างไร อย่าไปวิตกกังวลขอให้ใช้ประสบการณ์และกำลังใจในการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งจะขอฝากแนวทางและข้อคิดในการแก้ปัญหาไว้ดังนี้.-

1. ประหยัด

2. ความสามัคคี ไม่ว่าจะเป็นความสามัคคีในหน่วยงานหรือระหว่างหน่วยงานก็ตามไม่ต้องหวั่นไหวต่อคำพูดของบุคคลภายนอก

3. ขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถด้วยความเต็มใจ และซื่อสัตย์ สุจริต

4 .จริงใจซึ่งกันและกัน ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของะนาคารเป็นที่ตั้ง

5. ยึดมั่นในระเบียบปฏิบัติงาน เพราะจะทำให้การปฏิบัติงานต่างๆ ดำเนินไปด้วยดี

สิ่งผันแปรและปัญหาต่างๆ อาจจะมีอยู่บ้างแต่ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ เพียงขอให้ทุกท่านช่วยกันร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถก็จะทำให้ธนาคารของเราดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดี มีภูมิต้านทานที่ดีและเกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับธนาคารของเราต่อไป"

ที่อยากตั้งข้อสังเกตก็ในเรื่องแนวนโยบายในการดำเนินธุรกิจของธนาคารกรุงไทยในข้อที่ 1 และข้อที่ 2 ถ้าหากตามใจ ขำภโต ต้องการที่จะทำตามแนวที่วางไว้จริงๆ แค่ข้อ 1 ก็เห็นได้ชัดๆ ว่า จำเป็นต้องมีการเพิ่มอำนาจกรรมการผู้จัดการใหญ่ให้มากกว่าที่เป็นอยู่โดยลดความสำคัญของคณะกรรมการของธนาคารให้น้อยลง

แนวความคิดนี้น่าจะถูกต้อง เพราะแม้จะได้ชื่อว่าเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐก็ยังจำเป็นที่ต้องมีความคล่องตัวในการบริหารพอสมควร ไม่ใช่ว่าผู้จัดการใหญ่มีอำนาจอนุมัติวงเงินกู้แค่ 5 ล้านบาท จะให้กู้มากกว่านั้นต้องคอยเข้าที่ประชุมคณะกรรมการที่ประชุมปกติสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แถมยังมีกฎเกณฑ์หยุมหยิมเหมือนระบบราชการ (ก็คณะกรรมการมาจากข้าราชการทั้งกระบินี่นา)

ข้อ 2 ยิ่งน่าสนใจที่ตาม ขำภโต ประกาศเลยว่าตั้งเป้าหมายไว้ที่ผลกำไร และระบุอีกว่าการที่ธนาคารกรุงไทยมีกำไรน้อยในอดีตเป็นผลเนื่องมาจากการลงทุนให้พันธบัตรและการให้กู้ยืมภาครัฐบาลที่มีผลตอบแทนต่ำ...โอ้โฮ กล้าหาญมาก ธนาคารพาณิชย์ทั่วไปไม่ว่าใหญ่หรือเล็กแค่ไหน ยังต้องก้มหน้าก้มตาซื้อพันธบัตรรัฐบาลปีหนึ่ง 50-60 เปอร์เซ็นต์ที่ออกมา ไม่อย่างนั้นแบงก์ชาติเขาไม่ให้เปิดสาขาใหม่

ไม่นับรายการคุณขอมาอย่างเรื่องน้ำตาล เรื่องชาวไร่อ้อย เรื่องชาวนา จิปาถะที่แบงก์พาณิชย์ต้องเข้าไปช่วย

นี่ธนาคารกรุงไทยที่เป็นธนาคารที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ มาประกาศว่าจะซื้อพันธบัตรน้อยลง จะให้ก็แก่ภาครัฐบาลน้อยลงเพื่อจะทำกำไรเพิ่มขึ้นให้เป็นที่ยอมรับของสังคม อย่างนี้จะให้ "ซามูไรบ้าเลือด" ต่อสัญญาให้อีก เห็นจะฝันเฟื่องไปหน่อยละ

ที่ไม่เข้าใจก็คือ การจัดสัมมนาครั้งนี้ก็ดี แนวนโยบายใหม่ที่จะประกาศออกมาก็ดี ดูเหมือนตามใจ ขำภโต จะมั่นใจเอามากๆ ว่าตนจะได้อยู่บริหารธนาคารกรุงไทยต่อไป

ถามผ่านตรงนี้เลยก็แล้วกันว่า เอาความมั่นใจมาจากไหน...หือ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us