|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บ้านปู เจอปัญหาเหมืองโจร่งที่อินโดนีเซียปิดชั่วคราว เพราะรอใบอนุญาตจากกระทรวงป่าไม้ก่อน แถมราคาถ่านหินเฉลี่ยปีนี้ต่ำกว่าปี 51 ที่ตันละ 72 เหรียญสหรัฐ ยอมรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีที่แล้ว 5.7 หมื่นล้านบาทไม่ถึงฝัน ชี้เม็ดเงินจากเหมืองโจร่งคิดเป็น 5% ของรายได้รวมจากอินโดฯ และหากดูจากปริมาณการผลิตถ่านหินคิดเป็น 8-9% ของปริมาณการผลิตถ่านหินในอินโดฯ ที่ตั้งเป้าผลิตและขาย 23 ล้านตันในปีนี้
นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากบริษัท PT. Indo Tambangraya Megah Tbk ITMG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นโดยอ้อม 73.72% ผ่าน Banpu Minerals Singapore Pte., Ltd. (BMS) และ บริษัท บ้านปู มินเนอรัล จำกัด (BMC) โดย ITMG แจ้งว่าได้มีการระงับการผลิตถ่านหินของบริษัท PT. Jorong Barutama Greston (โจร่ง)เป็นการชั่วคราวเนื่องจากบริษัทฯอยู่ระหว่างดำเนินการขอต่อใบอนุญาต การใช้พื้นที่สำหรับการทำเหมืองต่อกระทรวงป่าไม้ (Ministry of Forestry) โดยบริษัทฯ ได้ยื่นขอต่อใบอนุญาตดังกล่าวก่อนหมดอายุ ทั้งนี้ ในระหว่างการรอใบอนุญาตดังกล่าว บริษัท พีที.โจร่งได้รับอนุญาตจากกรมการเหมืองแร่ (Department of Mines) ให้ดำเนินการทำเหมืองได้
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการออกใบอนุญาตของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งในขณะนี้บริษัทฯได้ดำเนินการติดต่อประสานงานเพื่อชี้แจงต่อหน่วย งานราชการดังกล่าว เพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตในการใช้พื้นที่ทำเหมือง ทั้งนี้ ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะได้รับใบอนุญาตการทำเหมืองดังกล่าวเมื่อใด เชื่อว่าคงไม่กระทบทั้งปีแต่อาจจะทำให้การผลิตถ่านหินหายไปบางส่วนเพราะช่วง นี้กระทรวงป่าไม้ได้ทยอยให้ใบอนุญาตการทำเหมืองแล้ว
นายชนินท์ กล่าวต่อไปว่า การหยุดผลิตถ่านหินชั่วคราวของเหมืองโจร่งนี้จะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิปีนี้ ของบ้านปูไม่มากนัก เนื่องจากปี 53 เหมืองโจร่ง มีแผนการผลิตถ่านหิน 1.97 ล้านตัน หรือ 8-9% ของการผลิตถ่านหินที่อินโดนีเซีย และช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนทำให้การผลิตถ่านหินไม่มากอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเดิมปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายถ่านหินไว้ที่ 23 ล้านตัน/ปี หากเหมืองโจร่งต้องหยุดเป็นเวลา 1 ปีก็จะกระทบต่อยอดขายเพียง 5% ของรายได้จากการขายถ่านหินที่อินโดนีเซีย ซึ่งรายได้จากอินโดนีเซียคิดเป็น 90%ของรายได้ทั้งหมดของบ้านปู ที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าในจีน ซึ่งปี 52 บ้านปูมีรายได้รวม 5.7 หมื่นล้านบาท
" ปีนี้เหมืองโจร่งวางแผนผลิตถ่านหินลดลงจากปีก่อนที่ผลิต 3 ล้านตันเหลือเพียง 1.9 ล้านตัน เนื่องจากอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนหน้าเหมือง ซึ่งเหมืองนี้มีอายุเหมืองเหลือ 5-7 ปี จากนั้นจะปิดเหมืองเพราะคุณภาพถ่านหินเหมืองโจร่งให้ความร้อนต่ำ "
นายชนินท์กล่าวต่อว่าปัจจุบันบ้านปูขายถ่านหินล่วงหน้าไปแล้วเกิน 50% ของกำลังการผลิตถ่านหิน 23 ล้านตัน ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 60 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน จากนี้บริษัทฯจะทยอยขายเพิ่มเติม ซึ่งปริมาณถ่านหินที่เหลือนี้เป็นถ่านหินคุณภาพดีกว่าที่ขายล่วงหน้าไปก่อน โดยมองแนวโน้มราคาถ่านหินในปีนี้ดีกว่าราคาเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดราคาถ่านหินอยู่ที่ระดับ 88-89 เหรียญสหรัฐ/ตัน ดังนั้น โอกาสที่ราคาถ่านหินจะปรับตัวลงคงยาก ส่งผลให้ระดับราคาปีนี้น่าจะอยู่ใกล้เคียงนี้หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สำหรับผลประกอบการปีนี้เดิมบริษัทฯคาดว่ามีรายได้รวมใกล้เคียงปีที่แล้วที่ ประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท แม้ว่ากำลังการผลิตถ่านหินปีนี้จะเพิ่มเป็น 23 ล้านตัน แต่เนื่องจากราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปีนี้ต่ำกว่าปีก่อนที่มีราคาถ่านหินที่ 72 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพราะค่าความร้อนต่ำกว่าเดิม และการปิดเหมืองถ่านหินที่โจร่งชั่วคราวทำให้กำลังการผลิตถ่านหินลดลง ซึ่งโอกาสที่รายได้ปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5.7 หมื่นล้านบาทก็เป็นไปได้ขึ้นอยู่กับราคาถ่านหินในตลาดโลกเป็นสำคัญ
" มองว่าราคาถ่านหินในปีนี้น่าจะมีเสถียรภาพหรือสูงกว่านี้เล็กน้อยไม่น่าจะ ต่ำกว่านี้แล้วแต่การปรับขึ้นราคาถ่านหินในปีนี้คงไม่สามารถจะมาชดเชยการหาย ของกำลังการผลิตถ่านหินที่เหมืองโจร่งได้ "
|
|
|
|
|