|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เนสกาแฟ จ่อบัลลังก์ผู้นำตลาดกาแฟครบ 4 เซกเมนต์ อัด 120 ล้านบาท แตกไลน์ “เนสกาแฟ สไตล์” ลงสมรภูมิกาแฟระดับพรีเมียม หลังตลาดมีศักยภาพ 4 ปี โต 10 เท่าตัว ชูจุดขายรสชาติ-ภาพลักษณ์ เจาะคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้า 1 ปี ขึ้นแท่นผู้นำกาแฟหรูกวาดแชร์ 60% จากมูลค่า 520 ล้านบาท ฝัน 6 ปี โค่นบัลลังก์เบอร์ดี้ ขึ้นแชมป์กาแฟพร้อมดื่ม
นางสาวพัทนัย เหลืองตระกูล ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกาแฟพร้อมดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกาแฟพร้อมดื่มเนสกาแฟ เปิดเผยว่า บริษัทได้วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจกาแฟภายใต้แบรนด์ “เนสกาแฟ” โดยขึ้นเป็นผู้นำตลาดกาแฟมูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท ในทุกเซกเมนต์ จากปัจจุบันเป็นผู้นำตลาด 3 เซกเมนต์ คือ กาแฟผงครองส่วนแบ่ง 90% จากมูลค่า 4,500 ล้านบาท กาแฟทรีอินวันมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท มีส่วนแบ่ง 64% กาแฟเพื่อสุขภาพมูลค่า 1,300 ล้านบาท เป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่ง 50% ซึ่งเหลือเพียงเซกเมนต์เดียว คือ กาแฟพร้อมดื่มมูลค่า 8,300 ล้านบาท เท่านั้นที่เนสกาแฟยังไม่ได้เป็นผู้นำตลาด โดยอยู่อันดับ 2 มีส่วนแบ่ง 30% ส่วนผู้นำเบอร์ดี้ครองส่วนแบ่ง 65%
ดังนั้นบริษัทจึงดำเนินการตลาดเชิงรุก ได้ทุ่มงบ 120 ล้านบาท ในช่วง 2-3 เดือนนี้ แตกไลน์ “เนสกาแฟ สไตล์” ลงตลาดกาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมียม เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพในอีก 4 ปีข้างหน้า มีการเติบโต 10 เท่าตัว จากปีนี้คาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโต 2 เท่าตัว หรือมีมูลค่าเพิ่มจาก 240 ล้านบาท เป็น 520 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดกาแฟโดยรวมมูลค่า 8,300ล้านบาท เติบโต 5% ขณะที่กาแฟพรีเมียมมีอัตราการเติบโต 50% และปีนี้ตลาดรวมกาแฟคาดว่ามีอัตราการเติบโต 10% หรือมูลค่า 9,130 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตมาจากกาแฟพรีเมียมผลักดันให้เติบโต
สำหรับการทำตลาดเนสกาแฟ สไตล์ เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบในชีวิตประจำวัน โดยบริษัทชูจุดขายด้านรสชาติ ความหอมของกาแฟ และภาพลักษณ์ที่ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมียม แตกต่างจากกาแฟระดับแมส กลุ่มเป้าหมายดื่มเพื่อต้องการความสดชื่น นำร่องในช่วงแรก 1 รสชาติ คือ กาแฟลาเต้ ขนาด 200 มล. ราคา 20 บาท วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ โมเดิร์นเทรด และเทรดิชันนัลเทรด พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวแอมบาสเดอร์ “ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล” เพื่อสื่อถึงคนรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์
“การเลือกลาเต้เป็นรสชาติแรกในการเปิดตัว เพราะมองว่าเป็นกาแฟผสมนมที่ผู้บริโภคมีความคุ้นเคย ชื่นชอบ และสะท้อนความเป็นพรีเมียม อย่างไรก็ตามในอนาคตบริษัทเตรียมเปิดตัวรสชาติอื่นอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้การรุกตลาดกาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมียมในปีแรก บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 60% จากมูลค่า 520 ล้านบาท หรือขึ้นเป็นผู้นำตลาด จากปัจจุบันมีคู่แข่งด้วยกัน 2 แบรนด์หลัก คือ คอฟฟี่โอ และกาแฟดีเซเว่น และจากการแตกไลน์กาแฟพร้อมดื่มลงเซกเมนต์พรีเมียม ส่งผลให้เนสกาแฟขยายฐานลูกค้าจากระดับแมสมาสู่ระดับพรีเมียมเพิ่มขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าหมาย 6ปีข้างหน้านี้ขึ้นเป็นผู้นำตลาดกาแฟพร้อมดื่มในอนาคตแทนที่กาแฟกระป๋อง พร้อมดื่มเบอร์ดี้ และผลักดันให้เนสกาแฟครองความเป็นผู้นำครบ 4 เซกเมนต์ของกาแฟอย่างเบ็ดเสร็จ
|
|
|
|
|