Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน16 กุมภาพันธ์ 2553
TUFโอ่ปีนี้กำไรโตกว่า20%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์

   
search resources

ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์, บมจ.
Frozen food




นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิเติบโตไม่น้อยกว่า 15-20%จากปี2552 ที่มีกำไรสุทธิ 3,344 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้จะไม่มีการตัดค่าใช้จ่ายในการปิดโรงงานที่อเมริกันซามัวจำนวน 568 ล้านบาทเหมือนเมื่อปีก่อน ขณะที่วางเป้ายอดขายในรูปเงินเหรียญสหรัฐเติบโต12%จากปีที่แล้วมียอดขายรวม 2,014 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ปีนี้เป็นปีประวัติศาสตร์ที่มีรายได้และกำไรสุทธิสูงสุดนับตั้งแต่ ก่อตั้งบริษัทฯมาร่วม 20 ปี

สำหรับผลประกอบการTUF ในปี 2552 บริษัทฯมีรายได้รวมในรูปเงินเหรียญสหรัฐเท่ากับ 2,014 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อน 3% ส่วนรายได้ในรูปเงินบาทเท่ากับ 68,995 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย สาเหตุจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่าต่ำกว่าปีก่อน ทำให้ราคาสินค้าส่วนใหญ่ถูกลง ขณะที่ปี 2552 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 3,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.79 บาท เพิ่มขึ้น 51%ซึ่งเป็นปีแรกที่บริษัทฯมีกำไรสุทธิเกิน2,300 ล้านบาท

โดยสัดส่วนยอดขายตามผลิตภัณฑ์ในปี 2552 ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ายังเป็นสินค้าหลักที่มีสัดส่วนการส่งออกถึง 44% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท ส่วนตลาดส่งออกหลักนั้นยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯยังเน้นการที่บริหารจัดการให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ บริหารสินค้าคงคลังให้น้อยกว่า 100 วันจากปีก่อนที่สินค้าคงคลังอยู่ที่ 108 วัน ส่วนวัตถุดิบอย่างราคาปลาทูน่าขณะนี้ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ/ตันแล้ว จากปลายปีก่อนที่ราคาปลาทูน่าปรับขึ้นไป

นอกจากนี้ ยังมีแผนเร่งควบรวม 2 บริษัทย่อยในสหรัฐฯให้แล้วเสร็จในกลางปีนี้ เพื่อให้เกิดSynergy ระหว่างกันส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง รวมทั้งมองหาลู่ทางการลงทุนใหม่และช่องทางการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโต โดยบริษัทฯมีความสามารถในการลงทุนถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุนค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 0.7 เท่า ทั้งนี้ ในปี 2553 บริษัทฯกำหนดงบลงทุนไว้ 2,400 ล้านบาท แบ่งเป็น 1,200 ล้านบาทเพื่อใช้ลงทุนห้องเย็นขนาด 4 หมื่นตัน ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนปกติ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us