|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายกสมาคมอาคารชุดไทย เชื่อรัฐต่ออายุมาตรการลดหย่อยภาษีอีก 1 ปี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ระบุแนวโน้มคอนโดฯโตต่อเนื่อง ชี้แนวโน้มการซื้อลงทุนยังขยายตัวช่วยดันดีมานด์ตลาด แนะอสังหาฯหน้าใหม่ให้ความสำคัญกับการเลือกทำเล เลือกเซ็กเมนต์ และการวางตำแหน่งสินค้า เตือนคุมต้นทุนให้มาก ระวังต้นทุนวัสดุแนวโน้มขาขึ้นในปีนี้
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในปีที่ผ่านมามียอดจดทะเบียนสูงกว่าบ้านเดี่ยวและ ทาวน์เฮาส์ เป็นครั้งแรกในรอบ10 ปี โดยยอดรวมการจดทะเบียนคอนโดฯในปี 52 มียอดจดทะเบียนสูงกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบประมาณ 10,000 ยูนิต และมีแนวโน้มว่าคอนโดมิเนียมจะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดสูงกว่าที่อยู่อาศัยแนว ราบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สาเหตุที่คอนโดฯมีการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เพราะผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาด้านการเดินทาง และต้นทุนการเดินทางที่เพิ่มขึ้นในอนาคตจากการปรับตัวของราคาน้ำมัน
โดยในปีนี้ คาด่าจะมีกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มอีก จำนวนมาก ซึ่งจากการประกาศแผนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาลทั้ง 3 สายคือ สายสีม่วง สีน้ำเงิน และสีเขียว นับว่าส่งผลดีต่อตลาดคอนโดฯอย่างมาก ในขณะที่บ้านเดี่ยวและทาวนเฮาส์ต้องอาศัยการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและการ ตัดถนนใหม่เพื่อเปิดหน้าดิน ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการก่อสร้างน้อยมากทำให้กลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบขยายตัว น้อยกว่าคอนโดมิเนียม
นอกจากนี้ แนวโน้มการซื้อคอนโดฯเพื่อการลงทุนยังขยายตัวมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับบ้านการซื้อบ้านที่ปล่อยเช่าหรือเปลี่ยนมือยาก ขณะเดียวกันคอนโดมิเนียมยังมีเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยที่อยู่ในเช็คเม้นต์ เดียวกับกลุ่มอพาร์ทเม้นต์และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ ซึ่งหากเศรษฐกิจยังมีการขยายตัว และต่างชาติขยายการลงทุนแนวโน้มการเช่าที่พักอาศัยประเภทดังกล่าวก็ยังขยาย ตัวต่อเนื่อง
นายอธิป กล่าวว่า สำหรับปัจจัยบวกในปี 53 ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของตลาดรวมอสังหาฯหลักๆ คือ การตัดสินใจต่ออายุมาตรการอสังหาฯของรัฐบาลออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวทำให้รัฐบาลต้องผลัก ดันการขยายการลงทุนของผู้ประกอบการเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้การลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใน 3 เส้นทางข้างต้นจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการขยายตัวของตลาดอสังหาฯ
“อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดคอนโดฯ ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกทำเล เลือกเซ็กเมนต์ และการวางตำแหน่งสินค้า อย่าพัฒนาโดยไม่กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน นอกจากนี้ เรื่องของการขอสินเชื่อโครงการต้องให้ความสำคัญมากกับการประสานงานกับธนาคาร ” นายอธิปกล่าว
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ต้องระวังของผู้พัฒนาคอนโดฯในปีนี้ คือ 1. ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งส่งผลต่อราคาขาย 2.ต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้นจากการปรับราคาวัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้ราคาคอนโดฯแพงขึ้น 3. การจัดทำโปรเจกต์ไฟแนนซ์หรือการขอสินเชื่อโครงการต้องให้ความสำคัญกับทำเล ซึ่งมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน 4. การรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อต้นทุนด้านระยะเวลาในการก่อสร้าง
|
|
|
|
|