ยอดยิ่ง เอื้อวัฒนสกุล เป็นทายาทเจ้าสัวอื้อจือเหลียง และเป็นประธานกลุ่มบริษัทพาราวินเซอร์
ส่วนวานิช ไชยวรรณ ก็เป็นยักษ์ธุรกิจชื่อดัง มีหุ้นอยู่ในกิจการใหญ่ๆ หลายแห่ง
โดยเฉพาะที่เป็นสถาบัน ปัจจุบันวานิชเป็นประธานกลุ่มไทยประกันชีวิต และเป็นเพื่อนรักของยอดยิ่ง
เอื้อวัฒนสกุล
ยอดยิ่งกับวานิชพบกันประจำสม่ำเสมอเพราะทั้งคู่มีห้องทำงานอยู่บนตึกอื้อจือเหลียง
ยอดยิ่งยังมีเพื่อนรักอีกคนหนึ่งชื่อ ประมาณ ชันซื่อ น้องชายของวรรณ ชันซื่อ
บ้านของยอดยิ่งกับบ้านของประมาณก็อยู่ติดๆ กัน คือถัดจากบ้านอุเทน เตชะไพบูลย์
ในซอยศรีนครินคร ถนนลิ้นจี่ไปนิดหน่อย
ประมาณ ชันซื่อ มีธุรกิจหลายอย่างพอๆ กับยอดยิ่ง แต่ธุรกิจอย่างหนึ่งก็คือ
การเป็นหุ้นส่วนกับยิ่งยง ลิ่วเจริญ หรือ “มิสเตอร์เล้า” ในบริษัทคอนโทรลดาต้าประเทศไทย
ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ยี่ห้อซีดีซี ของสหรัฐอเมริกา
บริษัทคอนโทรลดาต้าประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี พ.ศ.2511 เดิมทีนั้นมีฐานะเป็นบริษัทสาขาของบริษัทคอนโทรลดาต้า
(ซีดีซี) แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เผอิญมีปัญหาด้านการตลาดจึงได้ขายกิจการให้กับกลุ่มของ
ยิ่งยง ลิ่วเจริญ เมื่อประมาณปี 2520
ยิ่งยงหรือ “มิสเตอร์เล้า” ที่คนในวงการคอมพิวเตอร์รู้จักชื่อเสียงเป็นอย่างดีนั้น
เป็นชาวจีนที่อพยพมาจากประเทศอินโดนีเซียเมื่อหลายสิบปีก่อน และเคยมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเคี่ยนหงวนซึ่งขายเครื่องคอมพิวเตอร์ยี่ห้อเอ็นซีอาร์
กลุ่มของยิ่งยงเข้ารับช่วงกิจการบริษัทคอลโทรลดาต้าประเทศไทย โดยมีข้อตกลงกับบริษัทซีดีซีสหรัฐอเมริกา
2 ประการใหญ่ๆ คือ
หนึ่ง-ใช้ชื่อซีดีซีประเทศไทยต่อไป ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง
สอง-แม้จะเปลี่ยนจากฐานะสาขามาเป็นตัวแทนจำหน่าย แต่ราคาที่ซื้อขายกันยังจะเป็นราคาที่บริษัทแม่ขายให้กับสาขาเหมือนเดิม
ซึ่งว่ากันว่า ด้วยข้อตกลงประการนี้ทำให้กลุ่มของยิ่งยงสามารถลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าผลิตภัณฑ์ซีดีซีเกือบ
20 เปอร์เซ็นต์
ซีดีซีประเทศไทยในยุคที่กลุ่มยิ่งยงเข้าไปเป็นเจ้าของและบริการนี้ ทำธุรกิจเงียบๆ
ไม่มีอะไรที่พอจะเป็นเด่นเป็นพิเศษ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการมาก
เพราะซีดีซีชนะการประมูลที่กระทรวงมหาดไทย ในการจัดทำเลขประจำตัวประชาชนมีสัญญาเช่า
4 ปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 100 กว่าล้านบาท
และเร็วๆ นี้ก็จะบินไปเซ็นสัญญาขายเครื่องซีดีซีมูลค่าประมาณ 15-25 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับกระทรวงพลังงานและเทคโนโลยีของประเทศอินโดนีเซีย
ซีดีซีประเทศไทยที่ตลอดมาเคยเดินอย่างเรียบๆ และมีสะดุดบ้างเป็นบางครั้ง
ในระยะปีเศษๆ มานี้ก็มีอันต้องกลายเป็นซีดีซีประเทศไทยที่โตอย่างพรวดพราด
สำหรับยิ่งยง ลิ่วเจริญ และประมาณ ชันซื่อ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ก็รู้ในทันทีว่า
ซีดีซีประเทศไทยจะต้องเพิ่มทุนได้แล้ว และมันเป็นโอกาสดีที่จะดึงนักลงทุนบางกลุ่มเข้าร่วมด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีฐานทางการเงินที่แน่นหนา
ประมาณ ชันซื่อ นึกถึงเพื่อนรักที่ชื่อยอดยิ่ง เอื้อวัฒนสกุล เป็นคนแรก
เพราะยอดยิ่งเองก็สนิทกับ “มิสเตอร์เล้า” และกลุ่มบริษัทพาราวินเซอร์ก็ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของซีดีซี
สำหรับยอดยิ่งเขาต้องการมีธุรกิจขายคอมพิวเตอร์อย่างมากๆ และเขาวางแผนจะทำธุรกิจนี้มาเกือบ
2 ปีแล้ว
เมื่อต้นปี 2527 ยอดยิ่งตั้งบริษัทหนึ่งขึ้นมาชื่อบริษัทบางกอกคอมพิวเตอร์ลิสซิ่ง
ทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทไอบีเอ็ม หรือที่เรียกกันว่าเป็น
“วาร์” (VALUEADDED REMARKETER) ของไอบีเอ็ม
บางกอกคอมพิวเตอร์ลิสซิ่งประเดิมงานแรกด้วยการเสนอตัวเข้าแข่งขันในการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
แต่ก็พลาด เพราะผู้ชนะในการประมูลคือ บริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ “วาร์”
ของไอบีเอ็มอีกรายหนึ่งซึ่งเข้าแข่งขันด้วย
หลังจากนั้นบริษัทบางกอกคอมพิวเตอร์ลิสซิ่งก็ไม่เคยเข้าประมูลที่ไหนอีก มีบางคนถึงกับพูดว่ายอดยิ่งเข็ดไปแล้ว
จะมีก็แต่คนที่ใกล้ชิดกับยอดยิ่งเท่านั้นที่ทราบว่า ยอดยิ่งไม่เปลี่ยนแปลงความตั้งใจที่จะเข้ามาในวงการขายเครื่องคอมพิวเตอร์
เขากำลังรอจังหวะต่างหาก
ยอดยิ่งใกล้ชิดกับประมาณ ชันซื่อ และ “มิสเตอร์เล้า” เขาจึงทราบทุกระยะของการเติบโตอย่างพรวดพราดของบริษัทซีดีซีประเทศไทยในช่วงปีสองปีนี้
ยอดยิ่งเคยพูดกับหลายคนว่า “ซีดีซี” เป็นบริษัทที่มีอนาคตมาก
เพราะฉะนั้นยอดยิ่งจึงตอบตกลงทันทีเมื่อประมาณมาทาบทามขอให้เขาเข้าไปร่วมลงทุนในซีดีซี
และได้ดึงวานิช ไชยวรรณ เข้าไปด้วยอีกคน ซึ่งวานิชก็ยินดีเข้าร่วมลงทุนด้วยความเต็มใจ
แหล่งข่าววงในเล่าถึงการร่วมทุนครั้งนี้ว่าซีดีซีจะเพิ่มทุนอีกประมาณ 10
ล้านบาท ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็จะยังเป็น ยิ่งยง ลิ่วเจริญ และประมาณ ชันซื่อเหมือนเดิม
ส่วนยอดยิ่งกับวานิชจะเข้ามาถือหุ้นรวมกันประมาณ 49 เปอร์เซ็นต์
สำหรับตำแหน่งด้านการบริหารนั้นยอดยิ่งกับวานิชจะดำรงตำแหน่งเป็นประธานและรองประธานบริษัท
ยิ่งยง ลิ่วเจริญ เป็นกรรมการผู้จัดการ และอำพันศรี ชันซื่อ ภรรยาของประมาณมีตำแหน่งเป็นกรรมการ
ส่วนตำแหน่งบริหารอื่นๆ ภายในซีดีซีคาดหมายกันว่า คงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาใกล้ๆ
นี้
และถ้าพลิกสู่โฉมหน้าใหม่ของซีดีซีคราวนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากๆ แล้ว
จุดที่ต้องเปลี่ยนแปลงคือกลุ่มไทยประกันชีวิตมากกว่า
ปัจจุบันกลุ่มไทยประกันชีวิตใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็ม และต้องการขยายเครื่องอยู่พอดี
เพราะฉะนั้น เครื่องใหม่ของไทยประกันชีวิตก็จะต้องเปลี่ยนจากไอบีเอ็มเป็นซีดีซีไม่มีปัญหา
งานนี้อัฐยายซื้อขนมยาย ตามสไตล์ วานิช ไชยวรรณ