“สัมมากร” ลบภาพบ้านเก่า ปรับลุคแบบบ้านใหม่ใหม่ภายใต้แบรนด์ Divina วางเป้าปี 53 เปิด 2 โครงการมุลค่า 2,100 ล้านบาท ด้านเพียว เพลส ทุ่ม 350 ล้านเปิด 1 แห่งย่านรามคำแหง ปีหน้าเปิดอีกแห่งที่ราชพฤกษ์ ตั้งเป้าทั้งปีโต 13% จากปี 52 ที่มียอดขาย 800 ล้านบาท

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2553 เป็นปีที่บริษัทดำเนินธุรกิจครบรอบปีที่ 40 โดยปัจจุบันมีโครงการหมู่บ้านสัมมากรมีทั้งหมด 9 โครงการ ได้แก่ โครงการสัมมากร ราชพฤกษ์, รามคำแหง, นครอินทร์, รังสิตคลอง 2, คลอง 7, นิมิตใหม่, มีนบุรี 1, มีนบุรี 2 และโครงการสัมมากร บางกะปิ ซึ่งเป็นโครงการแรกของบริษัทฯ ที่ได้รับการตอบรับและความสำเร็จในการขายเป็นอย่างมาก โดยเปิดขายในปี 2517 บนเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ จำนวนกว่า 3,000 หลังคาเรือน และสร้างชื่อเสียงให้แก่บริษัทมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับผลประกอบการในปี 52 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยจะชะลอตัวลงก็ตาม แต่อัตราการเติบโตของบริษัทฯ เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยยอดขายปีที่ผ่านมาบ้านและที่ดินของบริษัทฯ เติบโตกว่า 35% หรือจำนวน 800 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายเดิมที่วางการเติบโตไว้ที่ 15 %

ด้านแผนการทำตลาดในปี 53 บริษัทฯ เตรียมปรับภาพลักษณ์ขององค์กรให้มีความทันสมัยและมีชีวิตชีวามากขึ้น ทั้งในด้านการบริหาร และบ้านรูปแบบใหม่ ๆ ภายใต้แบรนด์ “Divina” แต่ทั้งหมดยังอยู่ภายใต้แนวคิด “เราไม่เพียงสร้างบ้าน...แต่เราสร้างสังคม” โดยจะเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ได้แก่ 1. โครงการ Aqua Divina รามคำแหง บนเนื้อที่ขนาด 65 ไร่ ประมาณ 200 ยูนิต ราคาขายยูนิตละ 6 -10 ล้านบาท ขนาดที่ดิน 70-100 ตร.ว. และโซนพิเศษ 120 ตร.วาขึ้นไป ราคา 15-17 ล้านบาท จำนวน12 ยูนิต เปิดตัวในเดือนกันยายนนี้

2.โครงการย่านบางกะปิ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ โดยในเฟสแรกแบ่งพื้นที่ประมาณ 45 ไร่ พัฒนาภายใตโครงการ Flora Divina ประมาณ 250 ยูนิต เนื้อที่ 50 ตร.วา ราคา3 ล้านบาท/ยูนิต คาดว่าจะเปิดขายประมาณปลายปีนี้ ทั้ง 2 โครงการมีมูลค่ารวม 2,100 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างลงทุนพัฒนาโครงการ Pure Place รามคำแหง ด้านโครงการสัมมากร บางกะปิ เป็นช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่แบบครบวงจร พื้นที่ขาย 9,200 ตร.ม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมียอดจองพื้นที่แล้ว 80% ใช้งบลงทุน 350 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และปีหน้ามีแผนจะพัฒนาอีก 1 แห่งในโครงการสัมมากร ราชพฤกษ์ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท

นายกิตติพล กล่าวต่อว่า ในเดือนที่ผ่านมา 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้แก่ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทั้งในส่วนของการหักลดหย่อนภาษี 3 แสนบาท และการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน, ภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าจดจำนอง ซึ่งที่ผ่านมาได้สะท้อนให้เห็นแล้วว่ารัฐมีความคุ้มค่าหลังจากลดภาษี เนื่องจากเกิดการหมุนเวียนของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีกจำนวนมาก