|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ยูเนี่ยนแพนฯ รับสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว ลุยจัดงานใหญ่ต้นปีเสือ รวม 3 งานใหญ่ “เฟอร์นิเจอร์ เอ็กซ์โป” พร้อมด้วย “เวดดิ้ง เอ็กซ์โป” และ “แฟชั่น เอ็กซ์โป” เมืองทองธานี 27 ก.พ. - 7 มี.ค.นี้ คาดเงินสะพัดในงานกว่า 200 ล้าน มั่นใจรัฐบาลหนุนไทยเป็นศูนย์กลางจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติ ดันตลาดงานแฟร์ปี’ 53 โตต่อเนื่อง
นายวีระเดช จิตศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยนแพน เอ็กซิบิชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2553 นี้บริษัทมีแผนจัดงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ประมาณ 7-8 งาน โดยเริ่มด้วยงานแรกของปีนี้ด้วยงาน “เฟอร์นิเจอร์ เอ็กซ์โป” พร้อมด้วยงาน “เวดดิ้ง เอ็กซ์โป” และ “แฟชั่น เอ็กซ์โป” ซึ่งเป็นการจัดงานแสดงสินค้า 3 งานใหญ่เข้าไว้ด้วยกัน งานดังกล่าวจะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 27 ก.พ. - 7 มี.ค.นี้ ณ อาคาร 1-4 อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี
ทั้งนี้เชื่อว่าสาเหตุที่งาน “เฟอร์นิเจอร์ เอ็กซ์โป” ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม นอกจากความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดงานของบริษัทแล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจากภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการกล้าตัดสินใจเข้าร่วมงานหลังจากได้ชะลอการตัดสินใจไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาเพื่อรอดูสถานการณ์ คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 250,000 ราย และมีเงินสะพัดภายในงานกว่า 200 ล้านบาท
สำหรับรูปแบบในการจัดงาน “เฟอร์นิเจอร์ เอ็กซ์โป” ในครั้งนี้ทางบริษัทยังมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอสินค้าใหม่ๆ และเน้นความหลากหลายของสินค้าเป็นหลัก เพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการของผู้เข้าชมงาน โดยมีสัดส่วนเป็นผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ 60% นำเข้าจากต่างประเทศ 40% โดยดาดว่าการนำเสนอในราคาพิเศษจะมีผลต่อปริมาณการสั่งซื้อมากในครั้งนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ความจริง ! ราคา ! จะทำให้คุณแห่จองกันทั่วเมือง”
“โปรโมชันที่บริษัทจะทำร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อ ทำให้ราคาขายสินค้าภายในงานถูกลงอีก เช่น หากผู้ประกอบการลดราคาสินค้า 40% บริษัทจะเข้าไปร่วมสนับสนุนเพิ่มเป็น 60% เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ซื้อสินค้าในราคาถูกลง และยังรับประกันสินค้าคุณภาพให้แก่ผู้ซื้อในด้านต่างๆ ด้วย อาทิ การบริการจัดส่ง บริการก่อนและหลังการขาย”
นายวีระเดช กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะนำ CRM มาใช้ให้มากขึ้น โดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นหลัก ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้เข้าร่วมงานแต่ละราย หลังจากนั้นจะนำมาทำการตลาดในเชิงรุก เช่น ออกจดหมายเชิญ โทรศัพท์ติดต่อเป็นรายบุคคล มอบของ พรีเมียมป็นรายบุคคลที่เชิญร่วมงาน
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคม บริษัทมีแผนจัดงานใหญ่ประจำปีขึ้นอีกงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Best Selling Fair of the year 2010” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 30 พ.ค. 53ในพื้นที่ 46,000 ตารางเมตร โดยจะเป็นงานแสดงสินค้าเพื่อผู้บริโภคที่สมบูรณ์แบบที่สุด และเป็นงานที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้หลากหลายในแบบ One Stop Service โดยเจาะเข้าไปในกลุ่มสินค้าแต่ละธุรกิจ เช่น รถยนต์ซุปเปอร์คาร์, ที่อยู่อาศัย, ไอที,หนังสือ เป็นต้น
สำหรับทิศทางตลาดงานแสดงสินค้าในปีนี้ เชื่อว่าตลาดดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เนื่องจากนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือ ”HUB” ของธุรกิจไมซ์หรือการจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติ ซึ่งจะทำให้ตลาดงานแสดงสินค้าเปิดกว้างมากขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำสินค้าออกงานแสดงเพิ่มมากขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2552 ที่ผ่านมา
|
|
|
|
|