Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน10 กุมภาพันธ์ 2553
“ซัมซุง”แยกทีมแอร์ลุยเดี่ยว             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด

   
search resources

ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์, บจก.
Electric




ซัมซุงสั่งดัน 3 โปรดักส์ แอร์-กล้องดิจิตอล และโน๊ตบุ๊ก ขึ้นแท่นผู้นำใน 3 ปี ล่าสุดดึงแผนกแอร์ออกมาทำตลาดโดยตรง พร้อมลุยคอมเมอร์เชียลแอร์เต็มสูบ ผ่านงบตลาดกว่า 250 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปี ยอดขายเติบโตขึ้นแน่ 35% หวังใน 2 ปี ขึ้นแท่นผู้นำ

นางสาวศศิธร กู้พัฒนากุล หัวหน้ากลุ่มธุรกิจเครื่องปรับอากาศ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซัมซุง มีหลายตัวที่ขึ้นแท่นเป็นผู้นำในเซกเม้นท์นั้นๆแล้ว โดยในประเทศไทยมีถึง 12 ตัว ที่ขึ้นเป็นผู้นำ อย่างไรก็ตามในปีนี้ทางบริษัทแม่ได้เล็งเห็นทิศทางตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่ม เครื่องปรับอากาศ โน๊ตบุ๊กและกล้องดิจิตอล ว่ามีโอกาสในการขายและกำไรมากขึ้น จึงได้มีนโยบายในระดับโกลบอลออกมา ให้ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์นี้ แยกออกมาบริหารการขายและการตลาดโดยตรง ไม่ผ่านการทำงานภายใต้กลุ่มธุรกิจเดิม พร้อมทั้งตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำในอีก 2-3 ปีนับจากนี้ ซึ่งไทยถือได้ว่ามียอดขายในกลุ่มแอร์อยู่ในอันดับที่ 5 ในกลุ่มเอเชีย

ล่าสุดในส่วนของเครื่องปรับอากาศ จากเดิมอยู่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ซึ่งประกอบไปด้วย ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่องดูดฝุ่น, ไมโครเวฟ และเครื่องปรับอากาศ ตั้งแต่ต้นปี 2553 ที่ผ่านมา ได้แยกกลุ่มเครื่องปรับอากาศออกมาทำการขายและการตลาดอย่างชัดเจนแล้ว

โดยในส่วนของเครื่องปรับอากาศนั้น ปีนี้ได้ใช้งบการตลาดกว่า 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15% จาก 150-160 ล้านบาท เทียบกับยอดขายที่ทำได้ โดยแผนการตลาดในปีนี้จะชูเรื่องของเครื่องปรับอากาศเพื่อสุขภาพ เน้นสร้างแบรนด์ ที่มาพร้อมกับการดึง “อั้ม-พัชรภา ไชยเชื้อ” ร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ อีกส่วนหนึ่งด้วย ล่าสุดได้พัฒนาเทคโนโลยีการฟอกอากาศขั้นสูง “ไวรัส ด็อกเตอร์” ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่นำเสนอในปีนี้

นอกจากนี้ในปีนี้ ยังได้เพิ่มเครื่องปรับอากาศให้ครบไลน์มากขึ้น โดยได้เพิ่มแผนกคอมเมอร์เชียลแอร์ เข้ามาอีกส่วนด้วย จากเดิมในปีก่อนซัมซุงมีแค่ รูมแอร์ และ ซิสเต็มแอร์ ปีนี้ได้เพิ่มคอมเมอร์เชียลแอร์เข้ามา คาดว่าไตรมาสสองจะเริ่มการขายได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศไทย และบางส่วนนำเข้าจากเกาหลี

คาดว่าสัดส่วนรายได้ยังอยู่ที่รูมแอร์กว่า 90% และซิสเต็มแอร์ กับคอมเมอร์เชียลแอร์10%

นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ หัวหน้าผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเล็คโทรนิคส์ จำกัด กล่าวต่อว่า ปีนี้สำหรับกลุ่มเครื่องปรับอากาศคาดว่าจะสร้างยอดขายในแง่จำนวนได้เติบโตขึ้น 35% เทียบจากปีก่อน หรือคิดเป็นจำนวนได้กว่า 1.5 แสนเครื่อง เป็น รูมแอร์ 90% ที่เหลือเป็นซิสเต็มแอร์ และคอมเมอร์เชียลแอร์อีก 10% ซึ่งในปี 2552 ที่ผ่านมา ยอดขายแอร์เติบโตจากปี 2551 ถึง 30% และในปีนี้เชื่อว่าซัมซุงจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดแอร์ที่ 20% อยู่ในท็อปทรี จากเดิมในปีก่อนมีส่วนแบ่งประมาณ 14% อยู่ในอันดับที่ 4 โดยในอีก 2 ปีข้างหน้า จะต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำให้ได้ ซึ่งยอดขายแอร์ในปีนี้ คาดว่าจะมีสัดส่วนที่ 10% ของยอดขายซัมซุงทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้ คาดว่าจะมีความต้องการอยู่ที่ 7.2-7.3 แสนเครื่อง เติบโตขึ้นจากปีก่อน 6% จาก 6.8 แสนเครื่อง หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมที่ประมาณ 14,000 ล้านบาทนั้น ปีนี้ทิศทางการแข่งขัน จะมุ่งไปในเรื่องของฟีเจอร์การทำงาน โดยสภาพอากาศเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อเครื่องปรับอากาศมากขึ้น โดยราคาเฉลี่ยของเครื่องปรับอากาศในปีนี้จะอยู่ที่ 1.6-17. หมื่นบาท โดยตลาดใหญ่อยู่ที่ 1.3 หมื่นบาท สำหรับซัมซุงเริ่มต้นที่ 15,900 บาท -42,900 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us