Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา กุมภาพันธ์ 2553
ปีมิตรภาพเวียดนาม-จีน เปิดฉากด้วย “วิวาทะ”             
โดย เจษฎี ศิริพิพัฒน์
 


   
search resources

International
Vietnam




ผู้นำที่ปักกิ่งและผู้นำที่ฮานอยตัดสินใจถือเอาปี 2553 เป็น "ปีมิตรภาพเวียดนาม-จีน" เพื่อรำลึกการสถาปนาความสัมพันธ์การทูตครบรอบ 60 ปี

อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ VOA News ภาษาเวียดนาม รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2553 ว่าในช่วงสัปดาห์แรกของปีใหม่ ทั้งสองฝ่ายได้โต้เถียงกันเกี่ยวกับแผนการของจีนที่มุ่งก่อสร้างเกาะไหหลำเป็นเกาะท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งมีการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวที่เตยซา ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ฝ่ายเวียดนามเรียกว่าหว่างซา (ฝ่ายตะวันตกเรียกว่า "พาราเซล") และถูกจีนยึดครองเมื่อปี 2517 ภายหลังการรบทางเรืออย่างดุเดือดกับกองทัพเรือของกองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม

บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนส่งเสียงปฏิเสธความสนใจที่มีการให้ความเห็นว่าแผนพัฒนาเกาะไหหลำที่คณะรัฐมนตรีจีนประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ จะเพิ่มความตึงเครียดสำหรับกรณีพิพาทอาณาเขตกับเวียดนาม

หนังสือพิมพ์รายวันของจีนอ้างคำพูดของ เหวะ ลืวถ่าญ เลขาธิการพรรค มณฑลไหหลำ ที่กล่าวว่า "พวกผมเพียงพัฒนาการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคม บนอาณาเขตและน่านน้ำทะเลของตัวเอง" และเรื่องนี้จะไม่สร้าง "ผลกระทบที่ไม่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศอื่น" เหวะ ลืวถ่าญ ประกาศเช่นนั้นเมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม 2 วันต่อมา เหงียน เฟือง งา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ประณามแผนการของจีนที่มุ่งก่อสร้างเกาะไหหลำเป็นเกาะท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งในแผนการนี้มีการเร่งพัฒนาการท่องเที่ยวที่เตยซา ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ฝ่ายเวียดนามเรียกว่าหว่างซา (ฝ่ายตะวันตกเรียกว่า สแปรตลี)

เหงียน เฟือง งา กล่าวว่าการกระทำของจีน "ละเมิดอธิปไตยของเวียดนามอย่างร้ายแรง" และ "ก่อความตึงเครียดและทำให้สถานการณ์ในทะเลตะวันออกซับซ้อนเพิ่มขึ้น" เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า "เวียดนามเรียกร้องให้ฝ่ายจีนยุติการกระทำนี้ทันที"

ในวันเดียวกัน เอกอัครราชทูตจีนที่นครฮานอยได้จัดประชุมสื่อมวลชน โดยตามคำอธิบายที่ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น คือมีจุดมุ่งหมาย "แจ้งให้ทราบเหตุการณ์ต่างๆ" และ "ประเมินเกี่ยวกับกระบวนการร่วมมือ 60 ปี จีน-เวียดนาม"

ในการประชุมสื่อมวลชนนี้ เอกอัครราชทูตจีน โตน ก๊วก เตื่อง กล่าวว่าปัญหาในทะเลเป็นปัญหาเด่นที่กำลังคั่งค้างอยู่ในความสัมพันธ์สองประเทศ แต่สองฝ่ายได้ตั้งกลไกการเจรจาและกำลังดำเนินการอย่างราบรื่น

เขากล่าวอีกว่า เวียดนามและจีนต่างก็เป็นประเทศสังคม นิยม โดยพรรคคอมมิวนิสต์เป็นแกนนำ "จึงไม่มีเหตุผลใดที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาคั่งค้างได้" เอกอัครราชทูตจีนย้ำข้อเสนอก่อนนี้ของผู้รับผิดชอบปักกิ่งเกี่ยวกับการพิพาทอธิปไตยทะเลตะวันออกว่าเป็น "การเลื่อนการโต้แย้งออกไปก่อนและร่วมกันใช้ประโยชน์"

ทัศนะของโตน ก๊วก เตื่อง ถูกโจมตีจากสาธารณชนเวียดนาม ทั้งภายในและต่างประเทศ แสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของจีนและพฤติการณ์รุกล้ำอาณาเขตเวียดนาม

ในขณะแผนก่อสร้างเกาะไหหลำเป็นเกาะท่องเที่ยวนานา ชาติทำให้เพิ่มความขัดแย้งกับเวียดนาม บรรดาผู้นำเกาะแห่งนี้กล่าวว่ายังมีงานที่ต้องทำหลายอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีจีนวางไว้ในเอกสารที่ประกาศเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2553

ในการประชุมที่ปักกิ่ง ลา บ๋าวมิญ ผู้ว่าการมณฑลไหหลำ กล่าวว่าจิตสำนึกเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และจิตใจบริการการท่องเที่ยวของประชาชนไหหลำ ต้องยกระดับให้มากขึ้น

เขากล่าวว่า "พวกผมได้รับจดหมายร้องทุกข์หลายฉบับ ความจริงมีจดหมายหลายฉบับอ่านเสร็จแล้วพวกผมไม่เพียงรู้สึกปวดใจ แต่ยังรู้สึกขุ่นเคืองด้วย ตัวอย่างเช่นการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวด้วยราคาแพงลิ่ว บีบบังคับ หลอกลวงนักท่องเที่ยว ขายสินค้าปลอม สินค้าขาดคุณภาพให้นักท่องเที่ยว ยังมีหลายกลุ่มจัด ทัวร์ผิดกฎหมาย ขนส่งนักท่องเที่ยวผิดกฎหมาย เพื่อหลอกลวงบีบบังคับนักท่องเที่ยว ถึงแม้เรื่องเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนจำนวนเล็กน้อย แต่ก่อความเสียหายมากกับผลประโยชน์ของการท่องเที่ยว และทำให้เสียภาพพจน์ของไหหลำ"

เหวะ ลืว ถ่าญ เลขาธิการพรรค มณฑลไหหลำ ก็ยอมรับความคิดนี้ และกล่าวเพิ่มเติมว่าต้องยกระดับความรู้ของประชาชนโดยรวม และคุณภาพของพนักงานแขนงงานท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

เหวะกล่าวว่า "ขอให้พวกผมมีเวลาสักเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องภาษา พวกผมต้องมีกระบวนการระยะยาวเพื่อให้มีคนรู้ภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย เกี่ยวกับบริการต่างๆ ควบคู่กับกิจกรรมพัฒนาการท่องเที่ยว ผมคิดว่าสิ่งนี้มีความสัมพันธ์มากกับคุณภาพและมาตรฐานการเรียนรู้ของประชาชน ในแง่นี้พวกผมจะพยายามสุดกำลัง เพื่อดำเนินงานแต่ละก้าว"

ตามรายงานของสำนักข่าว Reuters ในวันที่ 5 มกราคม มาตรฐานการบริการยังอ่อนด้อย และการพิพาทอาณาเขตกับเวียดนามเป็นสิ่งกีดขวางสำคัญในความพยายามของจีน เพื่อให้ไหหลำกลายเป็นหนึ่งในบรรดาจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวนานาชาติ

บทรายงานกล่าวเพิ่มเติมว่า เพราะจำนวนเที่ยวบินมาไหหลำยังน้อย และการตรวจลงตราเข้าเมืองขาดความคล่องตัว ปี 2551 จำนวนนักท่องเที่ยวมาที่เกาะนี้มีเพียงประมาณ 20 ล้านคน ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพียง 730,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซียและเกาหลีใต้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us