|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โพยก๊วนชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เคยเกิดปัญหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จับกุมเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2549 จำนวน 2 ราย
ทั้งคู่ถูกดำเนินคดีในข้อหาแลกและทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี (รอลงอาญา) พร้อมยึดเงินตราต่างประเทศที่รับแลก (เงินจัต) ทั้งหมด
การจับกุมตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเงินจัต กับเงินบาทในครั้งนั้นได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการค้าชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่สอด เป็นอย่างมาก
ตัวกลางในการรับแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับเงินจัต เป็นระบบการค้าเฉพาะถิ่น ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมานานเกือบร้อยปี เนื่องจากการค้าชายแดนไทย-พม่า ที่ทำกันมาตั้งแต่ปี 2485 จนถึงปัจจุบันมีมูลค่าปีละหลายหมื่นล้านบาทล้วนแต่ต้องซื้อขายกันด้วยเงินจัต
แต่การค้าชายแดนในแม่สอด ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ได้ เพราะธนาคารพาณิชย์ของไทยที่นี่ไม่รับซื้อเงินจัต ทำให้พ่อค้าชายแดนจำเป็นต้องหาวิธีการในการแลกเปลี่ยนเงิน เพื่อให้กระบวนการค้าสมบูรณ์ การที่ธนาคารพาณิชย์ของแม่สอด ไม่ยอมรับซื้อเงินจัต เพราะทางการไทยได้ประกาศไม่รับรองเงินจัตของพม่า ซึ่งแน่นอนว่า ในทางกฎหมาย ใครก็ตามที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเงินระหว่างจัตกับบาท หากจับได้เมื่อไหร่ก็ผิดเมื่อนั้น ซึ่งสวนทางความเป็นจริงตามวิถีปฏิบัติที่หากผู้ประกอบการไทยไม่รับเงินจัต ก็ขายสินค้าไม่ได้
การทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินจัต จึงเป็นเรื่องสำคัญของการค้าชายแดนไทย-พม่า ทำให้ผู้ค้าชายแดนทุกแห่งต้องหาทางช่วยตนเองมานานถึง 65 ปีแล้ว นับตั้งแต่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินใน พ.ศ.2485
นอกจากนี้ การที่เงินจัตไม่มีองค์กรหรือสถาบันการเงินใดรับรอง และกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนให้เป็นมาตรฐาน การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันจึงขึ้นอยู่กับสถานภาพการค้าขายในท้องถิ่นเป็นสำคัญ
แต่เนื่องจากเงินจัตเป็นเงินที่ออกโดยธนาคารกลางพม่า จึงเป็นเงินต่างประเทศ ตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกรรมเกี่ยวกับเงินจัต ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง เช่นเดียวกับการทำธุรกรรมเงินสกุลต่างประเทศอื่นๆ
หากทำธุรกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกดำเนินคดีอาจได้รับโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี และปรับ 20,000 บาท ดังนั้น ผู้ทำธุรกรรมเงินจัตทุกรายจะต้องขออนุญาต และไปขึ้นทะเบียนไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย
ปัจจุบันในท้องที่อำเภอแม่สอด มีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตทำธุรกรรมรับแลกเปลี่ยนเงินจัตอยู่เพียงประมาณ 13 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการสัญชาติจีนกับพม่า
|
|
|
|
|