|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ภายในปี 2011 สหรัฐฯ จะถอนทหารทั้งหมดออกจากอิรัก และจะเริ่มถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน แต่มันอาจไม่ง่ายอย่างนั้น
สหรัฐฯ ประกาศจะถอนทหารทั้งหมดออกจากอิรักภายในสิ้นปี 2011 และในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ก็จะเริ่มถอนทหารชุดแรกออกจากอัฟกานิสถาน แต่จะสำเร็จหรือไม่
สหรัฐฯ ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรืออาจจะเรียกว่า "ติดกับ" ในสถานการณ์ที่ยุ่งยากของทั้งอิรักและอัฟกานิสถาน จนยากที่จะถอนตัวได้ง่ายๆ นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังผูกติดความสำเร็จในการถอนทหาร ให้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของรัฐบาลอิรักและอัฟกานิสถาน สหรัฐฯ กำลังหวังให้ชาวอิรักและชาวอัฟกานิสถานทำให้มากกว่านี้ เพื่อที่ตนจะได้ทำน้อยลง แต่ดูเหมือนว่าทั้งอิรักและอัฟกานิสถาน จะไม่ค่อยใส่ใจที่จะให้ความร่วมมือเท่าใดนัก
รัฐบาลอเมริกันและรัฐบาลอิรักได้ลงนามข้อตกลงที่จะถอนทหารอเมริกันทั้งหมด (120,000 นาย) ออกจากอิรักภายในสิ้นเดือนสิงหาคมปีหน้า ส่วนอัฟกานิสถาน Obama จะใช้วิธีค่อยๆ ลดจำนวนทหารลง โดยจะเริ่มในเดือนกรกฎาคมปีหน้า แต่ก็ยังไม่มีการพูดถึงว่า การถอนทหารอเมริกันออกจากอัฟกานิสถานนั้นจะทำอย่างเร็วช้าเพียงใด และจะเหลือทหารจำนวนเท่าใดที่จะคงอยู่ในอัฟกานิสถานต่อไปเป็นเวลานานเท่าใด ที่สำคัญที่สุดคือยังไม่มีการพูดเลยว่า อะไรจะเกิดขึ้น หากสถาน การณ์วุ่นวายในอัฟกานิสถานยังคงไม่ดีขึ้นหรือกลับยิ่งเลวร้ายลง และกองทัพและตำรวจของอัฟกานิสถานยังไม่มีความพร้อมที่จะรับถ่ายโอนภารกิจด้านความมั่นคงไปจากสหรัฐฯ
ยังไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้เชื่อได้เลยว่า กองกำลังความมั่นคงของอัฟกานิสถานจะมีความพร้อมทันกำหนดการเริ่มถอนทหารของสหรัฐฯ Obama หวังว่า "คำขู่" ที่จะเริ่มถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานในปีหน้า จะทำให้รัฐบาลอัฟกานิสถานกระตือรือร้นมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่า ประธานาธิบดี Hamid Karzai ของอัฟกานิสถาน จะรู้ทันว่า นี่เป็นเพียงการเกทับกันเท่านั้น เขาเชื่อว่า Obama จะไม่ถอนตัวจากสงครามที่ตัว Obama เพิ่งระบุว่าเป็นสงครามที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ และ Karzai อาจคิดไม่ผิด
ที่อิรัก แม้จะรู้ว่าทหารสหรัฐฯ กำลังจะถอนตัวออกไปหมดภายในอีกไม่นาน แต่นักการเมืองอิรักก็ยังคงทุ่มเถียงกันไม่เลิกเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง จนอาจทำให้การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในเดือนมกราคมต้องเลื่อนออกไป และถึงแม้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้จริง แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่า อิรักจะได้รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ ชาวเคิร์ด สุหนี่ และชีอะห์ในอิรัก ยังไม่เคยแสดงความเต็มใจที่จะทำงานร่วมกันอย่างสันติเลย ยังไม่รวมถึงการที่ยังไม่มีข้อตกลงแบ่งผลประโยชน์ด้านน้ำมัน และปัญหาผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในอิรักอีก 4 ล้านคนที่ยังไม่มีใครรับประกันว่า พวกเขาจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย เสถียรภาพในอิรักก็ยังคงแย่ลงและดูเหมือนว่าจะเกิดเหตุระเบิดและความรุนแรงในรูปแบบใหม่
สหรัฐฯ จะทำอย่างไรต่อไปในเมื่ออิรักเป็นประเทศที่สำคัญต่อเสถียรภาพของภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีปัญหามากที่สุดและสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก รวมทั้งสำคัญต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์เห็นว่า Obama ควรจะเปลี่ยนใจจากแผนการที่จะถอนทหารในส่วนที่ทำหน้าที่สู้รบทั้งหมด ออกจากอิรักภายในเดือนสิงหาคมปีนี้ (2010) และควรจะรื้อข้อตกลงกับอิรักขึ้นมาเจรจาใหม่ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่กำหนดให้สหรัฐฯ ถอนทหารและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจาก อิรักภายในสิ้นปี 2011 แค่เพียง Obama 0t ส่งสัญญาณว่า กำลังจะพิจารณาที่จะคงกำลังทหารในอิรักต่อไป ก็อาจสามารถยับยั้งความขัดแย้งในอิรักไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ได้
ส่วนอัฟกานิสถาน หากกองกำลังความมั่นคงอัฟกานิสถาน ไม่มีความสามารถพอที่จะรับถ่ายโอนภารกิจไปจากสหรัฐฯ ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2011 Obama ก็คงต้องเผชิญการตัดสิน ใจที่ยากลำบากอีกครั้ง ทางเลือก 2 ทางแรก คือยืดเวลาประจำการของทหารที่เพิ่มขึ้น 30,000 นาย ออกไปจาก 18 เดือน หรือจะเพิ่ม กำลังทหารในอัฟกานิสถานให้มากขึ้นไปอีก ล้วนแล้วแต่เป็นหนทางที่มีต้นทุนสูง นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการจุดไฟการเมืองภายในสหรัฐฯ อีกส่วนทางเลือกที่สามคือ ยังคงดื้อที่จะเริ่มถอนทหารสหรัฐฯ ตามกำหนด ทั้งๆ ที่กองกำลังความมั่นคงอัฟกานิสถานยังคงอ่อนแอ ก็เสี่ยงต่อการถูก ตำหนิอย่างรุนแรงได้ว่า สร้างความเสียหายต่อเกียรติภูมิของสหรัฐฯ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงต่อการก่อการร้ายที่จะมาจากอัฟกานิสถาน
ทางเดียวที่จะทำได้คือ คงกำลังทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานต่อไป แต่ในจำนวนที่น้อยลง หรือกลับไปสู่จำนวนทหารก่อนการเพิ่มทหาร 30,000 นาย และเดินหน้านโยบายฝึกกองทัพและกำลังตำรวจของอัฟกานิสถานต่อไป พร้อมกับปรับปรุงธรรมาภิบาล ส่ง Taliban ที่กลับใจกลับคืนสู่สังคม และให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมศักยภาพของอัฟกานิสถาน มากกว่าปฏิบัติการทางทหารเพื่อต่อต้านผู้ก่อความไม่สงบ ทั้งหมดนี้อาจทำให้สหรัฐฯ จำเป็นต้องคงกำลังทหารไว้ในอัฟกานิสถานต่อไปอีกระยะหนึ่ง
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การกระโจนเข้าร่วมกับความขัดแย้งนั้น เป็นเรื่องง่ายกว่าการพยายามหาทางออกจากมัน
แปล/เรียบเรียง เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
เรื่อง นิวสวีค 14 ธันวาคม 2552
|
|
|
|
|