|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การจัดตั้งพันธมิตรของสายการบินต้นทุนต่ำระหว่างเจ็ท สตาร์ ร่วมกับแอร์เอเชีย กำลังสร้างให้เกิดมิติใหม่ในแวดวงการบินระดับนานาชาติที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ
เพราะการผนึกกำลังของสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ low cost ในลักษณะเช่นนี้ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่พันธมิตรสายการบิน ถูกจัดตั้งขึ้นโดยไม่มีผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นหัวเรือหลักหรือร่วมเป็นสมาชิกโดยตรง แม้ว่า Jetstar จะมีฐานะเป็นบริษัทในเครือของสายการบิน Qantas จากออสเตรเลียก็ตาม
การสร้างพันธมิตรของผู้ประกอบการต้นทุนต่ำดังกล่าว วางเป้าหมายให้ต้นทุนการดำเนินงานของสายการบินทั้งสองลดลง ควบคู่กับการใช้ความรู้และทักษะการทำงานร่วมกันได้ ซึ่งส่งผลให้ทั้งสองสายการบินสามารถให้บริการรับส่งผู้โดยสารด้วยค่าโดยสารราคาประหยัดมากยิ่งขึ้น
การเกิดขึ้นของพันธมิตรสายการบินต้นทุนต่ำรายแรกของโลก ซึ่งประกอบด้วยสองสายการบินราคาประหยัดชั้นนำแห่ง ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปรากฏในห้วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับการล่มสลายของสายการบินระดับของเอชียและของโลกอย่าง Japan Airline หรือ JAL ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ท้าทายอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคไม่น้อย
จังหวะก้าวของพันธมิตรสายการบินต้นทุนต่ำที่สำคัญอยู่ที่ความร่วมมือกันกำหนดคุณสมบัติจำเพาะของเครื่องบินขนาดลำตัวแคบรุ่นใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเดินทางกับสายการบินค่าโดยสารราคาประหยัดได้อย่างตรงจุด รวมทั้งมองหาช่องทางในการสั่งซื้อเครื่องบินร่วมกัน
การลงนามก่อตั้งพันธมิตรสายการบินดังกล่าวกระทำขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเปิดแนวรุกเพื่อรับกับศักราชใหม่ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน โดยมีอลัน จอยซ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินแควนตัส บรูซ บิวคานันประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเจ็ทสตาร์ และดาตุ๊ก เสรี โทนี เฟอร์นานเดสประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินแอร์เอเชีย ร่วมลงนามเห็นชอบกับการก่อตั้งพันธมิตรดังกล่าว
อลัน จอยซ์ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินแควนตัส ระบุว่า การจัดตั้งพันธมิตรดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ต่อการดำเนินงานของสายการบินเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดการบินที่มีการแข่งขันสูงที่สุดของโลก โดยจะช่วยให้ทั้งสองสายการบินสามารถเจาะเข้า ถึงตลาดดังกล่าวได้มากขึ้น ทั้งในรูปของการขยายเส้นทางบินมากกว่าและการบริการด้วยค่าโดยสารที่มีราคาประหยัดกว่าสายการบินคู่แข่งรายใหญ่ต่างๆ ตลอดจนใช้ประโยชน์จากขนาดของธุรกิจของแต่ละบริษัทได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ "เจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียเป็นผู้บุกเบิกริเริ่มจัดตั้งรูปแบบธุรกิจการบินระยะไกลที่มีค่าโดยสารราคาประหยัด การประกาศจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ในวันนี้เป็นการพลิกรูปแบบพันธมิตรการบินจากแบบเดิมสู่พันธมิตรการบินแบบใหม่ที่มุ่งเน้นลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ในการดำเนินงาน สำหรับตลาดการบินในภูมิภาคเอเชียเป็นตลาด ที่มีการเติบโตอย่างเด่นชัดและมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตลอดปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีสภาวะการดำเนินงานที่ยากลำบาก แต่มีการคาดการณ์ว่า จะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ดังนั้น การผนึกกำลังเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะมอบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้กับทั้งสองสายการบินดังกล่าวอย่างแน่นอน" อลัน จอยซ์ย้ำ
สำหรับข้อตกลงในการเป็นพันธมิตรดังกล่าวประกอบด้วย การกำหนดคุณลักษณะของฝูงบินในอนาคตร่วมกัน โดยทั้งเจ็ท สตาร์และแอร์เอเชียจะร่วมกันมองหาลู่ทางในการจัดซื้อเครื่องบินขนาดลำตัวแคบรุ่นใหม่ร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานอันเป็นผลเนื่องมาจากการมียอดสั่งซื้อที่สูงจะทำให้ราคาลดลง ตลอดจนร่วมกำหนดแนวทางการออกแบบคุณลักษณะของเครื่องบินให้มีการดำเนินงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ลดลง ซึ่งรวมถึงการใช้คลังอุปกรณ์และชิ้นส่วนเครื่องบิน และการใช้บริการวิศวกรรมและซ่อมบำรุงร่วมกันอีกด้วย
ขณะที่ในส่วนของการให้บริการผู้โดยสาร สัมภาระ และเครื่องบินภายในสนามบินจะมีการพัฒนาความร่วมมือในการยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสาร การจัดการสัมภาระและเครื่องบินภายในสนามบินในประเทศออสเตรเลียและภูมิภาคเอเชียและการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการผู้โดยสารบนเครือข่ายเส้นทางบินของเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชีย เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการเปลี่ยนเที่ยวบินของสายการบินอื่น
บรูซ บิวคานันประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเจ็ท สตาร์ ระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้เกิดจากความต้องการลดต้นทุนของทั้งสองสายการบิน ซึ่งที่ผ่านมาเจ็ทสตาร์ได้ลดต้นทุนที่สามารถควบคุมได้สูงถึงปีละ 5% และการจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รุดหน้าอีกขั้นทางด้านการจัดการต้นทุนและการมอบค่าโดยสารราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่โทนี เฟอร์นานเดสประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินแอร์เอเชียประเมินว่า การจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ครั้งนี้เป็นก้าวที่รุดหน้าอีกขั้นในการดำเนินกลยุทธ์ของแอร์เอเชียเพื่อครองความเป็นผู้นำในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำของโลก แม้ว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกก็ตาม
ทั้งนี้ เจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียมีรายได้รวมกัน 3,000 ล้านเหรียญออสเตรเลียในปีงบประมาณ 2552 ผลการร่วมเป็นพันธมิตรดังกล่าวจะบังเกิดผลลัพธ์อย่างไรเป็นกรณีที่ท้าทายอย่างยิ่ง
|
|
|
|
|