|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โบรกฯมองสินเชื่อธนาคารพาณิชย์มีโอกาสสูงกว่าประมาณการณ์ 5-6% รับเศรษฐกิจฟื้นตัว ความต้องการสินเชื่อเพิ่ม เล็งปรับประมาณการขึ้น โดยเฉพาะแบงก์เล็กกลุ่มเช่าซื้อ
ธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์(บล.) กรุงศรีอยุธยา ประเมินว่า แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในปี 2553 มีโอกาสสูงกว่าเป้าสินเชื่อที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่5-6% เพราะฉะนั้นฝ่ายวิจัยกำลังจะพิจารณาปรับเพิ่มเป้าการขยายตัวของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์และเป้าสินเชื่อของแต่ละธนาคารใหม่ซึ่งจะสามารถได้ข้อสรุปภายในเร็วๆ นี้
เนื่องจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารกลุ่มธนาคารพบว่าสินเชื่อในปี 2552 จะขยายตัวได้ดีกว่าปี 2552 ค่อนข้างมากตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ที่จะขยายตัว 3% ซึ่งทาง ธนาคารกรุงไทย(KTB) ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตมากกว่า 7% หรือมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นธนาคารเดียวที่ตั้งเป้าสินเชื่อสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่า KTB สินเชื่อจะเติบโตได้ประมาณ 6% เพราะได้รับอานิสงส์การสินเชื่อของรัฐบาลและสินเชื่อรวมที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยอาจจะพิจารณาปรับเป้าสินเชื่อของ KTB เพิ่มขึ้น
ด้านธนาคารกรุงเทพ (BBL) ตั้งเป้าสินเชื่อปี2553 เติบโต 3-5% จากปี 2552 คาดว่าจะติดลบประมาณ 0-2%ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าสินเชื่อ BBLในปี 2553 จะเติบโตที่ 4% เพราะความต้องการสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ที่เติบเพิ่มขึ้นจากปี 2552 เป็นธนาคารที่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่มียอดชำระคืนหนี้มากที่สุด และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2553 เติบโต 7-8% หรือคิดเป็นมูลค่า 8.1-8.3 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่ธนาคารคาดว่าสินเชื่อเติบโต 3-5% ซึ่งธนาคารจะเตรียมรุกสินเชื่อธุรกิจSME มากขึ้น ฝ่ายวิจัยคาดว่าKBANK สินเชื่อปี 2553 จะเติบโตที่ 5% เพราะเป็นธนาคารที่ได้รับประโยชน์ จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เร็ว ที่สุดเพราะมีสัดส่วนสินเชื่อSME มากที่สุด หรือ 70%
สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตมากกว่า 5% จากปี 2552 ที่คาดว่าสินเชื่อจะไม่เติบโตตามเป้า3-5% จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่า SCB สินเชื่อปี 2553 เติบโต 4% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการสินเชื่อภาคเกษตร และสินเชื่อเพื่อเงินหมุนเวียนระยะสั้น สินเชื่อเพื่อการส่งออก สินเชื่อที่อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตามการที่ SCB จะลุยสินเชื่อ SME มากขึ้นนั้นฝ่ายวิจัยคาดว่า SCB อาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งถึงจะเริ่มเห็นสินเชื่อSME เพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าในปี 2553 คุณภาพสินเชื่อของ SCB จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นเพราะมีลูกค้า 1 รายที่ถูกจัดชั้นเป็นหนี้ด้อยคุณภาพจะกลับมาเป็นลูกหนี้ปกติ เนื่องจากลูกค้าดังกล่าวเป็นหนี้ค่อนข้างสูง
ส่วนธนาคารนครหลวงไทย(SCIB) ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 6% สอดคล้องกับแนวโน้ม การเติบโตของสินเชื่อทั้งระบบที่คาดโต5-6% ฝ่ายวิจัยคาดว่า SCIB สินเชื่อปี 2553 เติบโต 5% เพราะเป็นปีแห่งการควบรวมกิจการของธนาคาร
ด้านธนาคารทหารไทย(TMB) ตั้งเป้าสินเชื่อโต 5% แต่ฝ่ายวิจัยคาดว่า TMB สินเชื่อปี 2553 จะเติบโต 3%เพราะได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาธนาคารออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องส่งผลให้ธนาคารมีกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น
โดยธนาคารเกียรตินาคิน(KK) คาดสินเชื่อเติบโต7% บมจ.ทุนธนชาต(TCAP) คาดสินเชื่อเติบโต 6-7%และ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป(TISCO) คาดสินเชื่อเติบ โต10% ซึ่งในส่วนธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลักฝ่ายวิจัยมองว่ามีโอกาสที่สินเชื่อสูงกว่าเป้าที่ฝ่ายวิจัยตั้งไว้ เพราะคาดความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อจะเติบโตก้าวกระโดดจากปี 2552 มียอดการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างน้อยมาก และมีบางธนาคารที่จะซื้อพอร์ตสินเชื่อมาบริหารเพิ่มเช่น TISCO ซึ่งจะสนับสนุนเป้าสินเชื่อ แนะนำ "เข้าลงทุน" ในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์
|
|
|
|
|