|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE หนึ่งในผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) ที่มีคุณภาพดี เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกที่ต้นทุนต่ำ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นบริษัทฯได้มีการประเมินยอดขายถ่านหินในช่วงไตรมาส4 ปี 52 เพิ่มขึ้น 10-20% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงไตรมาส 3 ปีเดียวกันที่ระดับ 485 ล้านบาท เนื่องจากช่วงปลายไตรมาส 3 ปี 51 บริษัทฯได้เปิดคลังสินค้าที่ศรีราชา จังหวัดดชลบุรี ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อสินค้าทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯได้มีการประมาณการรายได้ในปี 52 ไว้ที่ระดับประมาณ 2,100 ล้านบาท
" ปัจจุบันบริษัทฯมีคลังสินค้า และโรงคัดแยก รวมทั้งหมด 4 แห่ง อาทิ จังหวัดสมุทรสาคร , จังหวัดเพชรบุรี , จังหวัดอยุธยา และจังหวัด ชลบุรี ส่งผลให้บริษัทฯมีพื้นในการจัดเก็บถ่านหินไม่ต่ำกว่า 400,000 ตัน " นายสมยศ กล่าว
นายสมยศกล่าวถึงราคาถ่านหินในช่วงครึ่งปีแรกของปี 53 ว่ามีผลมาจากราคาถ่านหินในปัจจุบันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 90-95 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ( อิงกับค่าBJI ) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจาก 75-85 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และเพิ่มขึ้นจากช่วงกลางปี 52 ที่ 65-75 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
สำหรับสาเหตุที่ราคาถ่านหินในตลาดโลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เศรษฐกิจโลกเริ่มมีการฟื้นตัว ประกอบกับอัตราการต้องการใช้ถ่านหินในประเทศจีน และอินเดีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าในช่วงอดีตที่ผ่านมา
" การนำเข้าถ่านหินของจีน และ อินเดีย ในช่วงเดือนธันวาคม 52 และมกราคม ปรับเพิ่มขึ้น เกินกว่า 30 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้มีการประเมินในเบื้องต้นว่า การนำเข้าของจีนจะยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง " นายสมยศ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายทางด้านลอจิสติกส์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯคาดการอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 53 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 20%
สำหรับงบการเเงินงวดล่าสุด สิ้นไตรมาส 3 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 37.35 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42.49 ล้านบาท หรือขาดทุน 187.90 % เนื่องจากไตรมาสนี้ บริษัทมียอดรายได้จากการขาย 491.69 ล้านบาท ลดดจากปี 51 ที่ขายได้ 633.78 ล้านบาท หรือลดลง 142.09 ล้านบาทคิดเป็น 22.42 % ผลจากนโยบายการให้สินเชื่อกับลูกค้าอย่างระมัดระวังในสภาวะเศรษฐกิจขาลง รวมทั้งการปรับลดมูลค่าสินค้าและทำให้เกิดผลขาดทุนสุทธิหลังปรับมูลค่าสินค้าดังกล่าว
ขณะราคาหุ้น AGE วานนี้ พบว่าปิดบวกที่ 6.75 บาท เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 1.50% ด้วยมูลค่า 5.47 ล้านบาท
|
|
|
|
|