|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ซีพีออล์ปรับทิศ หันกลับมาลุยเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเองก่อนปล่อยแฟรนไชส์สวมต่อ หลังพบทำเลที่แฟรนไชส์หาเองไม่มีประสิทธิภาพ เปิดแล้วต้องปิดไปมาก ผนึก 3 แบงก์ยักษ์ให้สินเชื่อแฟรนไชส์ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมขนสินค้าในแคตตาล็อกไปวางขายในร้านเซเว่นฯเพิ่มขึ้น
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอิ่มสะดวกเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า จากปัญหาที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่หาทำเลเปิดร้านเอง แต่เป็นทำเลที่ไม่ค่อยมีศักยภาพเท่าไรส่งผลต่อยอดขายไม่คุ้มค่า และไม่ประสบความสำเร็จจนต้องปิดสาขาไปจำนวนมากนั้น ทำให้บริษัทฯต้องหันกลับมาใช้นโยบายการขยายสาขาและลงทุนเองก่อนเพื่อให้สาขานั้นประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะเปิดขายต่อให้กับผู้สนใจมาซื้อแฟรนไชส์ต่อไป เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมคุณภาพการบริการและการหาทำเลเปิดร้านที่มีประสิทธิภาพได้
ทั้งนี้บริษัทฯยังได้หาทางช่วยเหลือผู้สนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์แต่ไม่พร้อมเรื่องเงินทุนด้วย ล่าสุดได้ร่วมมือกับ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารนครหลวงไทย เพื่อร่วมกันปล่อยสินเชื่อพิเศษสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ โดยคาดว่า จากการเปิดให้บริการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำครั้งนี้จะส่งผลให้ สัดส่วนร้านเซเว่นฯที่เป็นแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50% จากปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 45% และคาดว่าในอีก3 ปีข้างหน้าสัดส่วนร้านแฟรนไชส์จะเพิ่มเป็น 58% ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯมีแผนในการลงทุนเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นประมาณ 400-500 สาขาทั่วประเทศ ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านๆมา
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กล่าวเสริมถึงการทำตลาดในส่วนของเซเว่นแคตตาล็อกด้วยว่า ปัจจุบันนี้มีสินค้าในเซเว่นแคตตาล็อคที่นำเข้ามาขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นประมาณ 30 กว่ารายการ ซึ่งในระยะยาวแล้วมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสินค้ามากขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และยังเป็นการสร้างทางเลือกให้กับลูกค้าของเซเว่นฯ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่ำ 50%
สำหรับสินค้าที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในร้านเซเว่นฯนั้นจะเน้นไปที่กลุ่มสินค้า ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่น กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่นำเข้ามาขายในร้านเซเว่นฯเป็นกลุ่มล่าสุด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้นำเอากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเข้ามาวางจำหน่ายไปแล้วในบางสาขา
จากแผนการขยายสาขาต่อเนื่อง การปรับเป็นร้านอิ่มสะดวก รวมทั้งการมีสินค้าและบริการที่ตอบสนองลูกค้าได้อย่างดี คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำรายได้รวมประมาณ 110,000 ล้านบาท มีการเติบโต 10-15% จากปีที่แล้ว ที่มีรายได้ประมาณ 90,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตในระดับเดียวกับภาพรวมธุรกิจค้าปลีกที่ปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 10-15%
|
|
|
|
|