Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน2 กุมภาพันธ์ 2553
บสท.โละสินทรัพย์1.7แสนล.             
 


   
www resources

เอคเซนเซอร์ การเปลี่ยนชื่อที่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อ

   
search resources

บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
Loan




บสท.เดินแผนยุบกิจการ หลังดำเนินงานครบกำหนด 10 ปี ตาม พ.ร.ก.บสท. พร้อมเตรียมโละสินทรัพย์คงเหลือ 1.72 แสนล้าน ขายต่อ บสก.-บสส.สุขุมวิท ฟุ้งปี52 สร้างรายได้รวม27,499ล้านบาท ตั้งเป้า16เดือนสุดท้ายก่อนยุบเลิก 32,650ล้านบาท

นางจุไรรัตน์ ปันยารชุน กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน บสท.มียอดสินทรัพย์คงเหลือจำนวน172,173ล้านบาท แบ่งออกเป็นเงินชำระตามแผนการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน49,921 ล้านบาท ทรัพย์สินระหว่างบังคับหลักประกันมูลค่า30,678 ล้านบาท และทรัพย์สินรอการขาย (NPA)จำนวน91,574 ล้านบาท

โดยในปี 53บสท.ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวม21,220ล้านบาทแบ่งออกเป็นรายได้จากการจัดเก็บหนี้ 13,82ล้านบาท และรายได้จากการขยายNPA 7,400 ล้านบาท ในขณะที่ปี 54บสท.ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวม 11,430ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการจัดเก็บหนี้ 8,730ล้านบาท และรายได้จากการขาย NPA อีก 2,700 ล้านบาท หรือจะทำให้ในช่วง16เดือนก่อนที่ บสท. จะยุบเลิกกิจการนั้น จะสามารถระบายสินทรัพย์ได้ทั้งสิ้น 32,650ล้านบาท

ทั้งนี้ หาก บสท. สามารถสร้างรายได้ตามเป้าที่วางไว้ จะส่งผลให้ ณ ปี 54บสท.มีทรัพย์สินคงเหลือทั้งสิ้น 139,523ล้านบาท ซึ่งสินทรัพย์ในส่วนที่เหลือทั้งหมด จะต้องจำหน่ายให้สถาบันการเงินของรัฐ คือ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์(บสก.) และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) เพื่อนำไปบริหารการขายต่อ ในขณะเดียวกัน จะให้สิทธิ์แก่เจ้าหนี้เดิมที่โอนสินทรัพย์ให้แก่บสท.ได้มีโอกาสในการเสนอซื้อสินทรัพย์ในส่วนที่เหลือก่อน

อนึ่ง บสท.เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสียในระบบ ซึ่งมีอายุการดำเนินงาน10 ปี และต้องยุบเลิกกิจการตามมาตรา 95 แห่งพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ก.) บสท. พ.ศ. 2544 ซึ่งบัญญัติว่า เมื่อบสท.ดำเนินกิจการครบเจ็ดปีนับแต่วันที่ พ.ร.ก.ใช้บังคับแล้ว ต้องให้ยุบเลิกบสท.เมื่อครบ10ปี และชำระบัญชีให้แล้วเสร็จในเวลาไม่ช้ากว่าปีที่12 นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.ก.ใช้บังคับ

นางจุไรรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของภารกิจเพื่อการยุบเลิกตามกฎหมายนั้น บสท.ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 51 ที่ผ่านมา โดยได้จัดทำแผนงานเสนอต่อกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.51 และได้จัดประชุมกับสถาบันการเงินผู้โอนหนี้ทั้ง 23 แห่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีส่วนได้เสียในการร่วมรับผิดชอบผลกำไรและขาดทุน ที่จะเกิดขึ้นจากการบริหารหนี้เสียของบสท. เพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการบริหารจัดการสินทรัพย์คงเหลือ

“ สถาบันการเงินส่วนใหญ่มีความเห็นให้ขายสินทรัพย์คงเหลือให้แก่ บสก.และบสส. ซึ่งขณะนี้ บสท.อยู่ระหว่างนำเสนอความเห็นของสถาบันการเงินต่อกระทรวงการคลัง และหากเห็นชอบ ทางบสท.จะจัดแยกกองประมูลขายสินทรัพย์ประเภทลูกหนี้ รวมถึงสิทธิ์เรียกร้อง และNPA ต่อไป ในเบื้องต้นจะมี 4 กอง ”

สำหรับในปี 52 ที่ผ่านมา บสท.มีรายได้รวม 27,499 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 16,309 ล้านบาท และรายได้จากการขาย NPA จำนวน11,190 ล้านบาท และมีรายได้จากการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 21,690 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นปีที่ผ่านมา สามารถลดภาระหนี้สาธารณะของประเทศและจากการค้ำประ กันตั๋วสัญญาใช้เงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ( FIDF )

โดยการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินในส่วนของเงินต้น จำนวน 161,261 ล้านบาท คิดเป็น65.07% ของทั้งหมด 247,844 ล้านบาท และได้ชำระค่าดอกเบี้ยไปแล้ว จำนวน 20,349 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน คงเหลือตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 86,583 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา บสท.ได้ส่งผ่านลูกหนี้สุจริตและมีศักยภาพกลับเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินตามปกติ ทั้งสิ้น 3,555 ราย คิดเป็นมูลค่าทางบัญชี 122,816 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us