เค.อี.แลนด์ บุกตลาดรับสร้างบ้านหรู ฟุ้งมีลูกค้าไฮโซจองคิวเพียบ ประเดิมออกแบบหลังแรกกว่า 2,000 ตร.ม.คาดเปิดตัวอย่างเป็นทางการกลางปี 53 ด้านคลิสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เฟส 2 ลูกค้าจองพื้นที่แล้วกว่า 80% ตั้งเป้ารายได้จากศูนย์ฯปีละกว่า 1,000 ล้านบาท เล็งเปิดโรงแรม- โรงหนังเพิ่ม หากสีผังเมืองเอื้อ
นาย กวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเปิดให้บริการรับสร้างบ้านแก่ลูกค้าทั่วไป จากเดิมที่จะสร้างบ้านให้ลูกค้าภายในโครงการของบริษัทเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมามีคนรู้จักและลูกค้าหลายรายต้องการให้สร้างบ้านบนที่ดินของตนเองให้ แต่ทีมงานยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างระดมทีมงานเพื่อพัฒนาโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ หรือ ซีดีซี บนพื้นที่ 73 ไร่ จึงได้ชะลอการขยายธุรกิจรับสร้างบ้านออกไปก่อน
ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างพัฒนาในเฟสที่สอง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ นอกจากนี้โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแกรนด์ คลิสตัส ระดับราคา 40-200 ล้านบาท จำนวน 100 หลัง ปัจจุบันเหลือเพียง 3 แปลงเท่านั้น ดังนั้นจึงมีความพร้อมที่จะขยายไปสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านเต็มรูปแบบทั้งออกแบบและงานก่อสร้าง ซึ่งจะอยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เค.อี.แลนด์ โดยไม่เปิดบริษัทใหม่
สำหรับแบบบ้านที่กลุ่มเค.อี.แลนด์มีอยู่ในมือมีหลากหลายเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ออกแบบ ซึ่งแบบบ้านจาก 2 โครงการที่ผ่านมารวมกว่า 50-60 แบบบ้าน มีขนาดตั้งแต่ 1,000 ตร.ม.ขึ้นไประดับราคาค่าก่อสร้างเฉลี่ย 35,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นที่ 40 ล้านบาท สูงสุดที่ 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะเป็นช่วงวางระบบงานของธุรกิจใหม่ และพร้อมรุกตลาดจริงๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 10 หลัง หรือประมาณ 500 ล้านบาท จากกำลังการรับสร้างบ้านที่สามารถทำได้อยู่ที่ 20 หลังต่อปี ปัจจุบันได้ออกแบบบ้านให้ลูกค้าไปแล้ว 1 ราย พื้นที่ใช้สอยกว่า 2,000 ตร.ม. มูลค่ารวมที่ดินกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างได้เร็วๆนี้
“ที่ผ่านมามีลูกค้า เพื่อนๆและคนรู้จักในสังคมไฮโซ ดารา คนดังของเมืองไทยเรียกร้องให้สร้างบ้านให้นับร้อยราย เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพบ้านของเค.อี.แลนด์ และได้เห็นผลงานในโครงการต่างๆของบริษัท แต่เนื่องจากกำลังคนไม่พร้อม แต่ตอนนี้งานพัฒนาที่ดินเหลือขายเพียง 3 แปลงเท่านั้น และเหลืองานก่อสร้างบ้านให้ลูกค้าจำนวนหนึ่งจึงเริ่มรับงานสร้างบ้านได้แล้ว” นายกวีพันธ์
สำหรับโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ( CRYSTAL DESIGN CENTER ) หรือ ซีดีซี (CDC) อาณาจักรแห่งนวัตกรรมการดีไซน์ และไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย สมบูรณ์แบบ และใหญ่ที่สุดในเอเชียบนเนื้อที่ 73 ไร่ รวม 20 อาคารเนื้อที่กว่า 1 แสนตร.ม. มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันได้เปิดให้บริการในเฟส 1 แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างเฟส 2 มูลค่าก่อสร้าง 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในกลางปีนี้ โดยในเฟส 2 มีลูกค้าจองพื้นที่แล้วกว่า 90% ส่วนในเฟสหนึ่งมีลูกค้าจองพื้นที่เต็มแล้ว 100%
นาย กิจพจน์ จันทร์ทัสโต ผู้จัดการฝ่ายออกแบบ (Manager Architect Desingn Department) บริษัท เค.อี.แลนด์กล่าวเสริมว่า ได้ให้แนวคิดแก่ทีมงานว่า ให้ใส่ใจในการออกแบบและก่อสร้างบ้านให้ลูกค้าเสมือนสร้างบ้านของตนเอง แล้วงานจะออกมาดี
ส่วนโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ถือเป็นผลงานที่ภาคภูมิใจมาก เพราะทุกตารางนิ้วล้วนตั้งใจออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ โดยการออกแบบภาพรวมใช้นักออกแบบจากต่างประเทศ ส่วนในรายละเอียดได้ออกแบบร่วมกับนักออกแบบระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะ DWP ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบมือหนึ่งของเมืองไทย โดยเฉพาะการออกแบบในเฟสที่สองเป็นรูปปีกนกกำลังบิน นอกจากนี้ร้านค้าที่มาเปิดให้บริการทุกร้านยังเน้นดีไซน์เป็นสิ่งสำคัญแม้กระทั้งร้านอาหาร เช่น ร้านเบียร์สิงห์ค่าออกแบบและตกแต่ง 50-60 ล้านบาท
นายกวีพันธ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทเหลือที่ดินรอพัฒนาประมาณ 4-5 แปลงรวมกว่า 300 ไร่ ซึ่งปัจจุบันราคาที่ดินสูงถึง 1.5 แสนบาท/ตร.ม.หรือประมาณไร่ละ 60 ล้านบาท จึงไม่เหมาะที่จะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย แต่เหมาะที่จะพัฒนาในเชิงพาณิชย์มากกว่า แต่ต้องรอให้มีการเปลี่ยนสีผังเมืองใหม่จากปัจจุบันเป็นพื้นที่ ย 4 หรือพื้นที่สีเหลืองจึงไม่สามารถพัฒนาอาคารสูง รวมไปถึงโรงมหรสพได้ ซึ่งหากผังเมืองเปลี่ยนเป็นพื้นที่ ย 5 บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาในส่วนของโรงแรมเพิ่มอีก 1 แห่ง ในโครงการคลิสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ขนาด 50-60 ห้องในรูปแบบบูทิค โฮเทล และโรงหนัง รวมไปถึงอาคารสำนักงาน สำหรับรายได้ค่าเช่าของคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ คาดว่า จะสร้างรายได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท และจะคืนทุนได้ภายในเวลา 7-10 ปี
|