ตลาดอนุพันธ์ เผยตลาดหุ้นสิงคโปร์ เดินสายดึงนักลงทุนไฮด์เน็ตเวิร์คไทยเทรดโกลด์ฟิวเจอร์ส-ทองคำแท่ง ชู ระยะเวลาเทรดมากกว่า เกณฑ์เอื้อนักลงทุนต่างชาติเข้าไปซื้อขาย ด้าน “เกศรา” เร่งเพิ่มสินค้า สร้างสภาพคล่อง แก้กฎเกณฑ์ป้องนักลงทุนเทรดภายในประเทศ เตรียมลดค่าธรรมเนียมซื้อขายฟิวเจอร์-ออฟชั่น แก่พอร์ตโบรกเกอร์ 1 ก.พ. นี้ หนุนวอลุ่มซื้อขายโต-หวังผลได้สินค้าโอทีซีเข้าเทรดในตลาดเพิ่ม

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ได้เดินทางมาทำตลาดเพื่อชวนให้นักลงทุนไทยที่มีวงเงินการลงทุนสูง (ไฮด์เน็ตเวิร์ค) ไปซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สและทองคำแท่งในตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่เปิดทำการซื้อขายในปีนี้ ซึ่งมีนักลงทุนไทยสนใจไปซื้อขายทองคำในตลาดหุ้นสิงคโปร์แล้ว จากระยะเวลาในการซื้อขายที่มากกว่าการซื้อขายในเมืองไทย ค่าธรรมเนียมการซื้อขายถูกกว่า และการเอื้อในด้านกฎเกณฑ์ให้นักลงทุนต่างประเทศเข้าไปซื้อขายในตลาดสิงคโปร์สะดวกมากขึ้น รวมทั้งมีการซื้อขายเป็นเงินสกุลดอลลาร์ทำให้สามารถป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนได้

ทั้งนี้ เชื่อว่าในปีนี้ปีหน้านักลงทุนรายย่อยที่มีฐานะการเงินปานกลางจะยังไม่ไปลงทุนซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สในตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพราะ ยังไม่มีความชำนาญในการไปซื้อขาย แต่นักลงทุนที่มีเงินลงทุนสูงนั้นมีการไปลงทุนก่อน ส่วนจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สในตลาดอนุพันธ์หรือไม่นั้นต้องมีการประเมินอีกครั้ง โดยตลาดอนุพันธ์จะต้องมีการเพิ่มสินค้าโกลด์ฟิวเจอร์สมากขึ้น และทำให้มีสภาพคล่องการซื้อขายที่ดี และต้องมีการออกเกณฑ์ให้เป็นมาตรฐานสากล

“ขณะที่เรากำลังทะเลาะกัน ตลาดหุ้นสิงคโปร์ได้เข้ามาทำการตลาดในปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะดึงนักลงทุนไฮด์เน็ตเวิร์คไทยเข้าไปเทรดทองคำ และโกลด์ฟิวเจอร์ส จากที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์มีการเปิดซื้อขายในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติจากที่จะมีการเปิดเสรีฯ ที่จะมีการเดินสายไปดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศของตน” นางเกศรา กล่าว

สำหรับการเปิดซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 10 บาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการร้านทองแม้ปัจจุบันยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ แต่จากการที่ตลาดอนุพันธ์ ได้ประกาศให้มีการเปิดซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 10 บาท และได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เองได้ลงทุนในเรื่องระบบไปแล้ว ดังนั้นจะต้องมีการเปิดซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 10 บาทต่อไป

นางเกศรา กล่าวว่า ตลาดอนุพันธ์ได้ทำโครงการส่งเสริมการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อกระตุ้นให้มีการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์มากขึ้น โดยการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการซื้อขาย (Exchange Fee ) ซึ่งรวมค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (Trading Fee) และค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการชำระหนี้ (Clearing Fee) แก่บัญชีการซื้อขายของโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกตลาดอนุพันธ์ที่ซื้อขาย SET50 Index Option, Single Stock Futures และSET50 Index Futures ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553-31 ธันวาคม2553

ทั้งนี้ ตลาดอนุพันธ์จะลดให้เฉพาะสมาชิกที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการต่อตลาดอนุพันธ์ โดยกำหนดอัตราส่วนลดค่าธรรมเนียม คือ 1.หากซื้อขาย SET50 Index Option และ Single Stock Futures รวมกันตั้งแต่ 2,000 สัญญาต่อเดือน โดยอย่างน้อยประเภทละ 500 สัญญาต่อเดือน จะได้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายอัตรา 100% 2.หากซื้อขาย SET50 Index Futures มูลค่าตั้งแต่ 5,000 สัญญาต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการซื้อขาย 5% ซึ่งหากมีการซื้อขายตั้งแต่ 10,000 สัญญาต่อเดือนและมีประมาณการซื้อขาย SET50 Index Option และ SET50 Index Futuresรวมกันตั้งแต่ 2,000 สัญญาต่อเดือน โดยอย่างน้อยประเภทละ 500 สัญญาต่อเดือน จะได้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายอัตรา10%

สำหรับซื้อขายSET50 Index Futures ตั้งแต่ 30,000สัญญาต่อเดือน และมีประมาณการซื้อขาย SET50 Index Option และ SET50 Index Futuresรวมกันตั้งแต่ 2,000 สัญญาต่อเดือน โดยอย่างน้อยประเภทละ 500 สัญญาต่อเดือน จะได้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายอัตรา20% ซึ่งหากมีการซื้อขายตั้งแต่ 50,000 สัญญาต่อเดือน และมีประมาณการซื้อขาย SET50 Index Option และ SET50 Index Futuresรวมกันตั้งแต่ 2,000 สัญญาต่อเดือน โดยอย่างน้อยประเภทละ 500 สัญญาต่อเดือน จะได้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายอัตรา40%

อย่างไรก็ตาม การลดค่าธรรมเนียมแก่พอร์ตโบรกเกอร์นั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนให้โบรกเกอร์เข้ามาเทรดในตลาดอนุพันธ์ ทำให้โบรกเกอร์มีการกระจายฐานรายได้มากขึ้น และยังส่งผลให้โบรกเกอร์ที่มีการเทรดอนุพันธ์นอกตลาด (โอทีซี) นำกลับมาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ ทำให้ตลาดอนุพันธ์มีสินเค้ามากขึ้นในอนาคต