|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“เกียรตินาคิน” โหมโปรโมทผู้ประกอบการอสังหาฯ SMEs ยันแบงก์ยังปล่อยกู้ เชื่อปี 53 อสังหาฯโตตามยอดขายรถยนต์ พร้อมระบุผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อบ้านก่อนสิ้นสุดอายุมาตรการ หากรัฐไม่ต่ออายุมาตรการตลาดอาจชะลอตัวช่วงสั้น
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KK เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารเตรียมประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ว่าธนาคารยังให้ความสำคัญในการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มดังกล่าว เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมากระแสะข่าวธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือบางรายไม่ปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มนี้เลย จนทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้
“ไม่ว่าจะปีไหนๆ ธนาคารก็ยังยืนยันว่าเน้นปล่อยกู้ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการ SME โดยในปี 52 ที่ผ่านมาธนาคารสามารถปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาฯ กลุ่มนี้ถึง 70 โครงการ วงเงินกู้ประมาณ 10,000 ล้านบาท และมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 15,176 ล้านบาท ขยายตัว 9.8% จากปี 51 ซึ่งในปีนี้ก็ยังให้ความสำคัญในการปล่อยกู้กลุ่ม SMEs เช่นเดิม อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและแก้ปัญหาของลูกค้าสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้” นายธวัชไชยกล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่าในปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาและในไตรมาส 1 แนวโน้มตลาดจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยพิจารณาได้จากยอดขายรถยนต์ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมามีจำนวนสูงมาก ซึ่งโดยทั่วไปยอดขายบ้านจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดขายบ้าน นอกจากนี้ผู้ประกอบการ SMEs ยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ด้วยการเปิดโครงการใหม่ๆ หลังจากที่ชะลอตัวไปในปี 52
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของธนาคารสามารถขายบ้านได้สูงขึ้น โดยในปีที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 3,000-4,000 ยูนิต อีกทั้งยอดหนี้เสีย หรือ NPL กลุ่มธุรกิจอสังหาฯยังปรับลดลงจาก 7.15% มาอยู่ที่ระดับ 5.64% เมื่อสิ้นปี 52 และยังสะท้อนมายังกำไรที่มีสูงถึง 2,200 ล้านบาท ซึ่งจำนวนนี้ไม่นับรวมกับวงเงินที่ธนาคารนำได้ตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มจำนวน 700 ล้านบาทอีกด้วย
ส่วนกรณีที่ผู้บริโภคไม่ให้ความไว้วางใจผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก แล้วหันไปซื้อบ้านจากผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น ถือว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด เนื่องจากผู้ประกอบการในกลุ่มนี้มีจำนวนมากที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน และยังได้รับสินเชื่อจากธนาคารอย่างต่อเนื่อง และยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคเช่นเดิม
สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 28 มีนาคมนี้ จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อบ้านเพิ่มมากขึ้น พิจารณาได้จากมาตรการลดหย่อนภาษี 3 แสนบาทที่หมดอายุลงเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาทำให้มียอดโอนบ้านเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นจึงเชื่อว่าสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จะทำให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจโอนบ้านเช่นเดียวกัน
“อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการ ก็เชื่อว่าจะทำให้ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เมื่อสินค้าที่เคยลดราคากลับมาขายราคาเดิมคนซื้อก็จะไม่ค่อยอยากซื้อ แต่เชื่อว่าจะเกิดในช่วงสั้น เนื่องจากโดยภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 1 ดีอยู่แล้วซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดฟื้นตัวจากภาวะชะงักงันเร็วขึ้น” นายธวัชไชยกล่าว
ล่าสุดธนาคารได้นำลูกค้าสินเชื่อโครงการ จำนวน 17 โครงการ โดยเป็นที่อยู่อาศัยทุกประเภทมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ Good Living Created By Kiatnakin เพื่อร่วมออกบูธภายในงาน Luxury property Showcase ระหว่างวันที่ 21-31 มกราคมนี้ ณ สยามพารากอน
ทั้งนี้โครงการที่นำมาร่วมภายในงานเป็นโครงการบ้านพร้อมอยู่ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ทั้งในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลและจังหวัดท่องเที่ยว มาลดราคาพิเศษ เช่น อรุณพัฒน์ พระราม 3 ลดสูงสุดกว่า 2 ล้านบาทพร้อมโปรโมชั่นต่างๆ ให้แก่ลูกค้าที่สนใจจองซื้อภายในงานภายใต้แคมเปญ “Good Prices Good Offers Good Bonus” เพื่อกระตุ้นยอดขายให้แก่ลูกค้าก่อนสิ้นมาตรการลดหย่อนภาษี นอกจากธนาคารยังเตรียมสินเชื่อเคหะให้แก่ผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการของลูกค้าธนาคารอีกด้วย
|
|
|
|
|