Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน19 มกราคม 2553
บล.โกลเบล็กเผยปี52ฟันกำไร90ล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก

   
search resources

โกลเบล็ก, บล.
Funds
ชนะชัย จุลจิราภรณ์




นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมบริษัทปีนี้อยู่ที่ 710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากปี 2552 คาดจะอยู่ที่ 497 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 90 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะเน้นรุกธุรกิจอนุพันธ์จากที่ปีนี้จะมีสินค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทเพิ่มเป็น 15-20% จากปีก่อนที่มี13% และรายได้จากการลงทุนพอร์ตของบริษัทจะเพิ่มเป็น 20% จากปีก่อนที่มี16% โดยรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์จะอยู่ที่ 50% จากปีก่อนที่มี 63% มีรายได้จากอัตราดอกเบี้ยการกู้ยืม 5% รายได้จากงานวาณิชธกิจ 5% และรายได้อื่นๆ5%

ทั้งนี้ จากการที่บล.มีการคิดค่าคอมมิชชั่นมูลค่าการซื้อขายต่อวันเกิน 20 ล้านบาทต่อวันที่อัตรา 0% นั้นจะทำให้นักลงทุนรายใหญ่มีการเทรดหุ้นมากขึ้นจากที่มีต้นทุนต่ำทำให้สามารถเล่นรอบได้มากขึ้น และเข้าไปเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก โดยเมื่อเข้าไปลงทุนใช้เงินทุนไม่มาก ราคาหุ้นก็สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ง่าย จะทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่้งเห็นได้จากที่ต้นปีนี้ราคาหุ้นขนาดเล็กได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ

สำหรับการที่นักลงทุนรายใหญ่มีต้นทุนต่ำนั้นในการลงทุนหุ้นและสามารถที่จะลงทุนหุ้นได้อย่างไม่มีข้อจำกัดนั้น ทำให้การลงทุน

พอร์ตของ บล.ลงทุนได้ลำบากมากขึ้น เพราะมีข้อจำกัดในการลงทุนว่าจะต้องลงทุนในหุ้นที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ส่วนนักลงทุนรายย่อยการลงทุนปีนี้จะเสียเปรียบนักลงทุนรายใหญ่จากที่มีเม็ดเงินลงทุนน้อยกว่าและอาจจะเล่นรอบไม่ทัน ทำให้นักลงทุนรายย่อยปีนี้จะต้องระมัดระวังในการลงทุน และควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐาน เพราะพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนรายย่อยนั้นจะไม่กล้าที่จะขายหุ้นออกมาเมื่อราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลง

" ช่วง2สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นของหุ้นขนาดเล็กมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ส่วนตัวมองว่าเกิดจากแรงซื้อของนักลงทุนรายใหญ่ เพราะ นักลงทุนรายใหญ่มีเม็ดเงินลงทุนที่สูงและมีต้นทุนในการซื้อขายที่ต่ำกว่า ทำให้สามารถเข้าไปลงทุนในหุ้นขนาดเล็กโดยใช้เงินไม่มากก็สามารถทำให้ราคาหุ้นได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงได้ ทำให้นักลงทุนรายย่อยต้องระวังในการลงทุนจากที่ลงทุนไม่ทันนักลงทุนรายใหญ่จึงควรหันลงทุนหุ้นพื้นฐานจะดีกว่า " นายชนะชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)มีการย้ายงานไม่มาก เพราะมาร์เกตติ้งรอโบนัสจากการทำงานในปีที่ผ่านมาที่จะออกในไตรมาส1/53 จึงเชื่อว่ามาร์เกตติ้งจะมีการย้ายงานหลังไตรมาส1/53มากขึ้น จากการแข่งขันธุรกิจที่เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าหลังจากในปี 2555 ที่มีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นนั้น จะทำให้มีมาร์เกตติ้งออกนอกระบบจำนวนมาก เพราะอนาคตนั้นนักลงทุนจะเทรดผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น และบล.จะมีการต่อรองราคากับลูกค้าได้เอง โดยที่ไม่ต้องผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us