คนที่รู้จักประกอบ วิสิษฐกิจการ ดีจะบอกได้ทันทีว่าเป็นคน PROFESSIONAL ในอาชีพของเขาอย่างมากทีเดียว
ประกอบเคยเป็นตัวแทน CONTINENTAL ILLINOIS BANK แล้วถูกดึงตัวมาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทสยามเครดิต
บริษัทเช่าซื้อรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในเครือพีเอสเอ
ประกอบออกจากพีเอสเอได้ไม่นานก่อนที่พรกับสุธีจะแยกกันไปเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ความจริงชีวิตของ BANKER อย่างประกอบก็ไม่มีอะไรโลดโผนนักหรอก เช้ามาทำงาน
เย็นกลับบ้าน เสาร์อาทิตย์พาลูกเมียไปเที่ยวพักผ่อน
แต่จู่ๆ วันหนึ่งประกอบก็ต้องไปประกันตัวที่กองปราบเป็นมูลค่า 500,000
บาท
ข้อหาเป็นกรรมการคนหนึ่งในบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์พัฒนาเงินทุน และมีส่วนผิดพระราชบัญญัติเงินทุนหลักทรัพย์ด้วย!
“คุณประกอบแกซวยเพราะแกไม่รู้เรื่องจริงๆ ชื่อแกติดไว้เป็นกรรมการนั้นมันมีมาตั้งแต่สมัยพัฒนาเงินทุนยังอยู่กับพีเอสเอแล้ว
แกก็ลืมสนิท เขาปู้ยี่ปู้ยำกันไม่กี่คน นี่แกไม่เคยรู้เรื่องเลย แต่จู่ๆ ก็ต้องมานั่งเป็นจำเลย”
พนักงานเก่าระดับสูงคนหนึ่งของพัฒนาเงินทุนเล่าให้ฟัง
“ความจริงถ้าจะนับกันจริงๆ แล้ว คนึง ฤาชัย เองก็ควรจะต้องโดนข้อหาผิดพระราชบัญญัติเงินทุนหลักทรัพย์ด้วย เพราะคนึงเองก็เคยเป็นกรรมการด้วย
แต่นี่คนึงกลับไม่โดนอะไรเลย” แหล่งข่าวคนเดิมเล่าเพิ่มเติม
เมื่อถูกถามถึงเรื่องต้องตกเป็นจำเลย ประกอบได้แต่ส่ายหัวแล้วพูดได้ประโยคเดียวว่า
“ผมมันซวย ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่น้อย”
มันต้องว่าไปตามตัวบทกฎหมายว่าใครเป็นกรรมการก็ต้องมีส่วน แต่ถ้าคุณประกอบเขาพิสูจน์ได้
เขาก็อาจถูกยกฟ้องในกรณีของเขา แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องว่ากันไป” เจ้าหน้าที่กองปราบให้เหตุผล
ถ้าเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่ถูกเชิญเข้าไปเป็นกรรมการต่างๆ ได้ว่าให้ดูตาม้าตาเรือกันดีๆ
หน่อยในอนาคต ไม่ใช่เห็นว่าบริษัทมีตึกเป็นของตัวเองเด่นเป็นสง่าแล้วจะไม่มีอะไร
พัฒนาเงินทุนเป็นตัวอย่างที่ดีซึ่งน่าจะจำกันเอาไว้