Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์18 มกราคม 2553
เปิดศักชิงดีลเลอร์ มิตซูบิชิ-มาสด้าส่งสัญญาณบุก             
 


   
search resources

มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย
Auto Dealers




มาสด้า-มิตซูบิชิ ควงแขนสยายปีกเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ มิตซูบิชิเห็นแววเติบโตด้านยอดขาย และตัวผลิตภัณฑ์เล็งเพื่อโชว์รูมเป็น 160 แห่ง ด้านมาสด้า 2 ยอดขายถพุ่งลิ่ว ทำให้มียอดมาสด้าทั้งปีโต 18.5% ด้วยอด13,243 คัน สวนกระแสตลาด จึงเตรียมขยายเครือข่ายรองรับเป็น 130 แห่งจากที่มีอยู่ 106 แห่ง แม้จะยังห่างไกลเครือข่ายโชว์รูมของรายใหญ่ ทั้งโตโยต้า อีซูซุ และฮอนด้า แต่นับเป็นสัญญาณบอกของตลาดรถยนต์ปี 2553 ที่น่าจะกลั บมาเติบโต และแข่งขันกันรุนแรง

หลังจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแลนเซอร์ใหม่ ในเซ็กเมนท์รถยนต์นั่งขนาดเล็ก และทำยอดขายได้เกินกว่าเป้าที่วางไว้ ด้วยการวัดตัวเลขจากยอดขายช่วง 1 เดือนหลังเปิดตัวที่ทำได้ถึง 1,200 คัน ทำให้มิตซูบิชิ มองเห็นโอกาสการเติบโตของรถยนต์มิตซูบิชิในประเทศไทย ขณะเดียวกันยังมีรถยนต์รุ่นใหม่อีก 1 รุ่นคือ ปิกอัพไทรทัน เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร แต่ติดตั้งระบบก๊าซ CNG ออกมาจำหน่ายหน่าย ยิ่งส่งผลให้มิตซูบิชิ หวังเพิ่มเป้ายอดขายในปีนี้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้เป็นแผนงานระยะกลางของมิตซูลิชิ โดยปีนี้มีการตั้งเป้าจะเพิ่มโชว์รูม และศูนย์บริการจาก 132แ ห่ง เป็น 160 แห่ง เป็นโชว์รูมในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นเป็น 55 แห่งจากเดิมที่มีอยู่ 41 แห่ง ในขณะที่ต่างจังหวัด จะเพิ่มจำนวนโชว์รูมมาตรฐานจาก 91 เป็น 105 โชว์รูม ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

“ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เพิ่มศักยภาพการให้การบริการด้วยการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย ซึ่งเดิมมิตซูบิชิกำหนดให้ในแต่ละจังหวัดมีผู้จำหน่ายเพียง 1 ราย แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแล้วกลับพบว่าแนวทางดังกล่าวไม่สามารถรองรับความต้องการของตลาดทั้งหมดได้ เราต้องการผู้จำหน่ายมากกว่า 1 แห่ง เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการดังกล่าว รวมทั้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการขยายจำนวนโชว์รูมโดยเฉพาะในระดับอำเภอ”โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) กล่าว

ก่อนหน้านี้มิตซูบิชิเองก็พึ่งปรับแผนพัฒนาเครือข่าย โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับทั้งงานขาย (Sales) เสริมความแข็งแกร่งให้กับงานบริการหลังการขาย (Service) รวมไปถึงงานด้านอะไหล่ (Spare Parts) ให้มีคุณภาพสูงสุดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้าไปพร้อมๆ กัน โนบุยูกิ บอกว่า แม้การบริการหลังการขายจะไม่มีผลโดยตรงต่อการรับรู้เรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังผลักดันให้สินค้ามีความโดดเด่นและนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้า ส่งผลต่อการรักษาลูกค้าเอาไว้ รวมทั้งทำให้เกิดการซื้อซ้ำในครั้งต่อไป

ขณะที่มาสด้า เซลส์ เริ่มเดินหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการด้วยเช่นกัน จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ระบุว่า จะมีการเพิ่มเครือกข่ายการจำหน่ายจาก 106 แห่งเป็น 130 แห่งในปีนี้ เพื่อรองรับการบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ และครอบคลุมทั่วประเทศ และเป็นโชว์รูมภายใต้แนวคิดใหม่ MCI

การสยายปีกเครือข่ายศูนย์บริการของมาสด้าในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากยอดขายรถยนต์มาสด้าในปี 2552 ที่ผ่านมา โดยสามารถทำยอดได้ สูงถึง 13,243 คัน มีอัตราการเติบโตสูงสุด 18.5% โดยเฉพาะยอดขายในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาพุ่งทะลุเกือบ 3,000 คัน ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงสุดในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่ปี 2538 เป็นครั้งแรกของรถของมาสด้าในเมืองไทย เพราะฉะนั้นเครือข่ายที่จะเพื่มขึ้นใหม่ พร้อมกับแนวคิดใหม่ MCI จะเน้นรองรับยกิจกรรมการตลาดที่เข้มข้นตลอดทั้งปีของมาสด้าอีกด้วย

สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เสริมว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาเกิดจากการโหมจัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องและฉีกแนวตลอดทั้งปี ทำให้มาสด้าประสบความสำเร็จ ทั้งด้านยอดขายและการสร้างการรับรู้ในคุณภาพและสมรรถนะของรถยนต์มาสด้า

“ลูกค้าให้ความสนใจแบรนด์รถยนต์มาสด้าเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยนำเสนอกลยุทธ์การตลาดผ่านสื่อสมัยใหม่ การจัดกิจกรรมการตลาดแบบเจาะถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน การเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ในโลกดิจิตอล และร่วมกับผู้จำหน่ายทำการการตลาดแบบบีโลว์ เดอะ ไลน์ ในแต่ละจังหวัด การสร้างแบรนด์อิมเมจด้วยการดึงเอาเซเลบคนดังที่มีบุคลิกตรงกับผลิตภัณฑ์มาเป็นตัวแทน การจับมือกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล รวมทั้งศูนย์กลางการบันเทิงอย่างเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัดทุกจังหวัด รวมทั้งการจัดกิจกรรมตอบแทนลูกค้าอันสนุกสนานในรูปแบบ ซูม-ซูม”

สำหรับปี 2553 นี้มาสด้ายังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ ไว้มากมายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับปีนี้ มาสด้าเตรียมเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ตซีดาน New Mazda2 พร้อมด้วยรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 รุ่นพิเศษ และรถยนต์รุ่นอื่นๆ รวมทั้งรุ่นพิเศษอีกหลายรุ่น

การขยายเครือข่ายของทั้ง มิตซูบิชิ และมาสด้านั้น เป็นค่ายรถยนต์ระดับกลางรายแรกๆ ที่เริ่มแผนดังกล่าว หลังไม่มีการขยายเครือข่ายเพิ่มมาเป็นเวลานานพอสมควร ซึ่งก่อนหน้านี้ราว1-2 ปีที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์รายใหญ่ทั้งโตโยต้า อีซูซุ และฮอนด้า ต่างเพิ่มเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ เป็นรายละกว่า 300 แห่ง เพื่อรองรับทั้งปริมาณการขายแ ละในแต่ละเดือน และการรองรับลูกค้าผู้ใช้บริการที่ต้องเข้ามาใช้บริการซ่อมบำรุงอีกจำนวนมาก

แต่ในเวลาเดียวกันการเพิ่มเครือข่ายศูนย์บริการ ก็ต้องมีการแข่งขันด้วยเช่นกัน โดยเพาะการขยายโชว์รูมในต่างจังหวัด บางแห่งอาจมีนักลงทุนจำนวนไม่มาก และปัจจุบันยังมีบริษัทรถยนต์ขนาดกลาง และเล็กอีกหลายแบรนด์ที่เริ่มแผนขยายเครือข่ายด้วยกันเช่นกัน อย่างไรก็ตามทั้งมิตซูบิชิ และมาสด้า เป็นแบรนด์รถยนต์ขนาดกลาง และมีความเคลื่อนไหวด้านผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แบรนด์ทั้ง 2 มีความเชื่อมั่นที่สูงกว่าค่ายรถยนต์ใหม่ๆ

ทั้งนี้เครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ เป็นปัจจัย และแรงกระตุ้นสำคัญต่อ การสร้างยอดขาย โดยเฉพาะเป็นตัวเชื่อมโยงแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ ไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง ซึ่งค่ายใหญ่ทั้งโตโยต้า อีซูซู และฮอนด้า ก็อาศัยความแข็งแกร่งของเครือข่ายโชว์รูม ศูนย์บริการ จนสามารถก้าวขึ้นสู่ค่ายรถยนต์อันดับต้นๆ ของเมืองไทยได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us