|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เซเรบอส ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำที่เป็นผู้บุกเบิกจัดกิจกรรมโครงการกวดวิชาเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยรายแรก ชูจุดแข็งที่แตกต่างจากคอร์สกวดวิชาที่ค่ายสินค้าเริ่มให้ความสำคัญนำมาเป็นเครื่องมือการตลาดในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยเรียน ด้วยวิชาสอน และรวมสุดยอดทีมอาจารย์ชื่อดัง
ในช่วงที่ผ่านมาการตลาดกวดวิชาแบรนดิ้งที่มีแบรนด์ซุปไก่ เป็นเจ้าแรกๆ ที่เป็นผู้ริเริ่มจนเข้าสู่การครบรอบปีที่ 21 ในปีนี้นั้น นับว่าได้รับความนิยมจากหลายๆ ค่ายสินค้าที่นำมาเป็นกิจกรรมการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวัยเรียน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นโอกาสตลาดในวันข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมานอกจากการตลาดในรูปแบบโฆษณาผ่านสื่อ และกิจกรรมบันเทิงจะเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มวัยเรียนแล้ว สินค้าหลายค่ายที่เห็นความสำคัญของลูกค้ากลุ่มนี้ เริ่มหันมาใช้กลยุทธ์การตลาดกวดวิชาแบรนดิ้งซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดที่สุดก็ว่าได้
ถึงวันนี้การตลาดที่สินค้านำกลยุทธ์การตลาดกวดวิชาแบรนดิ้งมาใช้ นอกจากจะมีผู้ริเริ่มแคมเปญคือ 'แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์' ที่ 'บริษัทเซเรบอสฯ' จัดร่วมกับ 'มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์' เป็นขาประจำแล้ว ยังมีอีกหลายค่ายที่จัดโครงการกวดวิชาขึ้นมาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นั่นเพราะกลยุทธ์กวดวิชาแบรนดิ้งเป็นอีกเครื่องมือในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยเรียน ที่ช่วยในการปรับภาพลักษณ์องค์กร สินค้าและแบรนด์ให้ดูทันสมัย
สำหรับ 2-3โครงการกวดวิชาที่จัดขึ้นมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน เมื่อปีที่ผ่านมา มีตั้งแต่โครงการ 'ทบทวนความรู้ สู่มหาวิทยาลัยกับมาม่า' ซึ่งจัดโดย บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) โดยจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 12 จัดขึ้นประมาณเดือนตุลาคมในทุกๆ ปี และรายล่าสุดที่เข้ามาใช้กลยุทธ์การตลาดกวดวิชาแบรนดิ้ง คือค่ายโอสถสภา ซึ่งจัดขึ้นมาถึง 2 โครงการ คือแคมเปญระดับคอร์ปอเรต 'โครงการ โอสถสภา Camp to University 4 ภาค' จัดให้มีการติววิชาทั่วทั้งประเทศ 4 ภาค เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม และโครงการ 'เตรียมสมองติวเข้ม SMARTEN BY PEPTEiN Genius Generation สู่คณะที่ใช่สาขาที่ชอบ' สู่นักเรียนทั่วประเทศทั้ง 4 ภาค ของเครื่องดื่มเปปทีนที่เริ่มจัดขึ้นเป็นปีแรก ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน
กลยุทธ์การตลาดกวดวิชาแบรนดิ้งที่แบรนด์ซุปไก่ และเปปทีน นำมาใช้ ดูแล้วจะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งสินค้าและคุณสมบัติที่เป็นเครื่องดื่มบำรุงสมองโดยตรง ขณะที่ผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 'มาม่า' และโครงการกวดวิชาของโอสถสภา ถือว่าไม่เกี่ยวข้องโดยตรง ทว่าด้วยอายุอานามของ มาม่า ที่อยู่กับคนไทยมานานกว่า 35 ปี อีกทั้งบริษัทโอสถสภาเองเป็นองค์กรที่ตั้งมานานกว่า 117 ปี ดังนั้น โครงการกวดวิชาเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยจึงเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทำให้ภาพลักษณ์ดูทันสมัยเข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยเรียนได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์การตลาดที่เจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยจำนวนการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจากการจัดกิจกรรมโครงการกวดวิชาของแต่ละโครงการเรียกว่าสามารถเข้าถึงคนได้จำนวนมากในตัวเลขระดับหลัก 3-4 หมื่นคน และในขณะที่แบรนด์ครองความเป็นผู้นำจัดคอร์สกวดวิชาขนาดใหญ่โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดกิจกรรมกวดวิชาในภาคกลางนั้น ส่วนมาม่า เปปทีน และโอสถสภา จะเน้นการจัดคอร์สกวดวิชาที่เจาะลงในพื้นที่ 4 ภาคทั่วประเทศ
ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2010 ที่จะจัดขึ้นปีนี้ มีกำหนดการเริ่มติววันที่ 11-18 กุมภาพันธ์ ที่อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มก.วิทยาเขตบางเขน อีกทั้งสามารถรองรับนักเรียนได้ไม่จำกัด โดยโครงการนี้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 21 และตลอด 20 ปีที่ผ่านมามีนักเรียนสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 4.5 แสนคน ขณะเดียวกันหากดูความสำเร็จในแง่ของการวัดผลเฉพาะปีที่แล้ว มีนักเรียนที่ผ่านโครงการนี้สอบเข้า มก.ได้จำนวน 3.5 พันคน
ไม่เพียงเท่านั้น การเพิ่มศักยภาพด้วยการเพิ่มสื่อในการเผยแพร่ให้เพิ่มขึ้นในอีกหลากหลายช่องทาง ยังเป็นสิ่งที่ทุกค่ายจัดคอร์สกวดวิชาพยายามนำมาใช้ ทั้งการแพร่ภาพการเรียนการสอนผ่านช่องทางดาวเทียม สื่ออินเทอร์เน็ต เช่น มาม่า ที่ระยะหลังพยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ด้วยกิจกรรมการตลาดผ่านกลยุทธ์กวดวิชา โดยเปิดเว็บไซต์ http://www.mamalover.com เพื่อเป็นช่องทางในการถ่ายทอดการเรียนการสอนให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ที่สนใจนอกห้องเรียน
ส่วนโครงการ 'OSOTAPA Camp to University 4 ภาค' ทั่วประเทศ สานฝันเยาวชนไทยสู่รั้วมหาวิทยาลัยคอร์ปอเรตแคมเปญของโอสถสภานั้นมีการนำสื่ออินทอร์เน็ตมาใช้เป็นช่องทางเพื่อดาวน์โหลดตารางการเรียน และเอกสารตำราการเรียน ผ่านเว็บไซต์ http://camp.osotspa.co.th/index.html ซึ่งทางผู้ริเริ่มกลยุทธ์กวดวิชาอย่างแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์เองก็มีการขยายสื่อในการเผยแพร่การเรียนการสอนเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปีด้วย
เช่นเดียวกับแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ปีนี้ มีการเผยแพร่ภาพทั่วประเทศผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม สศทท.วังไกลกังวล ช่อง DLTV 94 หรือรับชมการถ่ายทอดสดทาง www.ku.ac.th ที่สำคัญได้จัดกิจกรรมพิเศษเพิ่มพลังสมอง ฝึกทักษะเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสอบพร้อมกันทั่วประเทศ โดยจัดให้มีการติวกับอาจารย์ติวชื่อดัง ซึ่งจะเป็นการบันทึกเทปติวใหม่ รวมถึงยังสามารถดูย้อนหลังผ่านอินเทอร์เน็ตได้ที่ www.brandsworld.co.th ซึ่งจะมีการเปิดหน้า BRAND'S City ซึ่งเป็นโปรแกรมวัดความสามารถของสมอง ทักษะ ไอคิว เพื่อจะได้ทราบว่ามีความพร้อมและความสามารถ
โดยสามารถสมัครผ่านอินเทอร์เน็ตระหว่างวันที่ 11-31 มกราคม และผู้สมัคร 2.5 หมื่นคนแรกที่สมัครเข้าร่วมโครงการ รับเอกสารประกอบการเรียนฟรี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปีที่ผ่านๆ มา มีนักเรียนสมัครจำนวนนับแสนคน ดังนั้น ปีนี้ผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการทุกท่านจะได้รับรหัสเพื่อดาวน์โหลดหนังสือเรียนพร้อม ติวออนไลน์ได้ที่ www.brandsworld.co.th
การตลาดผ่านกลยุทธ์กวดวิชา นับว่าเป็นการตลาดแบบ 360 องศาที่ผสมผสานกับสื่ออินเmอร์เน็ต และกลายเป็นเครื่องมือในการแบรนดิ้งภาพลักษณ์ให้ดูเป็นเด็กทันสมัย อีกทั้งยังเป็นการทำซีอาร์เอ็มหรือการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (customer relationship management-CRM) และปัจจัยนี้เองทำให้ค่ายสินค้าที่หันมาให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมเปิดคอร์สกวดวิชาเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย และการที่มีคอร์สกวดวิชาโครงการใหม่ๆ เข้ามานี่เองทำให้การจัดกิจกรรมแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ในแต่ละปีนั้น พยายามสร้างความแตกต่างโดยเฉพาะทีมอาจารย์กวดวิชาชื่อดัง และสื่อการเรียนการสอน ให้โดดเด่นจากกิจกรรมคอร์สกวดวิชาทั่วไป
ซีอีโอของเซเรบอส กล่าวว่า 'โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2010 เพิ่มพลังสมอง พิชิต Admissions ครั้งที่ 21 ถือว่าเป็นโครงการเดียวที่รวมตัวอาจารย์ติวชื่อดังมาร่วมติวมากที่สุดในประเทศไทย อาทิ อาจารย์สาธร อุพันวัน ที่ติวแบบทดสอบวัดความถนัดทั่วไป (GAT) ให้เด็กได้คะแนนเต็ม อาจารย์ลิลลี่-กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ อาจารย์สมศรี ธรรมสารโสภณ ครูพี่แนน-อริสา ธนาปกิจ อาจารย์ชัย ลาภเพิ่มทวี ฯลฯ
ขณะเดียวกัน รูปแบบการสอนในปีนี้ยังจัดให้มีการติวข้อสอบ GAT และข้อสอบวัดความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ (PAT) เป็นครั้งแรกและขยายเวลาการเรียนการสอนเป็น 8 วัน 8 วิชา โดยเพิ่มการสัมมนาพิเศษในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสอบในหัวข้อ 'เคล็ดลับการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย' และ 'อาชีพเด่นในทศวรรษหน้า' โดยวิทยากรที่ประสบความสำเร็จทั้งเรื่องเรียน และอาชีพ อาทิ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร นักร้องนักดนตรีชื่อดัง หนูดี-วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการทางสมองคนแรกของไทย นพ.สุรเดช หงส์อิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งในเด็กชื่อดังของเมืองไทย'
แม้ว่าจะมีหลายคอร์สกวดวิชาของหลายๆ ค่ายที่เข้ามาจัดกิจกรรมกับกลุ่มนักเรียน แต่ดูเหมือนว่า ทุกโครงการพยายามจัดตารางการสอนไม่ให้เวลาตรงกัน รวมทั้งพยายามจะหลีกเลี่ยงระยะเวลาโครงการไม่ให้ชนกับโครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำในกลยุทธ์นี้ และลงหลักปักฐานสร้างชื่อในการจัดกิจกรรมกวดวิชามานานจนเป็นที่รู้จักกันดี
|
|
|
|
|