Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน18 มกราคม 2553
พาณิชย์ฟัน ฟิลลิปมอร์ริส 2 คดีซ้อน             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงพาณิชย์

   
search resources

กระทรวงพาณิชย์
Commercial and business




ฟิลลิป มอร์ริส ซวยซ้ำ! “พาณิชย์”ฟันธงทำผิดกฎหมายต่างด้าว เหตุประกอบธุรกิจต่างจากที่แจ้งไว้ ตามที่ดีเอสไอร้องขอให้ตรวจสอบ หลังฟ้องดำเนินคดีเลี่ยงภาษีบุหรี่ 6.8 หมื่นล้าน ที่อัยการนัดฟังคำสั่ง 19 ม.ค.นี้ ส่วนจะถูกยกเลิกสิทธิตามสนธิสัญญาไมตรีหรือไม่ หลักฐานยังไม่ชัด ต้องสอบสวนต่อ

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งผลการตรวจสอบฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วว่าจะไม่ได้รับการคุ้มครองตามสนธิสัญญาทางไมตรีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ พ.ศ.2511 หากปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ามีการดำเนินการใดๆ ที่ผิดไปจากเงื่อนไขที่ได้แจ้งไว้ในการเข้ามาทำธุรกิจในไทยหรือมีรายได้อื่นนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ภายใต้สนธิสัญญาฯ โดยจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 37 แห่งพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542

“จากการตรวจสอบมีการดำเนินธุรกิจต่างจากที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาฯ จริง โดยฟิลลิปฯ แจ้งไว้ในการประกอบธุรกิจว่า ประกอบธุรกิจสำรวจภาวะตลาดในประเทศไทย เพื่อนำสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ เข้ามาจำหน่าย รวมทั้งสำรวจสินค้าที่ผลิตในไทย เพื่อนำไปจำหน่ายในสหรัฐฯ แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ประกอบธุรกิจนำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศและจัดจำหน่ายบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร และแอลแอนด์เอ็มในไทยตั้งแต่ปี 2541 ถึงปัจจุบัน ตามที่ดีเอสไอได้แจ้งมา”

ส่วนการพิจารณาว่ากระทำผิดเงื่อนไขในสนธิสัญญาฯ หรือไม่ กรณีฟิลลิปฯ มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นหรือผู้ควบคุม พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงจริงในช่วงปี 2548 กรรมการ คือ Mr.Paul Dean Riley สัญชาติออสเตรเลีย และปี 2549 กรรมการ คือ Mr.Ashok Rammohan สัญชาติอินเดีย แต่ก็ไม่มีหลักฐานระบุชัดว่ากรรมการเป็นคนชาติที่ 3 ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ขอหลักฐานเพิ่มเติมไปยังดีเอสไอเพื่อดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ต่อไปแล้ว

สำหรับการตรวจสอบบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของฟิลลิปฯ นั้น ถือว่าเป็นนิติบุคคลไทย ไม่ได้อยู่ภายใต้บังคับของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และยังไม่ได้เริ่มดำเนินธุรกิจ

กรณีฟิลลิปฯ ถูกดีเอสไอฟ้องดำเนินคดีรวมกับผู้บริหารซึ่งเป็นชาวไทยและต่างชาติจำนวนรวม 14 ราย ว่ากระทำผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 กรณีร่วมกันแสดงราคานำเข้าบุหรี่ราคาต่ำกว่าปกติ เพื่อชำระภาษีบุหรี่ต่อกรมสรรพสามิตที่น้อยกว่าความเป็นจริง ทำให้รัฐเสียหายกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท และได้ขอให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบว่ากระทำผิดสนธิสัญญาฯ หรือไม่ และกระทำผิดพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหรือไม่ ทั้งนี้ อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้นัดฟังคำสั่งคดีดังกล่าวในวันที่ 19 ม.ค.2553 เวลา 10.00 น. หลังจากที่ได้เลื่อนสั่งคดีมาแล้ว 3 ครั้ง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us