Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน15 มกราคม 2553
'บิ๊กโคล่า'ลุยเครื่องดื่มเกลือแร่-ชาดำเท500ล.ปั้นแบรนด์รับศึกน้ำดำระอุ             
 


   
search resources

Soft Drink
โคล่า เรอัล เทรดดิ้ง, บจก. (ผู้ผลิตอาเจ บิ๊กโคล่า)




บิ๊ก โคล่า ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มเปรู จ่อปั้นเครื่องดื่มเกลือแร่-ชาดำพร้อมดื่มเสริมทัพ ลุยเปิดตัวรับลมร้อน ชูกลยุทธ์ราคาถูก-เพิ่มปริมาณ ชิงชิ้นเค้กสปอนเซอร์-ลิปตัน หลังบริษัทแม่ซุ่มศึกษาสองตลาดมีศักยภาพ อัดฉีด 500 ล้านบาท สู้ศึกน้ำอัดลมแข่งเดือดทุกช่องทาง เร่งสร้างแบรนด์เปิดตัวโฆษณาน้ำดำครั้งแรก พร้อมปรับแบรนด์น้ำผลไม้ โละบิ๊กอาเจ ออเร้นจ์ ทิ้ง หวั่นผู้บริโภคสับสนมองเป็นน้ำอัดลม

นายสิทธิศักดิ์ จินดารักษ์ ผู้จัดการด้านตลาดและโฆษณา บริษัท อาเจ ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมอาเจ บิ๊กโคล่า จากประเทศเปรู เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทแตกโปรดักส์ไลน์เครื่องดื่มใหม่ๆ นอกเหนือจากน้ำอัดลมอาเจ บิ๊กโคล่า และน้ำผลไม้อาเจ บิ๊ก ออเร้นจ์ ซึ่งขณะนี้วางแผนเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ และชาดำพร้อมดื่ม ลงตลาดในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมหรือเมษายน หรือในฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันสำหรับการจำหน่ายเครื่องดื่มทุกประเภท ทั้งนี้ปัจจัยที่บริษัทดำเนินการตลาดเชิงรุกเครื่องดื่มเกลือแร่และชาดำพร้อมดื่ม เนื่องจากบริษัทแม่ได้มีการทำวิจัยและพบว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ

โดยจากสภาพตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่มูลค่า 3,000ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10-15% ต่อปี และมีผู้ประกอบการในตลาดเพียง 3 แบรนด์หลัก คือ สปอนเซอร์ ครองส่วนแบ่ง 60% เอ็มสปอต 25-30% และเกเตอเรด 5-10% และปลายปีที่ผ่านมาไทยเบฟฯ เปิดตัวเพาเวอร์พลัสลงตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ ส่วนตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็น เซกเมนต์ชาดำมูลค่า 1200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25% ของตลาดรวม โดยมีผู้ประกอบการรายหลัก คือ ลิปตัน ครองส่วนแบ่ง 70% ที่เหลืออีก 30% เป็นค่ายชาเขียวพร้อมดื่มที่เปิดตัวชาดำ เพื่อทำให้สินค้ามีครบไลน์ยิ่งขึ้น ส่วนชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 2,700ล้านบาท ราว 60% ของตลาด ที่เหลืออีก 15% เป็นชาขาวและแดง

สำหรับกลยุทธ์การตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่และชาดำพร้อมดื่ม มุ่งเน้นการวางราคาสินค้าต่ำกว่าคู่แข่ง และให้ปริมาณมากกว่า ควบคู่กับคุณภาพ เช่นเดียวกับการดำเนินการตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมอาเจ บิ๊ก โคล่า เช่น น้ำดำ ขนาด 535 มล.ราคา 10 บาท เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ราคา 15-16 บาท ซึ่งปัจจุบันตลาดชาดำพร้อมดื่ม ลิปตัน ขนาด 350 มล. ราคา 12 บาท และมีขวดเพ็ต 450 มล.ราคา 18 บาท กระป๋อง 14 บาท ส่วนเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วขนาด 250 มล. ราคา 10 บาท เป็นต้น ส่วนด้านการใช้แบรนด์ทั้งเครื่องดื่มเกลือแร่และชาดำพร้อมดื่มกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา

“ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อแตกไลน์เครื่องดื่มอีกหลากหลายตัว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลงทุนร่วม 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทกำลังปรับชื่อแบรนด์กลุ่มน้ำผลไม้10% ภายใต้อาเจ บิ๊ก ออเร้นจ์ใหม่ เนื่องจากทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนและเข้าใจว่าเป็นเครื่องดื่มอัดลม”

ปีนี้บริษัทได้วางงบการตลาด 500 ล้านบาท เพื่อรองรับกับการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีความรุนแรงทั้งด้านการโฆษณาและกิจกรรมการตลาด รวมทั้งการขยายช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ อาทิ โค้ก เปิดตัวซุปเปอร์ชิลล์’ ตู้แช่อัตโนมัติของโค้ก ที่มาพร้อมเทคโนโลยีก้าวล้ำทำเครื่องดื่มโค้กแบบเป็นเกล็ดน้ำแข็งที่อุณหภูมิติดลบ 6 องศาเซลเซียส เป็นต้นโดยปีนี้บริษัทเตรียมดำเนินการเชิงรุกการใช้อะโบฟเดอะไลน์ หรือการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มน้ำอัดลมอาเจ บิ๊กโคล่า ครั้งแรก เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง หลังจากที่ทำตลาดมานาน กระทั่งมีส่วนแบ่งปัจจุบันมากกว่า 10% จากตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท

พร้อมกันนี้บริษัทวางแผนเพิ่มศูนย์กระจายสินค้ามากขึ้น จากปัจจุบันมี 9 แห่ง คือ กรุงเทพฯ 4 แห่ง จ.ระยอง จ.ชลบุรี จ.อ่างทอง และล่าสุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้เปิดศูนย์ฯ อีก 2 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา และนครสวรรค์ และได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น เริ่มกลางเดือนมกราคม นี้ เพื่อขยายตลาดจากต่างจังหวัดและสู่กลุ่มเป้าหมายคนเมืองมากขึ้น สำหรับผลประกอบการ2552 บริษัทเติบโต 10% หรือ 2,200 ล้านบาท จากเมื่อปี 2551 มีรายได้ 2,000 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us