Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน15 มกราคม 2553
ซัมซุงคว่ำโนเกียยึดแชมป์มือถือ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด

   
search resources

ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์, บจก.
Mobile Phone
มนาเทศ อันนวัฒน์




ซัมซุงคาดปี 2553 ขายมือถือได้ 1 หมื่นล้านบาทแซงหน้าโนเกียขึ้นเป็นที่ 1 ‘มนาเทศ’ ชี้ปัจจัยความสำเร็จอยู่ที่การปรับระบบจัดจำหน่ายและโทรศัพท์มือถือซัมซุงตอบสนองได้ทุกกลุ่ม ทุกราคา ทุกความต้องการ เปิด 4 กลยุทธ์หลักรักษาเก้าอี้แชมป์พร้อมเปิดตัวซัมซุงวันมือถือรุ่นใหม่ฉลองอันดับหนึ่งตลาดมือถือไทย

นายมนาเทศ อันนวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ปี 2553 คาดว่าซัมซุงจะมียอดขายโทรศัพท์มือถือทั้งสิ้นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ถือว่ามีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ทั้งมูลค่าและจำนวนเครื่อง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดด้านมูลค่า (Value) สูงถึง 40% ในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดด้านจำนวนเครื่อง (Volume) อยู่ที่ประมาณ 35% และคาดว่าตลาดรวมมือถือจะอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านเครื่อง หรือมูลค่าประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท เป็นการเติบโตขึ้นประมาณ 5% ซัมซุงมีส่วนแบ่งการตลาดด้านมูลค่าแซงหน้าแชมป์เก่าอย่างโนเกียตั้งแต่เดือนพ.ย.2552 โดยซัมซุงมีส่วนแบ่งประมาณ 33% ในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดด้านจำนวนเครื่องยังเป็นอันดับ 2 ห่างจากโนเกียเล็กน้อย แต่เชื่อว่าเมื่อรวมยอดขายเดือนธ.ค.2552 แล้ว ซัมซุงจะเป็นที่ 1 ในส่วนแบ่งการตลาดทั้งมูลค่าและจำนวนเครื่องอย่างแน่นอน

ซัมซุงเชื่อว่าปัจจัยของความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากการปรับเปลี่ยนระบบช่องทางจำหน่ายมาเป็นขายเองแทนที่จะตั้งตัวแทนขายหลักในปี 2550 ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของซัมซุงดีขึ้นตามลำดับ จาก 7% ในปี 2550 เพิ่มเป็น 20% ในปี 2551 และเป็น 33% สิ้นเดือนพ.ย. 2552 และคาดว่าจะปิดตัวเลขปี 2552 ที่ส่วนแบ่งการตลาดด้านมูลค่าที่ 35% รวมทั้งซัมซุงยังมีสินค้าที่ตอบสนองทุกกลุ่มเป้าหมาย มีทั้งสินค้าที่สร้างมูลค่าอย่างมือถือตระกูลทัชโฟน และสมาร์ทโฟน รวมทั้งมือถือที่สร้างด้านยอดขายเครื่องอย่างระดับราคากลางถึงล่าง

สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปี 2553 ของซัมซุงประกอบด้วย 4 เรื่องหลักคือ 1.นวัตกรรมของโทรศัพท์มือถือที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์ ครบทุกเซ็กเมนต์และครบทุกราคา โดยจะมีโปรดักส์ไฮไลท์ในแต่ละกลุ่มและมีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีโดย เฉพาะสมาร์ทโฟนของซัมซุงจะรองรับระบบปฏิบัติการที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นวินโดว์ส โมบายล์ ลิโม แอนดรอยด์ และบาดาซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ซัมซุงพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับแอปพลิเคชันจากนักพัฒนาอิสระเพื่อให้ความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นไปตามแนวโน้มของโลกโทรศัพท์มือถือที่จะให้ความสำคัญกับเรื่อง Social Networking เพื่อการติดต่ออัพเดทไลฟ์สไตล์ของสังคมออนไลน์

2.เป็นผู้นำเรื่องแอปพลเคิชันและคอนเทนต์ที่หลากหลาย โดยซัมซุงจะเปิดซัมซุง แอปพลิเคชัน สโตร์ขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการใช้งานคอนเทนต์และแอปพลิเคชันร่วมกันระหว่างสินค้าของซัมซุงไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล ทีวี โน้ตบุ๊ก ซึ่งซัมซุงกำลังรอให้ตลาดประเทศไทยมีความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ เนื่องจากในไทยยังมีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ ซึ่งเปิดบริการปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าก็ยังไม่ถือว่าสายเกินไป

3.สร้างความเข้มแข็งในการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร โดยซัมซุงมีงบการตลาดประมาณ 8-10% ของยอดขาย หากปี 2553 ขายได้ 1หมื่นล้านบาท ซัมซุงจะมีงบการตลาดประมาณ 1 พันล้านบาทในการรักษาตำแหน่งเบอร์ 1 ในตลาดมือถือ ซึ่งซัมซุงจะใช้ทั้งแบรนด์ แอมบาสเดอร์ กิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ และ Above the line ให้เข้าถึงผู้บริโภควงกว้าง มีทั้งหนังโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์และการโรดโชว์ในจังหวัดต่างๆ และ4.พัฒนาช่องทางจำหน่ายให้แข็งแกร่ง ทำให้คู่ค้าแข็งแรงผ่านโปรแกรมซัมซุงชัวร์

นายมนาเทศกล่าวว่า เพื่อเป็นการฉลองที่ซัมซุงครองยอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทย ซัมซุงเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ชื่อรุ่นซัมซุงวัน ราคา 4,290 บาทเป็นทัชโฟนที่มุ่งเจาะกลุ่มใครก็ได้ที่อยากใช้ทัชโฟนของมือถือมีแบรนด์ รวมทั้งกลุ่มคนตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปทั้งหญิงและชาย ที่ไม่เคยใช้ทัชโฟนมาก่อน และกลุ่มคนในต่างจังหวัดที่มองหาทัชโฟนที่เชื่อใจได้ โดยในปีนี้ซัมซุงจะเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ 20-30 รุ่นทำให้ทั้งปี 2553 ซัมซุงจะมีมือถือทำตลาดประมาณ 50 รุ่น

“แนวโน้มตลาดโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน คอนเทนต์ และแอปพลิเคชันจะมาแรง ในต่างประเทศคนสนใจฮาร์ดแวร์น้อยกว่าซอฟต์แวร์ แต่ในประเทศไทยคนยังสนใจฮาร์ดแวร์อยู่ แต่ปลายปีซอฟต์แวร์จะมา และซัมซุงก็จะเป็นผู้ที่รวบรวมคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ต่างๆเข้ากับสินค้าซัมซุงทุกประเภท เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภค”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us