Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์8 มกราคม 2553
เซเว่น-อีเลฟเว่น สนใจขยายโมบายมาร์เกตติ้ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น

   
search resources

ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น, บมจ.
Minimart
7-Eleven




ช่องทางการค้าปลีกที่ทำให้ร้านสะดวกซื้อแบบขยายเครือข่ายเป็นลูกโซ่ผ่านการให้แฟรนไชส์อย่างร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นประสบความสำเร็จจนมีเครือข่ายการจำหน่ายขยายออกไปกว่า 36,842 แห่งทั่วโลก กระจายใน 18 ประเทศ แซงหน้าร้านอาหารฟาสต์ฟูดอย่างแมคโดนัลด์ประมาณ 1,000 ร้านค้า

ปัจจุบันเครือข่ายแฟรนไชส์และการกระจายแบบลูกโซ่ของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นที่ใหญ่ที่สุดคือในญี่ปุ่น สหรัฐฯ แคนาดา ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย และไทย เรียงตามลำดับ

ในบรรดาสินค้าที่เป็นของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นเอง มีอยู่ด้วยกันหลายอย่างรวมทั้ง สเลอร์ปี้ บิ๊ก กัลป์ ที่เริ่มเปิดตัวเมื่อปี 1980

ความสามารถทางการตลาดจนประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ทำให้ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นได้รับการจัดอันดับ หนึ่งในรายชื่อกิจการผู้ประกอบธุรกิจด้านแฟรนไชส์ใหญ่สุด 500 อันดับของโลก และยังอยู่ในอันดับ 38 ของกิจการแฟรนไชส์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด และครองอันดับ 2 ของกิจการแฟรนไชส์ที่มีต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุดของโลก และเมื่อปีที่แล้ว ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นได้รับการจัดอันดับที่ 1 ของกิจการแฟรนไชส์ในสถานีรถไฟใต้ดิน และยังครองอันดับ 1 มากว่า 15 ปีติดต่อกันแล้ว

ในขณะนี้ ผู้บริหารร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นในดัลลาส สหรัฐอเมริกา กำลังทดสอบตลาดเพื่อเตรียมขยายการตลาดแบบโมบายมาร์เกตติ้ง (mobile marketing) เป็นช่องทางการตลาดค้าปลีกอีกช่องทางหนึ่งที่จะเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใหม่ๆ

การทดสอบเพื่อประเมินผลตอบรับต่อต้นแบบโมบายมาร์เกตติ้งของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นครอบคลุมร้านค้าใน 200 `แห่ง ในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมปีนี้

แคมเปญที่ใช้ทดสอบเป็นการกำหนดให้ลูกค้าส่งข้อความทางเท็กส์ เมสเซจ คำว่า FAST หรือ RAPIDO ซึ่งเป็นภาษาสเปนของคำว่า FAST นั่นเอง ไปที่หมายเลข 72579 และหลังจากนั้นจะได้รับข้อความตอบกลับว่าลูกค้ารายนั้นๆ ได้รับคูปองที่จะไปรับบริการเครื่องดื่มฟรีที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น โดยโปรโมชั่นนี้จำกัดจำนวนเครื่องดื่มไว้ว่าจะได้เครื่องดื่มฟรีเพียงวันนี้ 1 แก้วต่อคนเท่านั้น

จากการรวบรวมผลการตอบรับของช่องทางใหม่ว่าลูกค้าสะดวกและยินดีใช้โมบายเป็นช่องทางการให้บริการหรือไม่ พบว่า เครื่องดื่มยอดนิยมที่ลูกค้าโปรดปรานสูงสุด 4 ประเภทคือ น้ำอัดลมแบบสเลอร์ปี้ เครื่องดื่มของบิ๊ก กัลป์แก้วใหญ่ กาแฟร้อนชนิดปรุงสด และไอซ์ คอฟฟี่

ก่อนหน้านี้ มีผลการศึกษาชี้ว่าในสหรัฐฯ นั้น จำนวนการส่งข้อความเท็กซ์ผ่านทาง SMS ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากกว่า voice call แล้ว โดยปริมาณการรับและส่งเท็กซ์ทางมือถือแต่ละเดือนอยู่ในระดับเฉลี่ยราว 357 ครั้ง เทียบกับปริมาณการรับและโทร.ออกทางโทรศัพท์ที่เป็นการสนทนาตามปรกติอยู่ที่ระดับ 204 ครั้งต่อเดือน

ดังนั้น การปรับกลยุทธ์ช่องทางการส่งเสริมการตลาดและการจำหน่ายของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นสู่ตลาดโมบาย มาร์เกตติ้งนี้ นอกจากข้อมูลสนับสนุนจากผลการสำรวจดังกล่าวแล้ว น่าจะมาจากเหตุผล 2 ประการ ประการแรก เป็นการทดสอบเพื่อทำให้แน่ใจว่าลูกค้ามีความสะดวก เต็มใจ และไม่รู้สึกว่ายุ่งยาก หรือว่าน่ารำคาญ หากจะมีการสั่งซื้อสินค้าทางช่องทางโมบายนี้ เพราะหากลูกค้าส่วนใหญ่รู้สึกว่าไม่สะดวกแล้ว ร้านก็คงไม่สามารถขยายช่องทางการตลาดแบบนี้ในระยะยาวได้

ประการที่สอง โมบายมาร์เกตติ้ง เป็นช่องทางการตลาดเพิ่มเติมของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่ม generation Y หรือ millennial generation ที่มีพฤติกรรมซึ่งไม่นิยมออกไปไหนโดยไม่มีโทรศัพท์มือถือ

กระบวนการสำคัญที่สุดของการดำเนินกิจกรรมการทดสอบตลาดครั้งนี้คือ เมื่อลูกค้าที่เข้าสู่การส่งข้อความได้รับการตอบรับว่าได้รับเครื่องดื่มฟรีที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น มีลูกค้ากี่รายที่ไปที่ร้านและแสดงข้อความที่ส่งผ่าน SMS ที่แสดงหน้าจอเป็น UPC Bar Code เพื่อที่จะสามารถสแกนได้ ณ จุดขาย และการทำงานด้วยระบบนี้สะดวกและเวิร์กแค่ไหน

การทำงานของการใช้ประโยชน์จากเท็กซ์ที่ฝากข้อความไว้บน SMS ของลูกค้าเพื่อสามารถนำไปรับเครื่องดื่มฟรีได้ ใช้ได้ทั้งกรณีที่ลูกค้าเข้าใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตและไม่เข้าสู่ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยพนักงานเก็บเงินหรือพนักงานในร้านจะสามารถเลือกโปรแกรมที่ดูรหัสที่เป็นโค้ดตัวเลขเพื่อทำการบันทึกรายการว่า การให้เครื่องดื่มฟรีนั้นๆ เป็นการส่งข้อความตอบรับรายการใดของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นได้เหมือนกัน ซึ่งประเด็นนี้เป็นการแก้ไขปัญหาในด้านของลูกค้าได้อย่างหนึ่ง

การทดสอบการทำงานของเท็กซ์ที่ฝากข้อความไว้ และการตอบรับของลูกค้าครั้งนี้ หากออกมาในทางบวกก็หมายความว่า 1.ลูกค้าเป้าหมายมีความเต็มใจที่จะทำการรับ-ส่งข้อความผ่าน SMS บนโทรศัพท์มือถือของตน เป็นช่องทางใหม่กับร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นอีกหลายๆ ครั้งในอนาคต โดยไม่เกิดความรำคาญหรือยุ่งยาก 2.ลูกค้าก็น่าจะสนใจเปิดรับข้อความที่เป็นข่าวสารที่ส่งไปจากร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นเป็นครั้งคราว เพื่อแจ้งโปรแกรมโปรโมชั่นพิเศษ และข้อเสนอพิเศษสำหรับสมาชิก และ 3.กรณีที่ลูกค้าเป้าหมายสนใจแคมเปญหรือโปรโมชั่นใดๆ ก็จะเกิดการเข้าร่วมการพิมพ์ข้อความเช่นคำว่า YES และส่งกลับไปยังร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นเพื่อร่วมกิจกรรมในลำดับต่อ ๆ ไป

จะเห็นว่า ความพยายามในการทำตลาดผ่านช่องทางโมบายของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นนี้ เป็นการสร้างกิจกรรมในการสื่อสารและการติดต่อกับลูกค้าเป้าหมายในลักษณะที่มีการโต้ตอบกันไป-มา ผ่านอุปกรณ์โมบายและเครือข่ายไร้สาย ซึ่งในกรณีของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นเลือกที่จะใช้การดำเนินกิจกรรมผ่าน SMS นั่นเอง

ที่จริง การตลาดบนระบบโมบายได้เริ่มเข้าสู่ความนิยมมาตั้งแต่การเพิ่มขึ้นของ SMS เมื่อต้นทศวรรษ 2000 โดยเฉพาะในภาคพื้นยุโรปและบางส่วนของภูมิภาคเอเชีย จากการที่ผู้ประกอบการเริ่มทำการรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ และส่งข้อความทั้งที่พึงประสงค์และไม่พึงประสงค์ไปหาลูกค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นทุกวัน

ในช่วง 2-3 ปีหลังนี้ SMS กลายเป็นช่องทางการโฆษณาในหลายภูมิภาคของโลกอย่างจริงๆ จังๆ และเริ่มมีการกำหนดขอบเขตความเป็นส่วนตัวที่พึงปฏิบัติของบรรดานักการตลาดทั้งหลายในการโฆษณาบนโมบายเหล่านี้ เมื่อปรากฏพฤติกรรมของการขายข้อมูลลูกค้าที่เป็นสมาชิกผ่านไปสู่บุคคลที่สาม โดยที่เจ้าของหมายเลขโทรศัพท์มือถือไม่รู้ตัวหรือไม่ได้อนุญาตก่อน

เฉพาะในยุโรป มีการส่งข้อความที่เป็นงานการตลาดบน SMS เฉลี่ยมากกว่า 100 ล้านครั้งในแต่ละเดือน และมีแนวโน้มว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ด้วย จนเป็นที่รำคาญของเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ต้องลบรายการข้อความขยะเหล่านี้ทุกวัน

กระนั้นก็ตาม การทดสอบของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นถือว่าเป็นขั้นตอนทางการตลาดที่มีความสำคัญมากที่ควรจะเป็นแบบอย่างของนักการตลาดทั้งหลาย หากไม่ต้องการให้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของตนและของแบรนด์ออกมาในทางลบแทนที่จะเป็นบวก จนถึงขั้นที่ลูกค้าไม่ยอมรับฟังข้อมูลข่าวสารของแบรนด์นี้อีกต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us