ฝ่ากลยุทธ์ 'โชคดีติ่มซำ' ปี '53 รุกตลาดกลุ่มเป้าหมายเต็มสูบ ต่อเนื่องผลวิจัยพบ 70% กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นลูกค้าวัยรุ่น-วัยทำงาน กว่าครึ่งอายุระหว่าง 18-24 ปี จึงปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ผ่านออนไลน์ Social Network 'Face Book' เป็นตัวนำ พร้อมสร้างการภักดีต่อแบรนด์ เซิร์ปความต้องการของลูกค้าแบ่ง 4 กลุ่มตามความถี่การใช้บริการ

สู่ปีที่ 5 ขององค์กรโชคดีติ่มซำในการขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์แฟรนไชส์ การขับเคลื่อนขององค์กรนี้โตเร็วและเห็นภาพชัดของการบริหารจัดการทั้งโครงสร้างองค์กร 3 บริษัทรับผิดชอบงานตามนโยบายภาพรวม

และในปี 2553 นี้เป็นปีแห่งการเริ่มต้นของการพลิกกลยุทธ์การตลาดแบบเดิมๆ เข้าสู่กระแสออนไลน์ ผ่าน Social Network ด้วยการนำผลวิจัยกลุ่มลูกค้าพบ 70% เป็นกลุ่มลุกค้าวัยรุ่น วัยทำงาน ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมี 40%-50% มีอายุระหว่าง 18-24 ปี ที่ชัดเจนในสังคมโลกออนไลน์ในทุกด้าน ทั้งการรับรู้ข่าวสาร การติดต่อ การซื้อขาย ทำให้โชคดีติ่มซำไดปรับกลยุทธืการตลาดใหม่สอดคลอ้งกลุ่มเป้าหมายใน Face Book

ธีรภพ ศิระประภาธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชคดี อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ให้บริการแฟรนไชส์ 'โชคดีติ่มซำ' ให้ข้อมูลว่า ในปี 2553 นี้โชคดีติ่มซำจะเน้นการทำตลาดผ่าน Social Netwoke โดยใช้ Face Book เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด เพื่อสอดคล้องและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก

ปัจจุบันใน Face Book ของโชคดีติ่มซำ มี Fan Page กว่า 2,000 คนซึ่งเปิดตัวมาได้เพียงเดือนเศษๆ เท่านั้น และในกลุ่มดังกล่าวมีเครือข่ายเพื่อนรวมทั้งหมดแล้วกว่า 130,000 คน ทั้งนี้เพื่อมุ่งสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเจาะลึกพฤติกรรมและเป็นการสร้างแบรนด์การรับรู้มากกว่ามุ่งไปที่การขาย

นอกจากนี้ยังมี Royalty Program เพื่อทำกิจกรรมกับสมาชิกปัจจุบันมีฐานสมาชิก 30,000 คน โดยแบ่งสมาชิกออกเป็น 4 กลุ่มตามความถี่ของการเข้ามาใช้บริการ เพื่อทำกิจกรรมตามความสนใจเพาะกลุ่ม เช่น บางกลุ่มนิยมชา อาจจัดเป้นสนทนาวงชาหรือชิมชารสชาติใหม่ๆ มาให้ได้ทดลอง

และที่ผ่านมากิจกรรมลักษณะนี้ได้มีการทำไปบ้างแล้ว เช่น ตามรอยอารยธรรมจีน เชิญเหล่าซือมาให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนในแง่มุมต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี

'ที่ผ่านตลอดทั้งปีบริษัทขับเคลื่อนด้วยแบรนด์และงานบริหารจัดการภายในงานบัญชี รวมถึงการสร้างความเข้าใจตรงกันของพนักงานค่านิยมหลักองค์กรที่ว่าความสำเร็จของแฟรนไชซีคือความสำเร็จของเรา'

นอกจากกลยุทธ์ทางการตลาดเหล่านี้เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและสร้างรอยัลตี้แล้ว ในส่วนของการขยายสาขาการลงทุนนั้นในปี 2553 ได้ปรับลดลง 30% จากเงินลงทุนเดิม 2-3 ล้านบาท เพราะผู้ที่ต้อกงารทำธุรกิจส่วนใหญ่เป็นคนทำงานบริษัทมาก่อนซึ่งค่อนข้างมีเงินทุนจำกัดจึงปรับลดเงินลงทุนสอดคล้องกลุ่มเป้าหมายและรับกับภาวะเศรษฐกิจที่คนชะลอการลงทุน

รวมทั้งการสนับสนุนจากแหล่งเงินทุนคือเอสเอ็มอีแบงก์ ในเงื่อนไขที่ผู้ลงทุนหรือแฟรนไชซีสามารถแบ่งจ่ายค่าแฟรนไชฟี 650,000 บาท ระยะเวลาการแบ่งจ่าย 5-7 ปี

สำหรับแฟรนไชซีรายเดิมนั้น บริษัทได้ปรับปรุงระบบการสั่งสินค้าใหม่สามารถสั่งสินค้าผ่านเว็บไซต์ และการสั่งสินค้า ที่จะมีการจัดส่งทุกวันให้กับแฟรนไชซีที่ต้องการสินค้ากรณ๊ที่สินค้าระหว่างวันนั้นไม่พอจำหน่าย การจัดการงานภายในนี้เพื่อลดขั้นตอนการทำงานให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น เพื่อให้แฟรนไชซีใช้เวลาเพื่อการบริหารลูกค้าและการบริการที่ดีขึ้น