Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน4 มกราคม 2553
ทีแอลเอ็มชงแผนผู้ถือหุ้น ปัดฝุ่นบัตร-จ้างเอเจนซี่-ชูดิจิตอล             
 


   
search resources

Tourism
ไทยจัดการลองสเตย์, บจก.




ทีแอลเอ็ม ชง 3 ประเด็นเสนอผู้ถือหุ้น ชูกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ปัดฝุ่นบัตรไดมอนพร็อพเพอร์ตี้ และจัดจ้างเอเจนซี่มือทองช่วยจัดจำหน่าย ตั้งเป้าปีขาลขอโต 5-10% ส่วนปีที่ผ่านมายอมรับยอดวูบ50% ระบุปีนี้มีหวัง เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว กำลังซื้อเริ่มตื่น แต่ปัจจัยลบยังคงเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศไทย

นางปิยาพัชร สุบรรณ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด หรือ ทีแอลเอ็ม ผู้ให้บริการบัตรสมาชิกไทยลองสเตย์ สำหรับผู้สูงอายุชาวต่างชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้( 5ม.ค.53) เตรียมนำเสนอแผนการตลาดของทีแอลเอ็ม ประจำปี 2553 โดยตลอดปีออก 2-3
แคมเปญ เพื่อกระตุ้นยอดสมาชิก นอกจากนั้นจะเน้นทำงานใกล้ชิดกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)

ทั้งนี้ประเทศไทยมีศักยภาพในการต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะกลุ่มพำนักระยะยาว(ลองสเตย์) แต่ ทีแอลเอ็ม ไม่สามารถดำเนินการได้ตามลำพัง แต่จะต้องประสานงานและขอความช่วยเหลือจาก 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงการท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

สำหรับปี 2552 จำนวนสมาชิกของ ทีแอลเอ็ม ลดลงจากปี 2551 เกือบ 50% แต่ผลประกอบการก็ยังพอมีกำไรอยู่บ้างเล็กน้อย โดยสมาชิกกว่า 60-70% เป็นสมาชิกเก่าที่ต่ออายุบัตร เพราะ บัตร ทีแอลเอ็มมีอายุ 1 ปี ซึ่งมี 3 ประเภท ได้แก่ บัตรเงิน บัตรทอง และบัตรแพลทินัม

แผนการตลาดปี 2553 ที่จะเสนอต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมครั้งนี้ มี 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การออกสินค้าใหม่ควบคู่ไปกับการเปิดตัวบัตรไดมอนด์พร็อพเพอร์ตี้ การจ้างบริษัทเอเจนซี่เพื่อจัดจำหน่ายบัตรในต่างประเทศ และ การใช้กลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง

โดยในส่วนของบัตรไดมอนด์พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นการนำโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วมาปัดฝุ่น นำเสนอขายสมาชิกให้แก่ผู้สนใจ เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว กำลังซื้อก็เริ่มกลับมาแล้ว ซึ่งหากตัดสินใจทำโครงการนี้คงต้องของบประมาณจาก ททท. เพื่อว่าจ้างเอเจนซี่ที่ทำตลาดเก่งจะมาเป็นตัวแทนขาย โดยสมาชิกผู้ถือบัตรนี้ จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดในการซื้อบ้าน และ รถยนต์ ซึ่งหากที่ประชุมฯเห็นชอบ ก็คงต้องไปเจรจากับคู่ค้าเดิมที่เคยเจรจาไว้ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ บริษัทรถยนต์

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะต้องดำเนินการแน่นอน คือกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เพราะเทรนด์ของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เน้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ในการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าเป้าหมายของทีแอลเอ็ม ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นคนทำงานที่เกษียณอายุ ดังนั้นจึงถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและมีหน้าที่การงานดี รู้จักประเทศไทยดีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องทุ่มงบไปกับการโฆษณาอื่นๆ แต่ ใช้ช่องทางเว็บไซต์ในการนำข้อมูลถึงตัวผู้บริโภคให้มากที่สุดและเร็วที่สุดก็เพียงพอ ซึ่งวิธีนี้จะประหยัดงบประมาณ และยังสอดคล้องกับนโยบายของ นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการททท.คนใหม่ด้วย

“จากการทำตลาดของทีแอลเอ็มมา 4-5 ปี ทำให้รู้จักพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุเป็นอย่างดี ว่า เขามีโจทย์ของความต้องการอยู่แล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์นำ เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุจะเรียบง่ายไม่หวือหวาเหมือนกลุ่มสมาชิกของอีลิทการ์ดซึ่งเป็นนักธุรกิจ เพียงแต่เราต้องเน้นเรื่องการบริการ

อำนวยความสะดวกและให้บริการที่อบอุ่นก็เพียงพอ ซึ่งแผนงานในปีนี้ ทีแอลเอ็มจะนำข้อมูลหาการให้บริการเข้าสู่สังคมออนไลน์ให้มากที่สุด โดยนำเสนอโปรดักส์ผ่านสังคมออนไลน์”

อย่างไรก็ตาม ในปี 2553 ทีแอลเอ็มตั้เงป้าเติบโต 5-10% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย และ กำลังซื้อในตลาด โดยสมาชิกทีแอลเอ็ม 70% เป็นชาวสแกนดิเนเวีย 20% เป็นชาวญี่ปุ่น และ ที่เหลืออีก 10% มาจากหลากหลายประเทศ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us