|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ปทุมดีไซน์" ฟุ้งขึ้นแท่นคู่แข่งเบอร์1ตลาดรับสร้างบ้าน พร้อมทุ่ม 20ล้านบาทเร่งปั้นแบรนด์-ยอดขาย เผยแผนปี53บุกภาคใต้เปิดเพิ่ม5สาขาแฟรนไชส์ รุกจับกลุ่มผู้ประกอบการบริษัทก่อสร้างในพื้นที่หวังสร้างการรับรู้ในแบรนด์ "PD" ผ่านลูกค้าแฟรนไชส์ ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 450-600ล้านบาท
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด (PD House) กล่าวว่า แผนระยะยาวของบริษัท จะเน้นการสร้างยอดขาย และแบรนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือการสร้างแบรนด์พร้อมกับการขยายตลาดควบคู่กันไป เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าไปพร้อมๆกับการเติบโตของยอดขายในอนาคต และเพื่อก้าวขึ้นเป็นคู่แข่งสำคัญของเจ้าตลาดบริษัทรับสร้างบ้าน
“การก้าวขึ้นไปเป็นคู่แข่งของเบอร์หนึ่งในวงการรับสร้างบ้าน ไม่ใช่การเข้าไปแข่งขันกันด้านราคา หรือการเข้าไปชิงตลาดในพื้นที่เดียวกันกับบริษัทที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ในปัจจุบัน แต่บริษัทจะแข่งในเรื่องของการสร้างแบรนด์ ให้ชื่อของบริษัทได้รับการยอมรับ และเข้าไปเป็นที่ยอมรับของลูกค้า เช่น เดียวกับเบอร์1ของตลาด และมียอดขายที่ใกล้เคียง หรือแข่งขันกับเจ้าตลาดได้”
โดยรูปแบบการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้และสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนระยะยาวนั้น บริษัทจะเน้นในเรื่องการขยายสาขา ทั้งในส่วนของสาขาที่บริษัทลงทุนเอง และขยายสาขาแฟรนไชส์ ล่าสุดในช่วงปลายเดือน ธ.ค.52 ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดสาขาแฟรนไชส์เพิ่มอีก2สาขา คือ สาขาพิษณุโลก และสาขาเชียงใหม่ ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีสาขาบริษัทรับสร้างบ้านที่เปิดให้บริการแล้วรวมทั้งสิ้น 15 สาขาแบ่งเป็นสาขาแฟรนไชส์ 6 สาขา และ สาขาที่บริษัทลงทุนเอง 9 สาขา
ทั้งนี้ ในปี53นี้ บริษัทจะขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่ลงทุนเอง 1สาขาในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อเป็นศูนย์กลางของการให้บริการและตรวจสอบมาตรฐานสาขาแฟรนไชส์ในภาคใต้ สาขาดังกล่าวนั้น หากผู้ประกอบการท้องถิ่นที่จองซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาขณะนี้ไม่ผ่านคุณสมบัติที่บริษัทวางไว้ PDก็จะเป็นผู้ลงทุนเอง แต่หากลูกค้าผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติก็จะมีการเปิดสาขาย่อย เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการตรวจสอบคุณภาพแฟรนไชส์ในภาคใต้แทน
ส่วนที่เหลืออีก 4 สาขา จะเปิดเป็นสาขาแฟรนไชส์ ซึ่งจะเปิดอยู่ในภาคใต2-3สาขา ส่วนที่เหลือจะเปิดใน กทม. 1 สาขา และภาคอีสาน 1 สาขา ทั้งหมดมีลูกค้าจองซื้อแฟรนไชส์เข้ามาหมดแล้ว เช่น สาขาภูเก็ต คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาสแรกนี้ สาขากระบี่ สาขาหาดใหญ่ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้ทั้ง 5 สาขา เปิดให้ได้ในไตรมาสที่ 2ของปี53 เพื่อให้สามารถผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 20 ล้านบาทต่อสาขา ในขณะเดียวกัน PD ได้ตั้งงบประมาณด้านการตลาดในปีนี้ ประมาณ 20ล้านบาท ซึ่งจะเน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ โฆษณาและการทำกิจกรรมการตลาดต่างๆ
“ในปีที่ผ่านมา PD เป็นเพียงหนึ่งในบริษัทไม่กี่รายที่ทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงปลายปีมีลูกค้าที่สนใจสร้างบ้านเข้ามาติดต่อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ในขณะที่รายอื่นๆ ส่วนใหญ่จะจัดกิจกรรมการตลาดและลดงบการโฆษณาลง ทำให้การตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องในปีนี้ จึงยังเดินหน้าทำประชาสัมพันธ์ต่อ ในขณะเดียวกันการเข้าถึงลูกค้าก็จะกว้างขึ้น จากการเปิดรับผู้ประกอบการในพื้นที่เข้ามาเป็นสมาชิกแฟรนไชส์ ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเป็นบริษัทในพื้นที่รู้จักกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี เมื่อนำแบรนด์ PD ไปใช้จะยิ่งทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ และยอมรับในแบรนด์PD ได้เร็วขึ้น”
นายสิทธิพร กล่าวว่า จากการส่งรายงานการประเมินตลาดและมูลค่าการสร้างบ้านของลูกค้าในปี 53 ของผู้จัดการสาขาของบริษัทในทุกพื้นที่ พบว่าค่าเฉลี่ยยอดการสร้างบ้านในปี 53 ต่อสาขาอยู่ที่ 35-40 ล้านบาท หากแต่ละสาขาที่เปิดให้บริการแล้วสามารถทำยอดได้ตามเป้าที่ประเมินไว้ จะทำให้ในปีนี้บริษัทมีรายได้ประมาณ 450-600 ล้านบาท แต่ด้วยปัจจัยลบที่ต้องระวัง บริษัทได้ปรับประมาณการยอดขายต่อสาขาลงเหลือ 30-35ล้านบาท หรือจะทำให้มียอดขายรวมอยู่ที่ 450-500 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น บริษัทประมาณการว่าในปีนี้ตลาดรับสร้างบ้านจะขยายตัวดีกว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้น ในเบื้องต้นบริษัทจะยังวางไว้เติบโตของรายได้ไว้ที่ 450-600 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวจะมาจากสาขาที่เปิดให้บริการแล้ว 15 สาขาแรก 450-500ล้านบาท และมาจากสาขาที่เปิดให้บริการใหม่ในช่วงไตรมาส 2 อีก 5 สาขา ประมาณ 100ล้านบาท
อัพเดดล่าสุด 1/5/2010 11:26:10 AM โดย Chaotip Kleekhaew
หมายเหตุ เส้นแบ่งข่าว หมายถึง ข่าวถูกแบ่งเป็นหน้า ๆ
keyword :
Close
|
|
|
|
|