|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แฮปปี้จากดีแทคเขย่าตลาดรับศักราชใหม่ ด้วยการส่งซิมกันแดด SPF29 สตางค์ลงตลาด คิดค่าโทร.ในเครือข่าย 29 สตางค์ตั้งแต่นาทีแรก 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น เอาใจลูกค้าหญิงชอบโทร. ประกาศใช้กลยุทธ์เซ็กเมนต์จิ้ว เจาะลึกลงกลุ่มลูกค้าเล็ก มัดใจด้วยราคาถูก ถูกใจ เชื่อปีนี้ตลาดอิ่มตัวเต็มที่ คาดทั้งปีมีลูกค้าใหม่แค่ 8 แสนราย เน้นทำการตลาดนอยวอยซ์พ่วงสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เชื่อมอินเทอร์เน็ต หนุนรายได้เพิ่มอีกทาง
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) หรือดีแทค เปิดเผยว่า แฮปปี้ได้ออกซิมแรกของปีนี้ชื่อ “ซิมกันแดด SPF29 สตางค์” ตั้งแต่นาทีแรกช่วงเวลา6โมงเช้าถึง 6โมงเย็น เฉพาะเครือข่ายดีแทค ส่วนนอกเวลาและนอกเครือข่ายคิดค่าบริการนาทีละ 1.29 บาท SMS นาทีละ 3 บาท อินเทอร์เน็ตนาทีละ 1 บาท
ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวนับว่าเป็นการเปิดศักราชด้วยราคาค่าโทร.ต่ำของดีแทค โดยซิมใหม่นี้จะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงเป็นหลัก เนื่องจากพบว่าผู้หญิงมีการใช้งานสูง รวมทั้งมีมีปริมาณการใช้งานคงที่ และเป็นกลุ่มที่ตอบรับต่อโปรโมชัน รวมทั้งผู้ใช้กลุ่มมีรายได้ต่อเลขหมายต่อเดือน ( ARPU) ในการใช้งานเฉลี่ย 266 บาท ซึ่งสูงกว่าARPUในกลุ่มเพศชาย
ดีแทคตั้งเป้าซิมกันแดด SPF29 สตางค์ ไว้ว่าจะมีลูกค้าเดือนละ 1 แสนราย และปีนี้ตั้งเป้าจะมีลูกค้าใหม่สุทธิเข้ามาในระบบประมาณ 8 แสนราย เนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือกับจำนวนประชากรในประเทศใกล้ถึง 100 % แล้ว
สำหรับปีที่ผ่านมาแฮปปี้มีลูกค้าใหม่สุทธิในระบบกว่า1 ล้านราย ส่วนฐานลูกค้ารวมพรีเพด และโพสต์เพด สิ้นปี 2552 น่าจะอยู่ที่ 21 ล้านราย
นายธนากล่าวว่า ซิมกันแดด SPF29 สตางค์ เป็นผลผลิตจากแนวคิดในการทำการตลาดด้วยกลยุทธ์แนวใหม่ที่เรียกว่าเซ็กเมนต์จิ้ว (Micro segmentation) หรือการทำตลาดลงลึกในกลุ่มลูกค้าที่เล็กลงจากเดิม จะเน้นทำตลาดในเซ็กเมนต์ใหญ่ด้วยดูจากอายุ หรืออาชีพ เป็นหลัก
โดยกลยุทธ์ดังกล่าว แฮปปี้จะใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการทำการตลาดปีนี้ เนื่องจากพบว่ากระแสของตลาดมุ่งไปสู่ความถูกใจของลูกค้าที่มีเซ็กเมนต์เล็กลงเรื่อยๆ ดังนั้น ปีนี้การออกแคมเป็นที่มีราคาถูกและถูกใจลูกค้า ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีแคมเปญเจาะเซ็กเมนต์จิ้วอย่างน้อย 5 แคมเปญ
ในส่วนการทำตลาดของแฮปปี้ปีนี้ จะใช้ข้อมูล ( Data Mining) ที่บริษัทได้ลงไปในปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าแบบตัวบุคคล ซึ่งจะช่วยให้สามารถเสนอโปรโมชันที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าในกลุ่มย่อยๆได้มากขึ้น
นอกจากนี้ การนำกลยุทธ์ เซ็กเมนต์จิ้ว ด้วยการนำข้อมูลจาก Data Mining มาใช้จะทำให้บริษัทสามารถประหยัดงบการทำตลาดมากขึ้นเนื่องจากสามารถเสนอแคมเปญที่ต้องตามความต้องการลูกค้าได้ตรงกลุ่ม เช่นการทำการตลาดของ ซิมกันแดด SPF29 สตางค์ ซึ่งเจาะกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก ก็จะใช้วิธีโฆษณาทางโทรศัพท์เฉพาะรายการผู้หญิง แทนการโฆษณาตลอดทั้งวัน หรือทำตลาดผ่านร้านเครื่องสำอางเพราะลูกค้ากลุ่มดังกล่าวนิยมช็อปปิ้งเครื่องสำอาง ซึ่งตอบโจทย์นโยบายของบริษัทที่ต้องการลดงบการตลาดลง
ซึ่งปีนี้คาดว่างบน่าจะอยู่ที่ 700-750 ล้านบาทลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ใช้งบการตลาดไป 800 ล้านบาท และปี 2551 ใช้งบทำการตลาดถึง 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ปีนี้แฮปปี้จะเน้นลดยอดลูกค้าออกจากระบบให้เหลือ 5 % ต่อเดือน จากปัจจุบันมียอดลูกค้าที่ออกจากระบบอยู่ที่ 6 % ต่อเดือน โดยจะเน้นหาลูกค้าที่อยู่ในระบบได้นาน
นายธนากล่าวว่า ด้วยจำนวนลูกค้าใหม่ในตลาดที่เหลือน้อยลง ทำให้ต้องใช้กลยุทธ์ราคาเพื่อแย่งลูกค้าจากคู่แข่งทำให้บริษัทต้องหันไปเน้นการทำตลาดด้วยนอนวอนซ์เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางด้วยการทำโปรโมชันร่วมกับการขายเครื่องสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ และการทำตลาดขายบริการนอนวอยซ์ร่วมกับอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์ด้วยเครือข่ายมือถือ อย่าง USB แอร์การ์ด เป็นต้น
ปัจจุบันนอนวอยซ์สร้างรายได้ให้บริษัทคิดเป็น 10-12 % ของรายได้รวม และคาดว่าปีนี้รายได้จากบริการดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ผู้บริหารดีแทคยังมองว่าตลาดมือถือจะหันไปแข่งขันด้านโทร.ทางไกลระหว่างเทศ (IDD) มากขึ้น โดยจะเห็นได้จาก บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (หมาชน) หรือเอไอเอส มีการหันค่าบริการลดลง และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด มีการแจกซิมฟรีบริเวณสนามบินให้กับนักท่องเที่ยว สำหรับดีแทคเองจะไม่มีการโปรโมตโปโมชันโทร.ทางไกลต่างประเทศในวงกว้าง แต่จะเน้นประชาสัมพันธ์ไปถึงลูกค้าโดยตรงให้โทร.ผ่านเลขหมายโทร.ทางไกล 004 ของดีแทค เพราะปัจจุบันลูกค้ามือถือยังถูกจำกัดให้ใช้งานโทร.ทางไกลต่างประเทศผ่านเลขหมายของระบบที่ตัวเองใช้งาน ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดนนี้ยังมีมาจิ้นสูงอยู่
อย่างไรก็ตาม ดีแทคมองว่าหากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เปิดเสรีให้โทร.ทางไกลต่างประเทศ โดยให้ผู้ใช้บริการสามารถโทร.ผ่านเลขหมายใดก็ได้ จะทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดนี้อย่างเต็มที่ และราคาจะปรับตัวลดลงไปอีกมาก
|
|
|
|
|